การสำรวจทางทะเลของชาวยุโรปเกิดจากความต้องการพัฒนาเส้นทางทะเลติดต่อระหว่างยุโรปกับเอเชียส่งผลให้เกิดเส้นทางเดินเรือติดต่อระหว่างดินแดนต่างๆ รอบโลก ทำให้ค้นพบดินแดนใหม่ๆ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันมาก่อน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติอย่างกว้างขวาง ปัจจัยส่งเสริมความสำเร็จของการสำรวจทางทะเล หลังสงครามครูเสด ชาวยุโรปมีความสนใจดินแดนตะวันออกมากขึ้นและต้องการแข่งขันกับพ่อค้าอาหรับทาง การค้ากับอินเดียและจีน สินค้าประเภทเครื่องเทศ ผ้าไหมและอัญมณีต่างๆเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาดยุโรป แต่ชาวยุโรปไม่สามารถใช้เส้นทางเดิมที่ต้องผ่านเอเชียไมเนอร์และตะวันออกกลางซึ่งอยู่ใต้อิทธิพลของพวมุสลิมได้จึงพยายามหาทางเดินเรือไปสู่อินเดียโดยตรง ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 นักเดินเรือชาวยุโรปประสบความสำเร็จในการเดินเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา และสามารถพัฒนาเส้นทางติดต่อทางทะเลระหว่างยุโรปกับเอเชีย ปัจจัยส่งเสริมความมสำเร็จของการสำเร็จทางทะเลหลายประการ ดังนี้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินเรือ เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้นักเดินเรือชาวยุโรปประสบ ความสำเร็จในการสำรวจทางทะเล ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินเรือประกอบด้วยแผนที่ แผนที่เกี่ยวกับดินแดนต่างๆ โดยเฉพาะทวีปแอฟริกาและเอเชียที่ทำขึ้นในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ โดยเฉพาะทวีปแอฟริกาและเอเชียที่ทำขึ้นในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ว่าโลกกลม เป็นข้อมูลสำคัญที่นักเดินเรือใช้ในการศึกษาเส้นทางเดินเรือระหว่างยุโรปกับเอเชีย
เข็มทิศเป็นสิ่งประดิษฐ์ของชาวจีนที่นักเดินเรือชาวอาหรับนำไปเผยแพร่ ทำให้ชาวยุโรปรู้จักใช้เข็มทิศและสามารถเดินเรือห่างจากชายฝั่งทะเลในระยะไกล
เทคโนโลยี่การต่อเรือ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชาวโปตุเกสและชาวสเปนได้พัฒนาการต่อเรือโดยเฉพาะรูปร่างและหางเสือเรือที่สามารถช่วยให้เรือโต้คลื่นและพายุได้ดีและสามารถแล่นได้เร็วขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งเสริมการสำรวจ ทางทะเลของประเทศในยุโรป
การประดิษฐ์ปืนใหญ่ ในการพัฒนาปืนใหญ่ถือเป็นเทคโนโลยี่ที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะสามารถช่วยให้นักสำรวจชาวยุโรปสามารถต่อสู้กับโจรสลัดที่มักออกปล้นเรือในกลางทะเลได้ และยังเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ชาวยุโรปยึดครองดินแดนต่างในเอเซียและแอฟริกาได้
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในยุโรป เมื่อระบบปกครองแบบฟิวดัลเสื่อมลง กษัตริย์และประมุขของรัฐต่างๆ ในยุโรปมีอำนาจมากขึ้นและพัฒนาไปสู่รัฐชาติ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 กษัตริย์บางประเทศ เช่น สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ สามารถรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางและต้องการอำนาจรวมทั้งความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เห็นว่าการค้าและการยึดครองอาณานิคมนอกดินแดนยุโรปจะช่วยสร้างความร่ำรวยให้กับรัฐบาลและประชาชน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นความคิดแบบชาตินิยมและสร้างความภูมิใจในหมู่ประชาชนของตนด้วย ผู้นำ ของประเทศเหล่านั้นจึงออกเงินสนับสนุนการสำรวจทะเลในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของยุโรป ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ระบบเศรษฐกิจของยุโรปมีการพัฒนาแบบเสรีนิยม ทั้งการใช้ระบบเงินตราแบบมาตรฐาน (การใช้เหรียญทองคำ) ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาระบบธนาคารที่สนับสนุนการกู้เงินเพื่อการลงทุนและสำรวจดินแดน นอกจากนี้เมื่อรัฐบาลของประเทศต่างๆ ยุติการลงทุน เพื่อการสำรวจทางทะเลแล้ว บางประเทศยังมีการลงทุนตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการค้าและการสำรวจดินแดนโพ้นทะเลโดยรัฐบาลของประเทศให้การสนับสนุน เช่น บริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ (English East India Company) บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (Dutch East India Company) บริษัทดังกล่าวได้ระดมทุนโดดยวิธีขายหุ้นให้แก่นักลงทุน ทั่วไป ทำให้สามารถระดมทุนจำนวนมหาศาลเพื่อขยายการค้าและจับจองดินแดน ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมการสำรวจทางทะเล
บริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ
บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์
การขยายตัวของประชากรยุโรป ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ประชากรยุโรปมีการขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มของประชากร แต่พื้นที่ประกอบเกษตรกรรมมีจำกัด ทำให้ประชากรบางส่วนยินดีออกไปแสวงโชค ในดินแดนโพ้นทะเล ทั้งการทำงานเป็นลูกเรือ การตั้งถิ่นฐานในอาณานิคม นอกจากนี้ยังมีคนบางกลุ่มยินดีไปแสวงหาโอกาสในดินแดนใหม่ด้วยเหตุผลทางด้านการเมืองและการนับถือศาสนา เช่น พวกพิวริตันในอังกฤษจำนวนมากได้ตั้งถิ่นฐานในโลกใหม่เพราะต้องการเสรีภาพในการนับถือศาสนา จึงทำให้การสำรวจทางทะเลและจับจองดินแดนใหม่ๆ ขยายตัวเพราะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน หลากหลายกลุ่ม
ไม่มีความเห็น