๑๓๘. เส้นทาง...สู่โคกหนองนา


เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำได้อย่างไร? ในที่สุด “ความใส่ใจ” คือคำตอบสุดท้ายเสมอ ที่จะช่วยให้ผมไปต่อ เมื่อผมได้อาศัยเวทีเล็กๆฝึกปรือ แล้วลงมือทำจริงในช่วงเย็นแดดร่มลมตกในโคกหนองนา ผมจึงเห็นพัฒนาการ ความรู้สึกจึง”ฝันหวาน”และเบิกบานในหัวใจเหลือเกิน

          ในระหว่างทาง ที่ค่อนมาทางปลายทางแล้ว เพราะใกล้เกษียณเข้าไปทุกที จึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมที่เตรียมทางไว้ก่อน แล้วลงมือทำตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง

          เพราะชีวิตไม่แน่นอน จึงไม่เคยคิดที่จะรอให้อายุ ๖๐ ปีเสียก่อน ถึงจะเยื้องย่างเข้าไปในไร่นาสวนผสม ถึงเวลานั้น..เงินก็คงพอมีแต่แรงนั้นเล่าจะมีหรือเปล่า? หรือไม่..อาจไม่มีทั้งสองอย่าง

          ทำอะไรได้ต้องรีบทำ อยากทำอะไรตามใจตัวเองที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ที่ไม่อยากและรู้สึกเบื่อหน่ายมาก คืองานบริหารฯคิดทุกวันว่าเมื่อไหร่จะหลุดออกจากพันธนาการอันนี้

          ยอมรับว่าหมดไฟก่อนเวลาอันควร ที่ต้องทนอยู่ก็เพราะเงื่อนไขเวลาสำหรับรอรับ”เงินบำนาญ”เพื่อเลี้ยงชีพหลังเกษียณ จึงบอกคณะครูว่า...ครูต้องเรียนรู้ที่จะบริหารงานและบริหารตนเองไว้ด้วย เพราะผมเบื่อหน่ายวัฒนธรรมการศึกษา รู้สึกเบื่อแนวคิดหลากหลายที่ถาโถมเข้ามา

          อาจเป็นเพราะผม ไม่ได้เรียนมาทางบริหาร ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้อดทนและมีความสุขได้ถึงวันนี้ คือการได้สอนหนังสือ ผมสอนทุกวัน มิใช่สอนเพื่อการสาธิต เพราะทำมาตลอดของการเป็นผู้บริหาร

          ผมทำให้เด็กอ่านออกและกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ซึ่งครูก็ดูออก ครูจะนำไปเป็นตัวอย่างหรือไม่?ผมไม่เคยสนใจ เพราะผมตระหนักแต่เพียงว่า การอ่านออกเขียนได้ คือหัวใจของการศึกษา

          คือการประกันคุณภาพที่ดีที่สุด ว่าผู้ปกครองเขาจะศรัทธาและจะส่งลูกหลานมาเรียนกับเราหรือไม่? ไม่ได้อยู่ที่วิทยฐานะของครูหรือโล่รางวัลของโรงเรียนแต่อย่างใด

          เมื่อยึดการเรียนการสอนเป็นงานหลัก ตลอดจนทำงานอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมให้ร่มรื่น สะอาด สวยงามและปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ผมจึงคิดว่าชีวิตครูของผมมาถึงจุดที่พอเพียงแล้ว

          ขอบคุณโรงเรียนหลังเล็กแห่งนี้ ที่สอนผมให้เรียนรู้คู่การปฏิบัติ ทักษะด้านเกษตรอินทรีย์วิถีเกษตรกรพื้นบ้านฝึกหัดจากที่นี่ และขอบคุณผู้ปกครองและนักเรียนทุกคนที่ให้ความร่วมมือ

          การเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพาะเห็ด และการทำปุ๋ยหมัก ไม่ต้องพูดคำว่าสำเร็จ มันเลยจุดนั้นมานานแล้ว การปลูกผักปลอดสารพิษ ที่คิดแล้วทำไม่เคยได้มาตั้งแต่เรียนชั้นประถมฯ ณ วันนี้ ปลูกเมื่อไหร่ก็งดงามได้ในทุกฤดูกาล

          เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำได้อย่างไร? ในที่สุด “ความใส่ใจ” คือคำตอบสุดท้ายเสมอ ที่จะช่วยให้ผมไปต่อ เมื่อผมได้อาศัยเวทีเล็กๆฝึกปรือ แล้วลงมือทำจริงในช่วงเย็นแดดร่มลมตกในโคกหนองนา ผมจึงเห็นพัฒนาการ ความรู้สึกจึง”ฝันหวาน”และเบิกบานในหัวใจเหลือเกิน

          บอกตัวเองให้ใจเย็นไว้..เส้นทางนี้..อีกไม่ยาวไกล คงใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว  

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓ มีนาคม ๒๕๖๕

หมายเลขบันทึก: 698542เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2022 20:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มีนาคม 2022 20:44 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท