หนังสือ The Organized Mind : Thinking Straight in the Age of Information Overload เขียนโดย Daniel Levitin นักจิตวิทยาและนักประสาทวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือเบสต์เซลเล่อร์ บอกวิธีใช้สมองอย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่มีเรื่องรกสมองเข้ามากระทบมากมาย ชวนให้ผมย้อนกลับไปคิดถึงสมัยวัยรุ่นที่มุ่งเรียนหนังสือให้ได้ดี และสมัยมุ่งมั่นทำงานสร้างตัว ผมได้คิดบางวิธีที่หนังสือนี้แนะนำขึ้นใช้ และตอนนี้ชราภาพแต่ก็ยังพยายามหาวิธีทำให้ตัวเองทำงานสร้างสรรค์ได้ดีโดยใช้กลไกนอกสมองตามที่หนังสือแนะนำ
ที่จริงไม่ว่ากลไกในสมองหรือกลไกนอกสมอง ก็ใช้หลักการเดียวกัน คือ “การจัดระบบ” หรือที่ไทยเราใช้คำทั่วๆ ไปว่าเป็นระเบียบ จัดข้าวของไว้เป็นที่เป็นทางเป็นระบบระเบียบ วิธีจัดระบบในสมองทำโดยจัดกลุ่มเรื่องราว หรือกิจกรรม เป็นกลุ่มๆ หรือประเภท (category) เอาส่วนที่เข้าประเภทไม่ได้ไว้ในกลุ่มจิปาถะ ทำอย่างนี้ทั้งในสมอง สมุดจด และในคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจดจะช่วยลดภาะการทำงานของสมองด้านความจำ ช่วยให้สมองหันไปทำหน้าที่ด้านสำคัญ (คิด) ได้ดียิ่งขึ้น
หลักการสำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือสมองมนุษย์วิวัฒนาการมาให้ทำงานพุ่งความสนใจได้ทีละเรื่องหรือน้อยเรื่อง ที่ไทยเราเรียกว่า “มีสมาธิจดจ่อ” สมองส่วนนี้เรียกว่า attentional system สังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งรบกวนสมาธิ เราจึงต้องฝึกให้รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงานหรือกิจกรรม ทำให้ผมนึกถึงหลักการสำคัญที่ผมเรียนรู้สมัยเริ่มทำหน้าที่ผู้บริหารเมื่ออายุ ๓๐ ต้นๆ ว่าต้องรู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน และทุ่มเทความคิดและเวลาให้สิ่งนั้นให้มาก ต้องระวังอย่าให้งานเร่งด่วนมาเป็นงานหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกน้องในสารพัดงานมาเร่ง
เมื่อเริ่มเจนสนามขึ้น ผมจะหาทางกระจายงานที่สำคัญอันดับรองๆ ไปให้ผู้บริหารที่เป็นทีมงาน เก็บไว้เองเฉพาะงานหลักๆ เท่านั้น และพยายามจัดระบบงานทุกด้าน ให้มีเรื่องด่วนฉุกละหุกให้น้อยที่สุด
ขอกลับมาที่หนังสือ เขาบอกว่า สมองจะจัดลำดับความสำคัญว่าจะพุ่งความสนใจไปที่เรื่องใด ตามปกติสมองจะสนใจกิจกรรมที่ไม่ราบรื่น ส่วนที่ราบรื่นสมองจะปล่อยๆ ไป เพราะเป็นธรรมชาติของสมองที่วิวัฒนาการมาทำงานในสภาพวิกฤติความเป็นความตาย
สมองก็เหนื่อยเป็น จึงต้องมีการเติมพลัง ด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือการนอน โดยที่รู้กันแล้วว่าตอนนอนสมองไม่ได้นอนด้วย แต่จะทำงานในอีกโหมดหนึ่ง ที่ช่วยให้เมื่อตื่นสมองสดชื่น
การออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็ช่วยให้ทั้งสมองและร่างกายสดชื่น รวมไปถึงการกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และแน่นอนที่สุด สภาพแวดล้อมทางสังคมอารมณ์ก็มีความสำคัญยิ่ง
ผู้เขียนแถมท้ายคำแนะนำแก่ผู้สูงอายุว่า ให้หลีกเลี่ยงความประมาท (complacency) หรือความพอใจในชีวิตที่ราบรื่น ให้หาทางออกไปเผชิญเรื่องตื่นเต้นบ้าง
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ม.ค. ๖๕