องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย ประธานฝ่ายคุณธรรมและจริยธรรม ขอให้ช่วยเป็นกรรมการตัดสินเรียงความที่จะจัดประกวดจากนักศึกษาในหัวข้อ “อนาคตของศาสนาในวิสัยเรา” และขอให้ช่วยแนะนำ ทาบทามกรรมการอีก 3 ท่านด้วย จึงได้เสนอและทามทาม ผศ.ดร.สกาวเดือน ซาธรรม อาจารย์วรพงศ์ คุยบุตร และครูชินกร พิมพิลา ร่วมเป็นกรรมการตัดสิน
เกณฑ์คะแนนประกอบด้วย มีวรรณศิลป์ในการเขียน มีความสอดคล้องกับหัวข้อเรียงความ ทักษะการเขียน ที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เข้าใจง่าย สื่อความหมายได้อย่างเหมาะสมและชัดเจน การเขียนเป็นระเบียบหรือตามที่ได้ประกาศ และที่เอะใจต่างจากเวทีอื่นคือ คะแนนเต็ม 27 คะแนน ซึ่งไม่แน่ใจว่าคณะผู้จัดกำหนดมาจากฐานใด แต่ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไร และที่คิดว่าเท่มากคือกำหนดว่าจะต้องเป็นเรียงความที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 1 หน้า A4 นี่แหละตัวแปรสำคัญอีกข้อ
ฝ่ายผู้จัดส่งเรียงความมาให้ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้กรรมการได้พิจารณาให้คะแนน เข้ากับยุคสมัย เพราะนักศึกษาอยู่ต่างที่ กรรมการอยู่ต่างถิ่น เราก็ทำหน้าที่ “เรียนรู้” ในยุคโรคระบาดได้... ไม่ขาดไม่เกิน การทำหน้าที่กรรมการตัดสิน "เรียงความ" ของนักศึกษา มข. คราวนี้ อ่านไปสนุกไป อ่านไปได้เรียนรู้ไปด้วย บางคนเขียนได้ลุ่มลึกร้อยเรียงพรรณนา บางคนเขียนได้หรูหราแต่สะเปะสะปะ บางคนวกวนระคนหัว แต่ก็ได้หลักคิดและมุมมองของคนในยุคสมัยเปลี่ยนผ่านเรื่องการศาสนากับสมัยอภิวัฒน์
บางรายมาในมุมวิชาการ บางรายมาในมุมมองแห่งตน บางคนไม่สามารถตีโจทย์ให้แตกได้ ร่ายเสียยาว ... อ่านวันนี้จึงอุปมาอ่านข้อสอบ ใครตี "โจทย์" แตกฉานก็เขียนงานได้ตรงประเด็น บางรายเขียนประหนึ่งบทสุนทรพจน์ ฮึกเหิมห้าวหาญผ่านวลี แต่เสียนิดผิดกติกาไปหน่อย
ทักษะการเขียน โดยส่วนตัวคิดว่ายัง “สำคัญ” ไม่น้อย เพราะนอกจากการสื่อสารด้วยการพูด การเขียนยังเป็นการสื่อสารที่ต้องร้อยเรียงเรื่องราวเพื่อเชื่อมโยง “ประเด็น” ให้คนอ่านเข้า ด้วยหลกัการ "นำ เนื้อหา สรุป" จึงยังเห็นว่า “พร่องอยู่” แต่โดยอรรถความยังงดงาม ทั้งเนื้อหา มุมมอง สะท้อนผ่าน "ถ้อยคำ" ที่นำเรื่อง "ศาสนา" มาหาสาระให้เป็น “เรียงความ”
ขอบคุณผู้จัดที่ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวจากเรียงความอีกคำรบหนึ่ง
ณ มอดินแดงมีรถยนต์วิ่งผ่าน
เรียบเรียง 24 มกราคม 2565
ไม่มีความเห็น