จันทบุรี อัญมณีแห่งภาคตะวันออก (8) อลังการโบสถ์เซรามิกสีน้ำเงินแห่งวัดแขมหนู
ปากน้ำแขมหนู ตั้งอยู่ที่ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีบรรยากาศร่มรื่น เป็นที่ตั้งชุมชนชาวประมง "บ้านแขมหนู" ซึ่งตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมน้ำใกล้ปากแม่น้ำ "วังโตนด" ที่มีต้นกำเนิดมาจากแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน สายหนึ่งมาจากเขาสีเสียด อีกสายมาจากเขาชะมูล เขาชะอม มารวมกันเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ มีเกาะนอกใหญ่อยู่ในแม่น้ำ ก่อนถึงทางออกสู่ทะเล แม่น้ำไหลออกสู่ทะเลที่บริเวณบ้านแขมหนู อำเภอท่าใหม่ ในลักษณะคอดเข้ามาเหมือนคอขวด
วัดปากน้ำแขมหนู (Blue Temple) วัดเซรามิกสีน้ำเงิน-ขาว เป็นวัดเก่าแก่ในชุมชนชาวประมงริมทะเล เริ่มก่อสร้างเป็นที่พักสงฆ์ เมื่อเดือน 6 ปีฉลู พ.ศ.2446 มีนายปั่น รื่นจิตเป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างที่พักสงฆ์ ลักษณะเป็นกุฏิชั่วคราวหลังเล็กๆ และเรื่มมีพระจำพรรษาในปีพ.ศ. 2457 ต่อมามีพระที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระอธิการผล ซึ่งท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดโดยเปลี่ยนสภาพการมุงด้วยจาก เป็นมุงด้วยสังกะสีแทน และเริ่มมีพระจำพรรษาเพิ่มมากขึ้น
จากนั้นได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างเป็นการใหญ่ในสมัยพระครูยม ฐานกโร เป็นเจ้าอาวาส ระหว่างปี พ.ศ. 2479-2499 โดยเฉพาะกุฏิได้เปลี่ยนจากอาคารชั่วคราวมุงสังกะสี มาเป็นกฏิถาวรเสาคอนกรีตหลังคามุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์ ฝากระดาน และยังได้ริเริ่มก่อสร้างพระอุโบสถตามแบบมาตรฐานด้วย
วัดปากน้ำแขมหนูได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร และทางวัดได้สร้างพระอุโบสถหลังแรกเมื่อปีพ.ศ. 2493 ในสมัยพระครูยม ฐานกโร เป็นเจ้าอาวาส แล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2499 สิ้นเงิน 2 แสนบาทเศษ
ในช่วงปีพ.ศ. 2532 สมัยพระครูกรม สังฆกิจ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระอุโบสถหลังเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรมมากเนื่องจากพื้นที่วัดปากน้ำแขมหนูอยู่ติดกับทะเลทำให้โครงสร้างพระอุโบสถผุกร่อนลุกลามไปจนถึงหลังคา ในช่วงหน้าฝนเกิดน้ำรั่วจนไม่สามารถประกอบกิจสังฆกรรมของสงฆ์ได้
ในปีพ.ศ.2534 จึงได้มีมติร่วมกับชาวบ้านให้รื้อโบสถ์หลังเก่าและก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ โดยนำรูปพิมพ์เขียวจากวัดสระบาปมาเป็นตัวอย่างพร้อมทั้งหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดความชำรุดเสื่อมโทรมเร็วเนื่องจากพื้นที่ติดกับน้ำเค็ม
ด้วยเหตุนี้โบสถ์วัดปากน้ำแขมหนูจึงงดงามวิจิตรตระการตาด้วยลวดลายพื้นโบสถ์สีน้ำเงินตัดกับพื้นสีขาว คล้ายกับภาชนะลายครามที่ทำจากเซรามิกในสมัยโบราณที่นิยมใช้เพียง 2 สีนี้เท่านั้น แตกต่างจากอุโบสถทั่วไปที่เคยพบเห็น ด้านหน้าโบสถ์จะพบกับบันไดนาค 5 เศียร ลำตัวทอดยาวไปจนสุดทางบันได
ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระประธานที่จำลองแบบจากพระพุทธชินราช ผนังโบสถ์มีภาพวาดเกี่ยวกับพุทธประวัติ และมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเป็นภาพเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกเรื่องพระมหาชนก รอบโบสถ์มีมุมถ่ายภาพที่สวยงามทุกจุด ทั้งลวดลายพื้นผนังอุโบสถทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง ตลอดจนเสาที่เรียงรายอยู่รอบโบสถ์ก็เป็นมุมถ่ายภาพที่สวยงามมากเช่นกัน
ภาพสวยๆของวัดปากน้ำแขมหนูอาจจะมีไม่มากนักทั้งนี้เนื่องจากในวันที่ไปนั้นเป็นวันที่มีพุทธศาสนิกชนมาร่วมทำบุญสร้างรูปท้าวเวสสุวรรณเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นวันหยุดยาวด้วย ทำให้หามุมถ่ายภาพให้สวยงามได้ยากมาก จึงมีรูปให้ได้ชมเพียงแค่พอสังเขปเท่านั้น และหากมีโอกาสมาเยือนจันทบุรี อัญมณีแห่งภาคตะวันออก ควรแวะมาชมความงดงามของโบสถ์เซรามิกสีน้ำเงินด้วยตาตนเองจะดีกว่าค่ะ
ขอขอบคุณ
ไม่มีความเห็น