การเรียนรู้เรื่อง Health LIteracy เป็นเรื่องใหม่ของพวกเรา เราผ่านวันที่เป็นลูกศิษฐ์ที่อบรมเรื่องหลักการ Health Literacy มาแล้ว ครั้งนี้ถึงเวลาที่อาจารย์มาตามดูความก้าวหน้าของลูกศิษฐ์ล่ะ ….การเชิญอาจารย์รศ.ดร.ขวัญเมือง แก้วดำเกิงมาเป็นวิทยากร ในแต่ละครั้ง อาจารย์จะไม่ปล่อยให้หมดไปกับการไม่ได้อะไร อาจารย์จะสอนให้เข้าใจ ลงมือทำเองได้ เป็นวิทยากรเองได้ …อาจารย์เลยให้โจทย์ว่า “อาจารย์จะมาเป็นที่ปรึกษาให้ แล้วทีมดำเนินการสอนกันเอง” ……
อึ้งกันค่ะ จะไหวมั้ยนะ แต่ก็รู้สึกดีที่ความกระตือรือล้นของทุกคนต้องเกิด เพราะไม่ใช่อบรมไปแล้ว ก็งั้นๆ แต่การอบรมนี้คุณต้องทำเองได้ด้วย …เลยต้องมาวางแผนร่วมกันตั้งแต่ ใครที่ฟังการอบรมมาแล้วเข้าใจที่สุด ในเรื่องอะไร แล้วเลือกคนนั้นพร้อมเพื่อนอีก 1 คนให้ลงประจำฐานในเรื่องที่ตนเองถนัด จะได้มั่นใจและไม่เครียดกับประสบการณ์ลงภาคสนามครั้งแรก
….ได้สมาชิกแต่ละฐานมาแล้ว…ฐานเข้าถึง ฐานเข้าใจ ฐานไต่ถาม ฐานตัดสินใจ และฐานนำไปใช้
ถึงเวลาทบทวน concept กันอีกรอบ ให้อาจารย์ฟัง เพื่อความเชื่อมั่น จากนั้นแต่ละฐานไปออกแบบกิจกรรมที่จะต้องสอนให้คนที่มาเข้าฐานเข้าใจเนื้อหาภายในเวลา 20 นาที
…..แต่ละฐานจึงมาตกลงโจทย์กันว่า เราจะใช้เรื่องอะไรในการเวียนฐาน เพราะผู้เข้าอบรมมาจากหลากหลายกลุ่มงานทั้งแม่และเด็ก วัยเรียนวัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และงานสิ่งแวดล้อม…จึงได้กำหนดโจทย์ให้ตรงตามผู้เข้าอบรม ซึ่งรูปแบบนี้ภาระจะอยู่ที่วิทยากรประจำฐาน ที่ต้องจำให้ได้ว่าโจทย์ของกลุ่มวัยนั้นๆ คือเรื่องอะไรในการฝึกทักษะการเข้าถึง การเข้าใจ การไต่ถาม การตัดสินใจ และการนำไปใช้
…..บทเรียนครั้งนี้พบว่าเมื่อเราให้วิทยากรประจำฐานคุมแค่เรื่องเดียว ก็ต้องสอนหลายรอบตามที่ผู้เข้าอบรมเวียนฐานมา วิทยากรก็จะเชี่ยวชาญในฐานนั้นอย่างลึกซึ้งมากขึ้น เห็นความมั่นใจของแต่ละคนที่ลงภาคสนามสอนจริง ก็แอบปลื้มทีมงานอยู่ แต่การใช้วิธีนี้ในการเวียนฐานเรียนรู้ก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน เพราะพอจัดอบรมครั้งต่อไป ความมั่นใจที่จะให้สอนทุกฐาน ทั้ง 5 ฐานในทีมเดียวก็ยังไม่มั่นใจ ….ส่วนตัวผู้เข้าอบรมเนื่องจากการเรียนรู้ไม่ได้เริ่มจากฐานเข้าถึงมาก่อน ก็จะลำดับร้อยเรียงการเรียนรู้ไม่ค่อยได้ …..จึงต้องออกแบบกันใหม่อีกครั้ง (แล้วจะเล่าให้ฟังในครั้งหน้าค่ะ)
การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการลงมือทำ อย่างแท้จริง
ไม่มีความเห็น