สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จัดงานฉลองอายุครบ ๓๐ ปี ในหัวข้อ การประชุมวิชาการ ๓๐ ปี สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) “ก้าวสู่ทศวรรษที่ ๔: ร่วมกันวิจัย ยกระดับคุณภาพชีวิต” “To the next decade enhance research for life” วันที่ ๗ - ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
ผมโชคดี ได้รับเชิญไปร่วมงาน และร่วม “อภิปรายแบบ Ted Talk” เรื่อง “งานวิจัยด้านสุขภาพ เปลี่ยนชีวิตคนไทยยุค Post Covid-19” ที่เป็นรายการ ๑ ชั่วโมง และผมเป็น ๑ ในวิทยากร ๗ คน โดยที่ผมอายุมากที่สุด และในรายการเขากำหนดให้พูดเป็นคนแรก แต่ผมเจรจาต่อรองขอพูดเป็นคนสุดท้าย ด้วยเหตุผลว่า ผมจะได้ช่วยสังเคราะห์ความเห็นของวิทยากร ๖ ท่านที่พูดก่อนหน้า
แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็เตรียมใช้ PowerPoint หนึ่งหน้าอธิบายความเห็นสั้นๆ เรื่องงานวิจัยด้านสุขภาพไทยในอนาคต ใช้เวลาพูดสามสี่นาที (เพราะคนก่อนๆ พูดเกินโควตาเวลา ๗ นาทีทุกคน) ดังนี้
ที่จริงยังมีประเด็น dilemma ที่ต้องตีโจทย์ให้แตกอีกมาก เช่น
ทำงานตามสถานการณ์ - มีสติอยู่กับงานหลัก เป้าหมายหลัก
เน้นปัจจุบัน - เน้นอนาคต
ทำงานให้เป็นที่ถูกใจของฝ่ายนโยบาย - เน้นความถูกต้องต่อผลประโยชน์แท้จริงของบ้านเมือง
เป้าหมายที่สุขภาวะของประชาชน - เป้าหมายที่ธุรกิจบริการสุขภาพ
ดำเนินตามนโยบายสุขภาพโลก - กล้าคิดระบบของเราเอง
เป็นต้น
โดยที่ส่วนใหญ่เป็นสมดุลระหว่างด้านซ้าย – ขวา แต่ในบางเรื่องบางกรณีก็ต้องเลือกจุดเน้น
เรื่องสนองนโยบายผู้มีอำนาจทางการเมืองนั้น ผมเคยเผชิญด้วยตนเองสมัยเพิ่งพ้นหน้าที่ ผอ. สกว. แต่ก็ยังได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา (พ.ศ. ๒๕๔๕) ตอนนั้น ศ. นพ. จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธานคณะกรรมการนโยบาย สกว. และ ศ. ดร. ปิยะวัติ บุญ-หลง เป็น ผอ. สกว. เราชวนกันไปขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชินวัตร เราไปอธิบายวิธีทำงานสนับสนุนการวิจัยเพื่อใช้ผลงานวิจัยหนุนการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ โดยเรามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่เมื่อ ศ. นพ. จรัสพูดไปหน่อยเดียว ท่านนายกฯ ก็แสดงภูมิรู้เรื่องงานวิจัยของท่านยืดยาว จนหมดเวลา เมื่อออกมาท่าน อ. หมอจรัสรำพึงว่า “ได้พบมนุษย์ประหลด มีแต่ปาก ไม่มีหู”
แต่ที่ประทับใจผมมากคือ ก่อนจาก ท่านายกฯ บอกพวกเราว่า หากต้องการงบประมาณ ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องไปเที่ยวหาโจทย์วิจัย ให้เอานโยบายของรัฐบาลมาตั้งเป็นโจทย์ ว่าจะใช้งานวิจัยช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายนโยบายที่กำหนดไว้อย่างไร สะท้อนความฉลาด (แกม...) ของท่าน ซึ่งคนมี integrity แบบพวกเราไม่ซื้อ เพราะเราทำเพื่อประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมือง
กลับมาที่การประชุมวันนี้ ผมอยู่ร่วมประชุมได้เฉพาะช่วงเช้า และชอบการเสวนาช่วงต่อมามาก ในหัวข้อ “๓๐ ปี ที่ผ่านมา: งานวิจัยเพื่อสุขภาพคนไทย” ได้ความรู้มากจริงๆ ท่านที่สนใจสาระน่าจะเข้าไปหาจากเว็บไซต์ของ สวรส. ได้
ข้อสรุปที่ผมได้คือ วิทยากรที่เป็นทหารเสือยุคเริ่มต้น สวรส. และได้เรียนรู้พัฒนาตนเอง และทำงานริเริ่มจัดตั้งหน่วยงานสำคัญ ให้แก่ระบบสาธารณสุข คือ สช., สสส., สวสส., สรพ., IHPP สะท้อนตรงกันว่า ในทศวรรษที่ ๔ สวรส. ควรโฟกัสที่งานวิจัยระบบสาธารณสุข ไม่ควรขยายออกไปดูแลงานวิจัยสุขภาพทั้งหมด
ตรงกับที่ผมเสนอไว้ว่า ต้องตีโจทย์ให้แตก
วิจารณ์ พานิช
๗ ก.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น