รายงานความสุขโลก ๒๕๖๕ (๑) บทที่ ๕ (๒) เรื่องรากฐานทางชีววิทยาของความสุข บอกว่ามีหลักฐานจากงานวิจัยในคู่แฝด บอกว่าคนบางคนมีรากฐานทางพันธุกรรมให้เป็นคนสุขง่าย และพื้นฐานทางพันธุกรรมจะมีผลให้ผู้นั้นเลือกอยู่ในระบบนิเวศ (สภาพแวดล้อม) ที่เอื้อให้มีความสุข รวมทั้งพฤติกรรมของบุคคลมีผลเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ที่เอื้อหรือปิดกั้น การมีความสุข
ผลการวิจัยบอกว่า ปัจจัยที่ทำให้คนเรามีความสุขต่างกันเป็นปัจจัยด้านพันธุกรรมประมาณร้อยละ ๓๐ - ๔๐ อีกร้อยละ ๖๐ - ๗๐ เป็นปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม และที่สำคัญ อิทธิพลของพันธุกรรมต่อการมีความสุขในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ไม่ใช่เป็นปัจจัยที่คงที่อย่างพันธุกรรมที่กำหนดสีผิว
การแต่งงาน มีผลต่ออิทธิพลของพันธุกรรมเกี่ยวกับความสุข คนที่ยังไม่แต่งงานพันธุกรรมมีผลต่อความสุขร้อยละ ๕๑ ในชาย ร้อยละ ๕๔ ในหญิง ตัวเลขนี้ในคนแต่งงานแล้วคือ ๔๑ และ ๓๙ แสดงว่า การแต่งงานมีผลลดความสำคัญของอิทธิพลของพันธุกรรมในการกำหนดความสุข แหม เรื่องนี้ไม่ต้องวิจัยเราก็รู้อยู่แล้วว่า การแต่งงานสร้างสภาพแวดล้อม หรือปฏิสัมพันธ์ที่ให้ความสุข
การศึกษาทางพันธุศาสตร์โมเลกุล และจีโนมที่ซับซ้อน เท่าที่มีในปัจจุบัน ให้ข้อสรุปว่า ไม่มี ยีนแห่งความสุข ไม่ว่าจะเป็นยีนหนึ่งยีน หรือหลายๆ ยีนประกอบกัน กล่าวใหม่ได้ว่า พันธุกรรมที่ส่งผลต่อการเป็นคนสุขง่ายนั้น เป็นเรื่องของปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างยีนจำนวนมาก
การศึกษาขนาดของส่วนต่างๆ ของสมอง เท่าที่ทำได้ในปัจจุบัน ไม่พบความสัมพันธ์กับความเป็นคนสุขง่าย
สรีรวิทยาในร่างกาย อันได้แก่ระดับสารสื่อประสาท ระดับฮอร์โมน และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน มีส่วนสัมพันธ์กับสุขภาวะ แต่การศึกษาลงรายละเอียดแม้จะมีบางรายงานระบุว่าระดับของสารบางอย่างเกี่ยวข้องกับการมีความสุข หรือขาดความสุข แต่ยังขาดผลการวิจัยที่ยืนยันความน่าเชื่อถือ
เอกสาร (๒) เขียนแบบวิชาการ มีรายละเอียดผลงานวิจัยมากมาย แต่ผมสรุปมาให้คนที่ไม่ใช่นักวิชาการอ่าน ท่านที่สนใจจริงๆ โปรดอ่านจากต้นฉบับ
แม้ว่าผลการศึกษาทางพันธุกรรมหลากหลายแนวทางเท่าที่มีในปัจจุบัน ยังไม่พบปัจจัยทางพันธุกรรมสำคัญที่จะนำมาใช้บอกวิธีการสร้างสภาพระบบนิเวศที่ชักนำความสุขแก่คนส่วนใหญ่ หรือแก่คนที่มีพันธุกรรมบางแบบได้ ผู้เขียนบทความก็ยังบอกว่า เขาเชื่อว่า ความรู้ด้านปัจจัยทางพันธุกรรม จะช่วยเป็น game changer ในการดำเนินการเพื่อความสุขของผู้คน ช่างเป็นวิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์เสียจริง
พวกเราชาวพุทธ เชื่อในอริยสัจ ๔ และความเข้าใจที่เกิดแห่งทุกข์
ความทุกข์เกิดที่จิต เพราะทำผิดเรื่องผัสสะ
ความทุกข์จะไม่โผล่ ถ้าไม่โง่เรื่องผัสสะ
ความทุกข์เกิดไม่ได้ ถ้าเข้าใจเรื่องผัสสะ พุทธทาสภิกขุ (๓)
ผมเองเชื่อเรื่องชีววิทยาของความสุข ในส่วนที่เชื่อมโยงกับการออกกำลังแบบ แอโรบิก ที่ผมวิ่งออกกำลังทุกเช้า ตั้งแต่อายุ ๔๐ ถึง ๗๕ ต่อด้วยการเดินออกกำลังทุกเช้าตั้งแต่อายุ ๗๕ (เพราะเข่าเสื่อม) มาจนปัจจุบัน ว่าช่วยสร้างชีววิทยาหรือสรีรวิทยาแห่งความสุขขึ้นภายในร่างกายของผม ช่วยให้ผมมีสุขภาวะที่ดียิ่งอยู่ในปัจจุบัน
รายงานความสุขโลก บทที่ ๕ (๒) ทบทวนความรู้เรื่องชีววิทยาของความสุข โดยไม่ได้ทบทวนเรื่องชีววิทยาของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่ส่งผลต่อสุขภาวะ ผมจึงขอนำมาเพิ่มเติม ว่ามีงานวิจัยจำนวนมาก พิสูจน์ว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ส่งผลต่อความสุข หรือสุขภาวะ (๔)
วิจารณ์ พานิช
๖ ส.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น