วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ผมเข้าประชุม ออนไลน์ เพื่อให้ความเห็นต่อการดำเนินโครงการวัด effect size ของผลกระทบของโครงการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ และรู้สึกลิงโลดที่ผลการประชุมนำสู่การพัฒนาเครื่องมือวัด ES (effect size) สำหรับโรงเรียนใช้ประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน
เป็นที่มาของชื่อบันทึกนี้
ผมเสนอแนวคิดโรงเรียนหมุนวงจรการเรียนรู้ของตนเองเช้าวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงแรม MIDA จังหวัดนครปฐม ในวงประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภาคีพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ของจังหวัดราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และเพชรบุรี
มาวันนี้ เห็นโอกาสหนุนให้มีการสร้างเครื่องมือหนุนการหมุนวงจรเรียนรู้ของโรงเรียน คือการวัด ES ของผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน ที่ต้องวัดครบ VASK ต่อทีมนักวิชาการด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ นำโดย รศ. ดร. ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง
เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย โรงเรียนไทยต้องมีสมรรถนะในการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานประจำ ที่เรียกว่า experiential learning โดยมีผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนต้องวัดผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนของตนเองเป็น และวัดทุกภาคการศึกษา
วัดแล้ววิเคราะห์ผลเป็น วิเคราะห์ออกมาเป็น Effect Size (ES) และใช้เป็น feed forward เพื่อพัฒนาวิธีจัดการเรียนการสอน
เท่ากับเป็นการหมุนวงจรการเรียนรู้ของทีมงานในโรงเรียน ด้วยเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เรียนรู้เพื่อพัฒนางานและผลงานของโรงเรียน ภายใต้อุดมการณ์ โรงเรียนคุณภาพสูง
โดยทีมงานของโรงเรียนรู้จักเรียนรู้ในระดับ conceptualization ด้วย Kolb’s Experiential Learning Cycle และหมุนวงจรเรียนรู้ไปถึงระดับ DLL – Double Loop Learning (๑)
วิจารณ์ พานิช
๕ ส.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น