สรุปเนื้อเรื่อง+รีวิว Bad Vegan: ดัง ดับ ดิ้นหนี (2022 A Netflix Documentary Series)


สรุปเนื้อเรื่อง+รีวิว Bad Vegan: ดัง ดับ ดิ้นหนี (2022 A Netflix Documentary Series)

#เกริ่นนำ
จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเชื่อว่ามีคนสามารถทำให้หมาของเธอเป็นอมตะได้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะหลงเชื่อผู้ชายคนหนึ่งที่หลอกลวงเอาเงินจากเธอไปตลอด 2 ปีถึง 1.7 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นวีแกนแบบสุดโต่งถูกจับตำรวจเพราะเบาะแสการสั่งอาหารขยะ

นี่คือเรื่องราวสุดพิศวงของราชินีวีแกนที่โด่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา นี่คือเรื่องราวสุดมึนงงของคดีการโกงเงินและการล่อลวง นี่คือเรื่องราวของซาร์ม่า เมลินไกลิส เชฟมังสวิรัติแถวหน้าที่หลงคารมผู้ชายปริศนาอย่างโงหัวไม่ขึ้นที่สัญญาว่า หากแต่งงานด้วยแล้วจะเข้ามาช่วยเหลือจากหนี้สิน ทุกอย่างมันก็ดูเข้าทีจนเกินไปจนน่าประหลาดใจ นี่คือสารคดีที่เต็มไปด้วยคำถามว่า "อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องไม่จริง"

ดูคลิปรีวิวที่นี่

#เปิดเผยเนื้อหาทั้งหมดของซีรีส์
#SpoilAlert
Bad Vegan เล่าเรื่องราวความเป็นมาของซาร์ม่า เมลินไกลิส เชฟมังสวิรัติแถวหน้าของวงการอาหารสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีประวัติการเรียนดีในจบมหาวิทยาลัยระดับปริญาตรีทางด้านการเงิน แล้วก็ผันตัวเองเข้าสู่วงการทำอาหาร แล้วก็จับ การทำอาหารแบบมังสวิรัติโดยที่ไม่ผ่านความร้อน ด้วยความโดดเด่นทางด้านฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ให้ได้รับการสนับสนุนจากเจฟฟี่เจ้าพ่อแห่งวงการอาหารอเมริกาจนโด่งดังจนกลายเป็นราชินีอาหารวีแกน

จากนั้นเธอก็ได้แต่งงานกับ แมทธิว เคนีย์ เชฟผู้มีชื่อเสียงแห่งวงการทำอาหาร ยิ่งเป็นการส่งเสริมกัน ให้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น ทั้งสองเปิดร้านอาหารร่วมกัน ภายใต้การสนับสนุนของเจฟฟี่ แต่เสียดายที่ชีวิตคู่ของคนนั้นไม่ได้โด่งดังเหมือนกันทำอาหาร แมทธิวขอแยกตัวออกไป และร้านอาหารนั้นเจฟฟี่ก็ให้ซาร์ม่าดูแลแทน และขายให้ราคาไม่สูงนัก พร้อมกับหนี้สิน อีก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซาร์ม่า ดูแลร้านอาหารของเธอเป็นอย่างดี ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Celebrity หลายคนก็แวะเวียนมากินอาหารที่ร้านของเธอ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้พบกับดาราดังอย่าง อเล็ก บอลด์วิน เธอและเขาเกือบจะเป็นคู่รักกัน

อย่างไรก็ตามซาร์ม่ากับอเล็ก ก็ไม่ได้ลงเอย แต่นั่นมันเป็นการจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอ ซื้อหมามาเลี้ยง เธอตั้งชื่อมันว่าลีออน แล้วเธอก็หลงรักหมาตัวนี้เป็นอย่างมาก

จากนั้นไม่นานซาร์ม่าก็ได้พบกับ แอนโทนี่ พี สเตรนจิส ชายหนุ่มผู้มีประวัติคลุมเครือ อ้างว่าตนเองนั้นทำงานลับกับรัฐบาล มีความสัมพันธ์กับหน่วย CIA หน้าที่การทำงานของเขาล้วนแต่เป็นความลับ แอนโทนี่ ก้าวเข้ามาในชีวิตของซาร์ม่า แม้ลูกน้องและเพื่อนรักของเธอจะสืบประวัติรู้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไร เตือนให้เลิกคบหามากแค่ไหน แต่ซาร์ม่าก็ไม่สนใจ

แอนโทนี่ ได้พร่ำบอกซาร์ม่า ว่าเขามีเงินมากได้มรดกมาจากป้าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาพาเธอไปดูอพาร์ทเม้นท์ มีมูลค่าถึง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาอ้างว่าจะนำเงินมาซื้ออพาร์ทเม้นท์เป็นเรือนหอ แต่พอเมื่อถึงเวลาโอนเงิน อันนี้ก็บอกว่ามีปัญหาเรื่องการโอนเงิน ทั้งสองคนจึงชวดอพาร์ทเม้นท์สุดหรูนั่นไป

อย่างไรก็ตามซาร์ม่าก็ได้แต่งงานกับแอนโทนี่ ในปี 2012 อย่างไรก็ตามแม้จะแต่งงานกันแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แอนโทนี่เดินทางจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งตลอดเวลา เขาก็ยังกล่าวอ้างว่าทำงานให้กับรัฐบาล เขาได้รับการคุ้มครองอย่างสูงสุด และจะให้เธอได้รับการคุ้มครองอย่างสูงสุดในฐานะภรรยาด้วยเช่นกัน ระหว่างนี้ซาร์ม่า ก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เข้ามาทำงานที่ร้านอาหารน้อยลง ในขณะที่เพื่อน ๆ และลูกน้องของเธอก็ยังเตือน ว่าสามีของเธอนั้นไม่น่าไว้วางใจ

แอนโทนี่แนะนำให้ซาร์ม่าได้รู้กับวิว ริชาร์ด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ทำงานรักษาความปลอดภัยด้านระบบคอมพิมเตอร์ให้กับรัฐบาลประเทศไหนสักแห่งในยุโรป แอนโทนี่แนะนำให้เขามาจัดการด้านความปลอดภัยด้านคอมพิวเตอร์ให้กับซาร์ม่า เธอ ต้องยินยอมให้วิวเข้าถึงการสื่อสาร อีเมล หรืออะไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใคร เข้ามาโจมตีอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตหรือระบบคอมพิวเตอร์ของซาร์ม่า.....

แอนโทนี่บอกกับซาร์ม่า ว่าในอดีตชาติหลายชาตินั้น ลีออนหมาของเธอ เคยเป็นหมาของเขามาก่อน เขาจึงมีความผูกพันกับเธอเป็นอย่างมาก และเขานั้นตามหาซาร์ม่ามาตลอดชีวิต

จากนั้นเรื่องราวเหนือธรรมชาติก็พรั่งพรูออกมาจากปากของแอนโทนี่ เขาพร่ำบอกกับซาร์ม่าว่า เขามีความพิเศษมากกว่ามนุษย์ทั่วไป ไม่ว่าอะไรที่เขาแนะนำ ซาร์มาก็ต้องทำตามคำแนะนำนั้นไปเรื่อย ๆ เขาจะทำให้เธอและหมาของเธอเป็นอมตะได้ เหมือนกับที่เขาเป็นอมตะ เขาอ้างว่าตัวเองนั้นผ่านการทดสอบกับสิ่งเหนือธรรมชาติ มันทำให้เขาดำรงอยู่ในสภาวะแบบใหม่ และอยู่ในโลกที่มีความสุขตลอดไป ซึ่งตัวของซาร์ม่าเอง ก็เชื่อในสิ่งที่แอนโทนี่พูด ไม่ว่าเขาจะบอกให้เธอทำอะไร โดยเฉพาะการขอให้โอนเงินไปให้เขา ซาร์ม่าก็ยินดีทำตาม

แอนโทนี่ทำตัวลึกลับ ชอบแอบเข้ามาในร้านอาหารของซาร์ม่า พูดกับพนักงานโน้มน้าวให้เชื่อบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนที่ไม่ไว้วางใจอยู่แล้วนั้นก็ไม่มีใครเชื่อ

แอนโทนี่ชอบโทรศัพท์มาขอเงินซาร์ม่า เริ่มจาก 10,000 20,000 40,000 ไปจนถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเธอก็ยินดีโอนให้เขา อย่างที่ไม่คิดตะขิดตะขวงใจ

แอนโทนี่ไม่อยู่กับที่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่เป็นปกติของเขาก็คือชอบเขียนอีเมล มาขอเงิน เล่าเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติ ความพิเศษของเขา สิ่งที่ให้ซาร์ม่าต้องทำตาม และพ่วงท้ายด้วยการขอเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเกือบทุกเดือน ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ เธอจะไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการ โดยเฉพาะเรื่องการมีชีวิตอมตะของตัวเธอและหมาของเธอด้วย

แอนโทนี่บอกให้ซาร์ม่า โอนเงินให้เขาบ่อยมาก แต่ให้ไปโอนยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่ซ้ำกัน เขามักจะบอกว่าถ้าเธอไม่โอนเงินให้เขาเขาจะต้องตาย บอกกับเธอว่ามีคนจับตามองอยู่

และในวันหนึ่งเขาได้บอกกับเธอว่าให้เก็บของทั้งหมดแล้ว ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เธอก็ทำตามเช่นเดิม เลยเริ่มเดินทางไปยัง บอสตัน คอนเนคติคัต โรดไอแลนด์  เธอเดินทางไปเรื่อย ๆ เช่นนี้อยู่หลายวัน แล้วกลับมาที่นิวยอร์กิแต่เธอก็ยังไม่กลับเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ แล้วไม่กลับเข้าไปในออฟฟิศ

ระหว่างที่ซาร์ม่าหายไปเพื่อนร่วมงานหลายคนก็เป็นห่วง เข้าไปหาเธอที่อพาร์ทเม้นท์ แล้วก็พบว่าในห้องของเธอนั้นถูกรื้อค้น มีรอยเลือดอยู่บนพื้น แม้ว่าเพื่อนของเธอจะถ่ายรูปความเสียหายไปให้ดู แต่ซาร์ม่าก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพียงแต่คิดว่าน่าจะเกิดจากฝีมือของคน ที่จะมาทำร้ายตามที่สามีของเธอบอก

อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี สามีของซาร์ม่าก็ทำในสิ่งที่เธอไม่ไว้วางใจ แล้วเธอก็เริ่มสงสัยในพฤติกรรม พักหลัง ๆ เวลาจะคุยโทรศัพท์กับสามี เธอจะบันทึกเสียงเอาไว้ แม้ว่าเรื่องราวจะเลวร้ายไปขนาดไหน แอนโทนี่ก็อาศัยคารม บอกให้เธอเชื่อ บอกให้เธอทำทุกอย่าง ทุกสิ่งที่เธอพยายามมานั้นใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว

ตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2014 ซาร์ม่า ได้โอนเงินให้กับแอนโทนี่สามีของเธอ เป็นจำนวนเงินมากกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แอนโทนี่ได้ไปทำความรู้จักกับชายคนหนึ่ง แล้วพูดชักจูงให้ชายคนนั้นมาเป็นหุ้นส่วนทำร้านอาหาร แล้วชายคนนั้นก็เชื่อคารมของแอนโทนี่เพราะรู้ว่าแอนโทนี่นั้นคือสามีของซาร์ม่า เจ้าของร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของนิวยอร์ก และชายคนนี้นี่เองก็ได้รู้เรื่องราวชีวิตที่ขาดหายไปของแอนโทนี่ เป็นการใช้ชีวิตในแบบที่ซาร์ม่าไม่เคยรู้มาก่อน

แอนโทนี่มักใช้ชีวิตอยู่ในคาสิโน เขาเคยใช้ชีวิตเรา 6 เดือนที่ฟ๊อกซ์วู๊ดส์คาสิโน ทุกคนที่นั่นรู้จักแอนโทนี่ดี เป็นนักพนันมือหนึ่ง มีลีมูซีนรับส่งระหว่างโรงแรมกับคาสิโน อยู่ห้องสวีทอย่างดี เล่นตู้สล็อต 3 ตู้กับรูเล็ตต์ได้ในเวลาเดียวกัน

การที่สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่า เขานำเงินของซาร์ม่า ที่ซ่าร์มาจะเก็บไว้จ่ายเงินเดือนพนังงานนำมาเล่นพนัน และหุ้นส่วนคนใหม่ก็ ยังรู้อีกว่า แอนโทนี่มีปัญหาถูกจับในข้อหาขโมยรถหรูอีกด้วย ดังนั้นเงินที่แอนโทนี่ขอภรรยาของเขาก็ถูกนำมาใช้ ในการดำเนินคดีนี้ด้วยเช่นกัน

จากนั้นก็เปิดประวัติของแอนโทนี่ก่อนหน้านี้ ว่าเขาเคยมี ภรรยาและมีลูกมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วอาศัยอยู่ในฟลอริดา และเขาก็ใช้วิธีหลอกภรรยาของเก่าของเขาว่า เขานั้นมีเงินจากป้าที่ตายไปแล้วมากถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนี่เป็นเหตุผลที่ภรรยาเก่าของเขาตัดสินใจแต่งงานด้วย แต่เมื่อแต่งงานไปแล้วเงินจำนวนนั้นก็ไม่เคยมีอยู่จริง แล้วโกหกไปเรื่อยๆว่ามีคนมาตามล่า นอกจากนี้ยังเล่าอีกว่าแอนโทนี่นั้นมีประวัติการติดเหล้าใช้ความรุนแรง และมีพ่อติดพนัน

นี่คือการเปิดเผยตัวตนของแอนโทนี่ที่ใช้ชีวิตด้วยการหลอกลวงผู้คนอยู่ตลอดเวลา และหลอกลวงซาร์ม่า อยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน แม้ว่าเธอจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาบ้าง หรือโกรธแค้นเขาอย่างไร แต่เมื่อได้คุยกับแอนโทนี่ผ่านทางโทรศัพท์ เธอก็ยอมเขา ให้อภัย ประมาณว่ารู้เขาหลอกก็เต็มใจให้หลอกอยู่ตลอดเวลา

มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่แอนโทนี่ได้หลอกให้ซาร์ม่า เดินทางไปยังกรุงโรมประเทศอิตาลีเพื่อทำการทดสอบ หากผ่านการทดสอบเธอและหมาของเธอจะได้อยู่ในโลกแห่งความสุข แล้วเธอก็เชื่อเขาอีกครั้ง ไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโรมนับ 10 วัน ส่วนตัวของแอนโทนี่ก็ถือโอกาสเข้าไปจัดการธุรกิจร้านอาหาร เข้าไปจัดการการเงินของร้าน จัดการพนักงาน

เขาเรียกประชุมพนักงานแล้วบอกว่าเขาจะซื้อกิจการทั้งหมดของซาร์ม่า อ้างว่าทุกอย่างที่ทำลงไปนั้นก็เพื่อซาร์ม่า ในขณะที่ซาร์ม่า อยู่ในกรุงโรม แอนโทนี่ก็ยังโทรศัพท์ไปให้ เธอโอนเงินมาให้ 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน เธอก็พยายามยืมเงินมาให้เขาจนได้ แต่เขาก็ไม่ได้เอางินไปจ่ายให้พนักงานแต่อย่างใด

หลังจากนั้นแอนโทนี่ได้ชวนซาร์ม่า ให้ไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส ทั้ง 2 ไปกินไปเที่ยวใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทุกที่ที่ไปก็ล้วนแต่แวะคาสิโน เขาใช้ชีวิตอย่างนี้กับเธออยู่หลายสิบวัน เพื่อนร่วมงานและลูกน้องก็ติดต่อมาหาเธอ ทวงค่าจ้าง แต่ก็มีอีเมลจากซาร์ม่าว่า ถ้ามีปัญหามากนักก็ให้เขียนใบลาออก

จนท้ายที่สุดพนักงานในร้านอาหารของเธอและทุกกิจการของเธอก็หยุดงานประท้วง ร้านอาหารก็ถูกปิดลงชั่วคราว แต่ไม่นานนักก็มีคนใจดีเข้ามามาร่วมลงทุนจนสามารถเปิดร้านอีกครั้งจนได้

เพื่อนร่วมงานของซาร์ม่าคนหนึ่งที่รักเธอมากที่สุด ได้บอกไว้ว่าความล้มเหลวทั้งหมดคือแอนโทนี่ เขาสูบเงินทั้งหมดออกไปจากร้าน

การเปิดร้านใหม่ครั้งนี้ซาร์ม่า ไม่ได้จัดงานจัดการเรื่องเงินเดือนของพนักงาน แล้วค่าใช้จ่ายรวมถึงรายรับของร้าน อีกต่อไปแล้ว ผู้ร่วมลงทุนนั้นจะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด จากนั้นธุรกิจร้านอาหารก็กลับมาดีอีกครั้งส่วนแอนโทนี่ก็หัวเสียเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่สามารถดึงเงินออกจากร้านไปใช้อีกได้ต่อไป

จากนั้นก็มีการเฉลยว่าวิว ริชาร์ด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง แท้จริงแล้วแอนโทนี่ได้สร้าง ตัวตนหนึ่งขึ้นมา เพื่อเข้ามาจัดการระบบคอมพิวเตอร์ของซาร์ม่า เพื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตรวมถึงการใช้อีเมลของเธอได้ทั้งหมด และบ่อยครั้งที่อีเมลจากเธอตอบกลับคนอื่นนั้นไม่ได้มาจากเธอเอง แต่มาจากวิวตัวปลอมที่แอนโทนี่เป็นคนจัดการ

ซาร์มาโมโหดเป็นอย่างมาก แต่ด้วยคารมคมคายของแอนโทนี่ ที่เป่าหูว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปนั้นเป็นเพราะรัก ซาร์ม่าก็ให้อภัยสามีของเธออีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แอนโทนี่ก็ได้วางแผนดึงเงินออกจากร้านอาหารอีกจนได้ ร้านเข้าสู่จุดตกต่ำอีกครั้ง แอนโทนี่ได้วางแผน บอกกับซาร์ม่าว่า จะมีคนนิรนามเข้ามาเทคโอเวอร์ร้านอาหารของเธอ แต่ซาร์ม่า ต้องไปบอกกับเจฟฟี่นายทุนใหญ่ ที่เป็นเจ้าหนี้ร้านอาหารของเธอให้รับรู้ และให้เจฟฟี่เป็นคนมาคุยเรื่องสัญญา

เจฟฟี่ ได้คุยโทรศัพท์กับบุคคลนิรนามและมีการนัดหมายพบปะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่บุคคลนิรนามก็ไม่ยอมมาพบตามเวลา อ้างว่าตกเครื่องบินจากบอสตัน และก็มีการนัดหมายครั้งใหม่ให้บินไปที่ฟลอริดาซึ่งซาร์ม่าจะเดินทางไปด้วย ซึ่งเจฟฟี่ก็ไม่มีปัญหาบินไปตามที่นัดหมาย และแน่นอนว่า ชายนิรนามก็ไม่ได้ไปตามนัด

ส่วนซาร์ม่ากับแอนโทนี่ ก็ออกเดินทางออกจากนิวยอร์ค ขับรถไปเรื่อย แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในลาสเวกัสมากกว่า 40 วัน ใช้ชีวิตอยู่ในห้อง ใช้เงินจากการเล่นการพนัน และไม่ติดต่อกลับมาที่ร้านของเธออีกเลย

เมื่อเงินหมดแอนโทนี่ก็โทรไปหาแม่ของซาร์ม่า บอกกับแม่ว่า เธอมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับทางร้านที่ต้องการใช้เงินมาก แต่ด้วยความเครียดจึงไม่สามารถโทรหาพ่อและแม่ได้ แม่ของซาร์ม่าก็โอนเงินมาให้ถึง 4 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ  และเมื่อใช้เงินหมดก็ต้องโทรไปหายืมเงินคนอื่น ซึ่งซาร์ม่าก็หายืมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาเอาเงินที่นิวยอร์ค ซึ่งทั้งสองสามีภรรยาก็ยอมขับรถมาเอาเงิน แต่ไม่ได้เข้าไปเฉียดร้านอาหารของพวกเขาเลย

จากนั้นทั้งสองคนก็ขับรถไปคอนเนคทิคัต ไปเช่าห้องอยู่นับ 10 วัน ทั้งสองคนนั้นไม่ได้นอนด้วยกันแต่แยกนอนกันอยู่ ซาร์ม่าใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวังนอนอยู่ในห้องกับหมาของเธอ เธอจะได้เงินประมาณ 100 ถึง 200 ดอลลาร์ให้ออกไปซื้ออาหารหรืออะไรก็ตามที่อยากซื้อ ระหว่างนั้นเธอใช้ชื่อปลอมว่าเอมม่า

ส่วนพนักงานร้านอาหารและทุกกิจการของซาร์ม่าก็ออกมาประท้วงเนื่องจากไม่ได้รับเงินเดือนมาหลายเดือนแล้ว และได้ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับซาร์ม่าและแอนโทนี่ ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ตำรวจนิวยอร์คได้ออกหมายจับประกาศออกไปทั่ว

ตำรวจคอนเนคติคัทได้รับการประสานว่าสองสามีภรรยานี้อาศัยอยู่ในเมือง จึงทำการสืบหา และในที่สุดก็มีเบาะแสการใช้บัตรเครดิตของแอนโทนี่ และมีการสั่งพิซซ่าจากร้าน Domino Pizza ให้ไปส่งที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แล้วตำรวจก็ตามเบาะแสนั้นไป ตำรวจขึ้นไปเคาะห้องพบซาร์ม่ามีสภาพอิดโรย และสามารถจับแอนโทนี่ได้ด้วยโดยไม่มีการขัดขืน

ซาร์ม่า ถูกประกันตัวด้วยเงิน 300,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ เธอติดคุกอยู่สิบวันแล้วก็ถูกประกันตัวออกมา ส่วนแอนโทนี่วางค่าประกันตัวเอาไว้ 350,000 บาทดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่มีใครประกันตัวเขา จึงติดคุกที่นั่นเกือบปี

ซาร์ม่ารับการสารภาพทั้งหมด ถูกตัดสินจำคุกประมาณ 3 เดือนกว่า ก่อนที่เธอจะถูกจำคุกเธอก็ได้ออกมาให้สื่อ สัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วเธอก็เล่าให้เธอฟังทั้งหมดในสิ่งที่แอนโทนี่ได้ทำกับเธอ...

นี่คือเรื่องราวสุดพิศวงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะสามารถไว้ใจใครคนหนึ่งที่หลอกลวงเธอมาตลอดหลายปีได้มากมายขนาดนั้น

ผู้ใกล้ชิดกับซาร์ม่าบางคนก็รู้สึกว่าเธอถูกล้างสมองได้สามีของเธอจริง และการที่เธอแต่งงานกับแฟนเธอนี่นั้นก็เพื่อหวังเงินจำนวนหลายล้านเหรียญเพื่อเอามาจุนเจือธุรกิจของเธอ

และอีกหลายคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำการทั้งหมดเพราะถูกชักจูงโดยสามีของเธอ ซึ่งหลายกรณีนั้นอาจจะเป็นการตัดสินใจของตัวเธอเองด้วยก็เป็นได้

นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวผู้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการเป็นเจ้าแม่อาหารมังสวิรัติ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของเมือง แต่ก็ต้องจบลงด้วยการเป็นหนี้มากกว่า 6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพียงเพราะเธอหลงเชื่อคารมของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้หัวนอนปลายเท้า

#รีวิว
Bad Vegan: ดัง ดับ ดิ้นหนี เป็นสารคดีแบบ Documentary หรืออัตชีวประวัติ เล่าเรื่องราว ช่วงชีวิตของเชฟหญิงที่มีชื่อเสียงของวงการอาหารมังสวิรัติ ที่ถูกสามีของเธอหลอกเอาเงินของเธอมาตลอดหลายปี และครอบงำชีวิตและความคิดของเธอจนทำให้ชีวิตย่ำแย่

สารคดีมีวิธีการเล่าเรื่องไม่ต่างจากสารคดีเรื่องอื่น คือการให้ตัวละครสำคัญ ก็คือซาร์ม่า มานั่งเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการสัมภาษณ์ต่อหน้ากล้อง โดยการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างนั้นก็จะสลับกับภาพที่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ภาพเหตุการณ์ที่ถูกจำลองขึ้นมา และสลับกับบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องออกมาเล่าเรื่องผ่านหน้ากล้อง เป็นแบบนี้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง

ที่ชอบมากก็คือทีมสร้างเขาได้ตามไปถ่ายสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว นำฟุตเทจ นำคลิปวีดีโอ คลิปเสียงสนทนามางโทรศัพท์ที่บันทึกเอาไว้ หรือแม้แต่สมุดบันทึกจริง หรือรูปภาพจริงมาใช้ในประกอบการเล่าเรื่องได้ดีมาก ทำให้เราเห็นภาพอย่างชัดเจน ต้องขอชื่นชมผู้กำกับและคนลำดับเรื่องลำดับภาพว่าเขาเล่าเรื่องได้เก่งจริง ๆ

ทีมสร้างเขารู้ว่าควรจะเปิดเผยอะไรในช่วงไหน ถือว่าทำได้ดีมาก แม้ว่าคดีที่เอามาเล่านั้นจะไม่ใช่คดีที่ตื่นเต้นสยองขวัญ และไม่มีเหตุการณ์ฆาตกรรมความรุนแรงอยู่เลย แต่การเล่าอย่างชาญฉลาดก็ทำให้รู้สึกว่าไม่มีจุดไหนน่าเบื่อ เข้าใจง่าย และด้วยความที่สารคดีมีเพียง 4 ตอนเท่านั้น เลยทำให้เราดูแบบรวดเดียวจบได้ด้วย

อีกจุดหนึ่งที่ชอบมาก ๆ ก็คือสารคดีแได้นำเสนอถึงพฤติกรรมของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือโลกอินเทอร์เน็ต ที่นำเรื่องราวของความย้อนแย้งว่า "หญิงสาวผู้เป็นวีแกนแบบสุดโต่ง กลับถูกจับได้เพราะสั่งอาหารขยะ" แล้วก็นำเรื่องนี้ไปเขียนพูดประชดอย่างยกใหญ่

แม้ว่าตำรวจผู้ที่เข้าไปจับกลุ่มจะบอกว่าซาร์ม่าไม่มีร่องรอยการกินพิซซ่าแต่อย่างใด ซึ่งคนที่กินนั้นคือแอนโทนี่สามีเธอ สื่อมวลชนก็ไม่สนใจในการ บอกเล่าของตำรวจ กับเรื่องข่าวนี้อย่างเมามัน ซึ่งก็เป็นการสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้สื่อข่าวและผู้เสพข่าวที่ชอบเรื่องแบบนี้ที่มีสีสัน ดีกว่าจะเสพข่าวอะไรที่เป็นความตริงแต่จืดชืด

#บทสรุป
สิ่งหนึ่งที่สารคดีทำให้เราสามารถติดตามสารคดีไปได้แบบไม่เบื่อก็คือ เขาทิ้งคำถามสำคัญเอาไว้ตลอดการเล่าเรื่องทั้งหมดว่า "เพราะเหตุใดผู้หญิงคนหนึ่งจึงสามารถเชื่อผู้ชายคนหนึ่งที่หลอกลวงเธอมาได้ตลอดและให้อภัยให้ได้ทุกครั้ง" จนเมื่อสารคดีเล่าจบ เขาก็ไม่ได้สรุปให้กับเราว่า ซาร์ม่าถูกล้างสมองจริงหรือไม่ หรือแท้จริงแล้วใครกันแน่เป็นผู้หลอกลวงใคร ดังนั้นการสรุปในประเด็นคำถามสำคัญเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของคนดูที่ต้องสรุปเอาเอง

Bad Vegan: ดัง ดับ ดิ้นหนี จึงเป็นสารคดีชั้นดีของทาง netflix ที่ทางเราขอแนะนำให้รับชม และสารคดีเรื่องนี้ เขาทำเสียงภาษาไทยไว้ให้ด้วยนะครับ

@Vatin San Santi


#SuperReviewChannel
#BadVegan
#ดังดับดิ้นหนี
#ANetflixDocumentarySeries

หมายเลขบันทึก: 699268เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2022 22:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2022 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท