เช้าวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๔ CU Radio Plus สัมภาษณ์เลขาธิการ กคศ. เรื่องร่าง ประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(๑) (๒)ที่ผมมีความเห็นว่า ที่สำคัญกว่าข้อความในกระดาษคือการบังคับใช้ต่อผู้ละเมิด ผมจึงชื่นชมผู้ดำเนินรายการ (ดร. ธีรารัตน์ พันทวี) ที่ซักขึ้นไปถึงการบังคับใช้ และชื่นชมท่านเลขาธิการ กคศ. (รศ. ดร. ประวิต เอราวัณ) ที่กล่าวว่า ประมวลจริยธรรมนี้จะเป็นเครื่องมือไม่ให้คนชั่วอยู่ในวงการข้าราชการครู
ผมจึงขอสะท้อนคิดแบบวิพากษ์วิจารณ์ นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยความเคารพต่อผู้เกี่ยวข้องกับงานนี้
โปรดสังเกตว่าที่กำลังฮือฮาเป็นเรื่อง “จริยธรรมข้าราชการครู” บังคับใช้เฉพาะข้าราชการ ครูที่ไม่เป็นข้าราชการไม่เกี่ยว และในสายตาผม ไม่ได้เน้นผลประโยชน์ของเด็กหรือนักเรียน เพราะหากเน้นที่นักเรียนคนที่เป็น “ครู” สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะใกล้ชิดเด็กที่สุด มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้สำคัญของเด็กมากที่สุด
ผมขอตั้งข้อสงสัยว่า เรากำลังอยู่ใต้การครอบงำของมิจฉาทิฏฐิ ว่าด้วย “การศึกษา” หรือไม่ โดยหลงคิดว่าการเรียนรู้ของเด็กอยู่ใต้บทบาทครูเท่านั้น อยู่ใต้โรงเรียนเท่านั้น และเน้นที่การเรียนวิชาเท่านั้น รวมทั้งมองว่าการทำหน้าที่ครูที่ถูกต้องเป็นการทำตามวิชาการที่คงที่
ความครอบงำนี้ ส่วนหนึ่งนำไปสู่ร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครู ที่ไม่ระบุจริยธรรมต่อการเรียนรู้และปรับตัวต่อเนื่องของครู ตามร่างจริยธรรมนี้ ครูไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ต่อเนื่อง หรือการเรียนรู้ต่อเนื่องไม่รวมอยู่ในข้อพึงปฏิบัติสำหรับข้าราชการครู หรือประเด็นดังกล่าวซ่อนอยู่ในประเด็นอื่นของ ๙ ประเด็นในร่าง
ข้อสนใจ หรือคำถาม ของผมคือ ประมวลจริยธรรมนี้จะช่วยให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูงกว่าเดิมหรือไม่ โดยต้องไม่ลืมความจริงว่า คุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำต่อเนื่องในช่วง ๒๐ ปี
กล่าวใหม่ ผมสนใจว่า ประมวลจริยธรรมนี้ จะช่วยให้การศึกษาไทยสร้างพลเมืองไทยที่มีคุณภาพสูงได้หรือไม่ ท่านเลขาธิการ กคศ. บอกว่า มันจะเป็นฐานให้ดำเนินการทางวินัยต่อครูที่มีพฤติกรรมไม่ดี ช่วยให้ไม่ยอมให้คนชั่วอยู่ในวงการครู
ผมลองเถียงตัวเองว่า ข้อความที่ผมเขียนข้างบนนั้นเองที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เขาไม่ได้ออกมาตรฐานจริยธรรมเพื่อเด็ก แต่ออกเพื่อข้าราชการครู เพื่อทำให้ข้าราชการครูมีแนวทางทำหน้าที่ เพื่อทำให้การเป็นข้าราชการครูเป็นที่เชื่อถือหรือเคารพนับถือในสังคม เรื่องผลประโยชน์ของเด็กหรือนักเรียนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
หัวข้อของบันทึกนี้ กับสาระในร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงไม่ตรงกัน สะท้อนความซับซ้อนของเรื่องการศึกษา ที่หากไม่ระวัง คนที่เข้าไปทำงานในเรื่องนี้จะถูกความซับซ้อนหลอก ให้หลง “ทำมาก ได้ผลน้อย” หากมุ่งทำงานเพื่อยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของเด็กไทย
นำไปสู่คำถามว่า การทำงานขององคาพยพต่างๆ ของระบบการศึกษาไทย มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพเด็กไทยอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือหลงทำเพื่อเป้าหมายซ่อนเร้น ตามที่ระบุใน WDR 2018 (๓)
วิจารณ์ พานิช
๕ มี.ค. ๖๔
ไม่มีความเห็น