ความต้องการจะให้เป็นทางเข้าออก หรือบานประตูสู่โคกหนองนาในโรงเรียน เพราะคิดว่าถ้าเข้าออกทางเดียวก็จะเห็นกิจกรรมเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงได้อย่างชัดเจนและครบวงจร
ผมให้ช่างตัดเหล็กโครงสร้างที่มีอยู่แล้วและมีลักษณะคล้ายซุ้มไม้เลื้อย ตั้งอยู่เฉยๆไม่ได้ใช้งาน ก็เลยจัดการตัดรากถอนโคน ยกมาตั้งวางแล้วเทปูนที่โคนเสาอย่างแน่นหนา
จัดวางเสร็จแล้ว จึงรู้สึกเหมาะเจาะพอเหมาะพอดี เป็นช่องทางระหว่างต้นมะนาว มีต้นประดู่ทรงสวยแผ่กิ่งก้านเป็นฉากหลังให้ร่มเงาได้ดีเลย
ลงมือทาสีเพิ่มเติมให้ดูเข้มขึ้นกว่าเดิม ตรงไหนที่เป็นสนิมก็ทาสีให้หนามากขึ้น ขณะที่ทาสีก็นึกขึ้นได้ว่า ควรจะเขียนป้ายบอกชื่อเสียงเรียงนามว่านี่คือ..เส้นทางสู่..โคกหนองนา
เขียนป้ายลงบนปีกไม้เก่าๆ มิใช่เรื่องยากแต่ประการใด จะยากก็ตรงที่ติดป้ายนี่แหละ ต้องเจาะรูแล้วคล้องเชือกเพื่อผูกกับเหล็ก ต้องออกแรงอยู่พักใหญ่เพื่อความมั่นคงและปลอดภัย
เสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อย ผมโรยเมล็ดอัญชันลงไปที่บริเวณโคนเสา เพื่อที่ว่าต่อไปจะได้มีดอกอัญชันสีม่วง เลื้อยพันขึ้นไปบนซุ้มประตู นอกจากจะดูสวยงามแล้วยังใช้เป็นอาหารได้ด้วย
เมื่อเข้าสู่เส้นทางที่จะไปโคกหนองนา นอกจากจะผ่านด้านซ้ายที่เป็นบ่อปลาพอเพียงแล้ว ตรงหน้าจะเป็นแปลงเกษตร ด้านขวาสุดจะเป็นแปลงนาผืนน้อยรอคอยต้นกล้าที่จะมาปักดำวันแม่
เดินเรื่อยมา พักสายตาสักนิดและนั่งพักผ่อนหย่อนใจก็ได้ ตรงศาลาปลูกปัญญา เสมือนว่าเป็นเถียงนาหลังน้อย ที่ครูยังใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เสมอ
นั่งชมสระที่มีปลาเยอะที่สุดของหมู่บ้าน เพราะแต่ละปีมีการปล่อยลูกปลาอยู่ตลอด แต่ไม่เคยจับปลามาเป็นอาหารเลย นอกจากใช้น้ำเพื่อการเกษตรเพียงอย่างเดียว
มองผ่านสระน้ำไปเห็นแนวโคกคู่ขนานไปกับตัวสระ บริเวณที่เป็นเนินดินจะมีแฝกปลูกใหม่ เริ่มจะแทงยอดแตกใบใหม่บ้างแล้ว นับเป็นพืชที่ป้องกันพังทลายของดิน ที่ปลูกง่ายและตายยาก
อีกสระหนึ่งซึ่งใหญ่กว่า มีคันกั้นกลาง คือสระบัวหลวง ที่ผลิใบและออกดอกอย่างสมบูรณ์ ตรงไหนที่มีน้ำน้อยก็เริ่มจะมองเห็นต้นหญ้า ตรงไหนที่มีน้ำลึก ก็พอจะมองเห็นผักตบชวาเข้ามารบกวนบ้างแล้ว
ผมเดินจนทั่วตามเส้นทางเดิน...ชมวิวทิวทัศน์และโครงสร้างของผืนดินและน้ำในโรงเรียน ที่เคยคิดไว้นานแล้วว่าสักวันต้องสร้างสรรค์ให้เป็น..โคกหนองนา..เริ่มพัฒนาอย่างจริงจังในปีพ.ศ. ๒๕๖๒ ปีนี้ ๒๕๖๕ กับความตั้งใจอย่างที่สุด นับเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้ว จะไปต่อแบบไหนอย่างไร ขอไม่คาดหวังเป็นดีที่สุด
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๗ สิงหาคม ๒๕๖๕
ไม่มีความเห็น