จำไม่ได้ว่าเหตุใดจึงสนใจยืมหนังสือ “เจ้าชายน้อย” มาอ่าน ผ่านไป 4 เดือน ไม่ยอมคืนห้องสมุด (น่าตีจริง ๆ) แต่เมื่อหยิบอ่านแบบตั้งใจอ่านแล้ว แทบจะวางไม่ลง ลุ่มหลงในหมู่ดาวน้อยใหญ่ และเรื่องเล่าของชายหนุ่มนักบิน ผู้เล่าเรื่องราวของเจ้าชายน้อยผมทองแห่งดาวดวงที่ บี 612
ไม่ได้อ่านวรรณกรรมเยาวชนนานมาก ลุ่มหลงสิ่งอื่นไปชั่วระยะหนึ่ง กว่าจะปลีกตัวให้หันกลับมาหยิบวรรณกรรมอ่านได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งโตขึ้น ยิ่งอายุมากขึ้น ทำไมมีความรู้สึกว่า “ชีวิตช่างยุ่งเหลือเกิน” หรือมองอีกนัยหนึ่ง “ทำไมได้มีเรื่องมีกิจให้ทำหลายอย่างจังในหนึ่งวัน” .... พวกผู้ใหญ่ก็แบบนี้แหละ
เจ้าชายน้อย เขียนและวาดเรื่องโดย อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี ที่เขียนไว้เมื่อปี 2485 แปลจากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาไทยโดย อำพรรณ โอตระกูล แปลมาแล้วกว่า 210 ภาษา ....โอ้โฮ 80 ปีผ่านไป ฉันถึงได้อ่านวรรณกรรมเล่มเล็ก ๆ ที่ทรงคุณค่า ขนาดแปลมาเป็นภาษาไทย นี่ถ้าอ่านต้นฉบับออกคงสนุกมาเลยทีเดียว
วรรณกรรมเรื่องนี้ ทำให้ผู้ใหญ่อย่างผม... รู้สึกว่า อย่าด่วนตัดสินใจอะไรในฐานะผู้มีประสบการณ์ แต่การรับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจากใครก็ตาม จะทำให้เกิดปัญญา เพราะมุมมองที่ต่างของแต่ละคนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เพราอายุ แต่เพราะฐานคิดและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
“เธอรู้ไหม...ในยามแสนเศร้า คนเราชอบดูอาทิตย์อัสดง”
“ใช่แล้ว ฉะนั้นเราต้องไม่ขอร้องให้ใครทำอะไรที่เกินกำลังเขา อำนาจย่อมตั้งอยู่บนรากฐานแห่งเหตุผลเป็นประการแรก ถ้าเจ้าสั่งให้ประชาชนของเจ้าไปกระโดดทะเลตาย พวกเขาก็จะทำการปฏิวัติ ส่วนฉันมีสิทธฺเรียกร้องความนบนอบเชื่อฟัง เพราคำสั่งของฉันนั้นสมเหตุผล”
วรรณกรรมนอกจากสะท้อนสังคมของมนุษย์แล้ว ยังสะท้อนถึงธรรมชาติอันสะอาดงาม เจ้าชายน้อยผู้ร้อยเรียงเรื่องราวดวงดาวต่าง ๆ ได้ฝากข้อคิด วิถี และความงามของดอกไม้ แกะ และดวงดาวไว้อย่างมากมายในหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนี้ ดั่งวลีท้ายเล่มที่ว่า “เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยตา”
ทำให้นึกถึงเนื้อเพลง “ไม่ต่างกัน” ของวง 25 Hours
เธอเคยได้เห็นหรือเปล่าว่าความรักเป็นเช่นไร ฉันไม่เห็นหรอก แต่ฉันก็รู้สึก
รู้มั้ยว่าความคิดถึง มันหน้าตาเป็นเช่นไร ฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันก็รู้สึก
ไม่ต่างกัน กับใจฉันหรอก สิ่งนั้นที่เธอสัมผัส เราต่างรับรู้มันด้วยใจ
บางสิ่ง เราอาจไม่เห็นมันด้วยตา แต่เรารับรู้มันด้วยใจ เราไม่ต่างกัน
กรกฎา 2565
ไม่มีความเห็น