[บทความภาพยนตร์] จากฆาตรกรต่อเนื่องในร้านตัดผม สู่ละครเวทีและภาพยนตร์


[scoop] จากฆาตรกรต่อเนื่องในร้านตัดผม สู่ละครเวทีและภาพยนตร์

ดู scoop ได้ที่นี่

เคยไหมทำเวลาที่เราเข้าร้านตัดผมแล้ว เราเจอช่างตัดผมที่ดูอัธยาศัยดี ตัดผมดีตามใจที่เราชอบ แต่ในระหว่างที่ตากนั้น ช่างทำผมกลับนำมีดโกนมาจ่อที่คอหอยเรา จังหวะนั้นเองถ้าเขาอยากจะฝากพอเราเขาก็ทำได้ แต่เขาก็ทำได้แค่โกนหนวด แต่ถ้าเมื่อไหร่ถ้าเขาตัดสินใจทำขึ้นมา เราคงไม่มีทางขายคืนอะไรได้เลย แล้ว ข้างๆร้านตัดผม ก็ร้านเบอร์เกอร์แสนอร่อย ซึ่งเมื่อเราตัดผมแล้วเราก็แวะกินทุกครั้ง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเนื้อที่เขานำมาใช้นั้น เป็นเนื้อของอะไรกันแน่ แล้วถ้าเราใช้บริการบ่อยครั้งจนมารู้ภายหลังว่า เนื้อที่ใช้ทำเบอร์เกอร์นั้น มันคือเนื้อของมนุษย์ที่ร้านตัดผมข้าง ๆ นำมาจากการฆ่าคน เราจะเป็นยังไง

#การกินเนื้อมนุษย์ที่แสนจะสุนทรีย์ จากข่าวสยองขวัญในศตวรรษที่ 14 สู่ละครเวทีอันโด่งใน ศตวรรษที่ 19 และภาพยนตร์เพลงแฟนตาซี ระทึกขวัญ ในศตวรรษที่ 21

เรื่องราวกินเนื้อมนุษย์ไม่มีเรื่องไหนที่จะ Classic เกินเลยกว่าตำนานการกินเนื้อคนที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสขนาดที่ว่าในภายหลังได้นำเอาเหตุการณ์ดังกล่าวมาสร้างเป็นละครเวทีและภาพยนตร์จนโด่งดังกันเลยทีเดียว

เล่ากันว่า ในศตวรรษที่ 14 ที่ประเทศฝรั่งเศส ณ กรุงปารีส ในถนนแห่งหนึ่งใกล้โบสถ์มหาวิหารน็อทร์-ดาม แห่งปารีส นอกจากนอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกด้วย วันหนึ่ง มีสุนัขตัวหนึ่งเห่าที่หน้าร้านตัดผมแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับร้านขายเบอร์เกอร์ แล้วก็เห่าเช่นนั้นอยู่หลายชั่วโมงไม่ไปไหนสักที จนผู้คนที่เดินใหม่เดินมาเกิดสงสัยหยุดยืนดูหลายคน จากนั้นผู้หญิงคนหนึ่งบอกกับทุกคนว่าสุนัขตัวนั้นเป็นของเธอและสามี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวและได้หายตัวไปเมื่อ 3 วันก่อน เธอได้เดินทางพร้อมกับสุนัขตามหาสามีไปทั่วกรุงปารีสแล้วก็มาหยุดที่ร้านตัดผมแห่งนี้

เรื่องราวกลายเป็นข่าวใหญ่จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปสอบถามที่ร้านตัดผมว่า ได้ตัดผมให้กับชายผู้เป็นสามีของหญิงสาวคนนี้หรือไม่ เจ้าของร้านตัดผมก็ได้ปฏิเสธไปว่าในช่วงบ่ายวันนี้เข้าไม่ได้ตัดผมให้กับนักท่องเที่ยวคนไหนเลย แต่คำให้การในข้างต้นนั้นก็มีข้อพิรุธอยู่มากมาย และโชคดีที่ตำรวจมีไหวพริบเพียงพอ

ในวันต่อมาตำรวจจึงขอหมายศาลแล้วเข้าไปค้นในร้านตัดผมแห่งนั้น แล้วเมื่อลงไปในห้องใต้ดินตำรวจก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอยู่ในนั้น และภายในห้องใต้ดินนั้นยังมีทางเชื่อมระหว่างร้านตัดผมกับร้านทําเบอร์เกอร์ เมื่อจนมุมต่อหลักฐานเจ้าของร้านตัดผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้และยอมรับสารภาพว่าเขาได้ฆ่านักท่องเที่ยวไปหลายคน ที่เข้ามาใช้บริการร้านตัดผมในร้าน วิธีการฆ่าก็คือใช้มีดโกนหนวดที่คมกริบปาดคอเหยื่อจนตาย แล้วจึงนำศพไปซ่อนไว้ในห้องใต้ดิน จากนั้นก็ เป็นหน้าที่ของเจ้าของร้านเบอร์เกอร์เข้ามาจัดการกับศพ โดยการชำแหละเอาเนื้อของศพนั้นไปแปรรูปทำเป็นไส้ของพายเนื้อ แล้วก็นำไปขายให้กับผู้คนและนักท่องเที่ยว จนทำให้เจ้าของร้านเบอร์เกอร์ขายดิบขายดี คนที่เคยชิมแล้วก็ต้องมกลับาซื้อกินอีกหลายต่อหลายครั้ง

ทั้งเจ้าของร้านตัดผมและร้านขายเบอร์เกอร์ได้ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุเช่นนี้มาแล้ว 3 ปี ยอดขายของพาย เนื้อนั้นทำให้ทั้งคู่มีฐานะที่ดีขึ้น จากนั้นทางฝรั่งเศสได้ตัดสินดำเนินคดีของทั้งของคนโดยการประหารชีวิต ตามแบบฉบับของยุคกลางคือเผาไฟทั้งเป็น และทางการก็ได้ให้สั่งรื้อถอนทำลายร้านตัดผมกับร้านเบอร์เกอร์เพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำ ของนักท่องเที่ยวและชาวเมือง และเพื่อไม่ให้มหานครปารีสนั้นกลายเป็นมลทินต่อผู้คนที่รับรู้ข่าวสารนี้

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 เรื่องราวของเจ้าของร้านตัดผม กับเจ้าของร้านเบอร์เกอร์ก็ไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ และฮิวจ์ วีลเลอร์ ได้ช่วยกันประพันธ์และเขียนบทให้เรื่องระทึกขวัญ ทำให้การกินเนื้อมนุษย์นั้นกลายมาเป็นละครเวทีสุดคลาสสิค โดยใช้เรื่องเล่าของช่างตัดผมฆาตรต่อเนื่องในสมัยยุคกลาง ให้กลายมาเป็นละครเวทีสมัยวิกตอเรีย โดยให้ชื่อชายเจ้าของร้านตัดผมผู้ฆ่าเหยื่อด้วยการใช้มีดโกนปาดคอว่า สวีนนีย์ ทอดด์

สวินนี้ ทอดย์เป็นช่างตัดผมชาวอังกฤษเกิดขาดสติ อันเกิดจากการสูญเสียภรรยาและบุตรสาวไปให้กับผู้พิพากษาจอมโกงชื่อว่าเทอร์พิน และเมื่อไม่สามารถควบคุมสติได้ จนก่อการฆาตกรรมต่อเนื่อง ด้วยการฆ่าผู้คนที่เข้ามาตัดผมในร้านของเขา แ

ล้วก็สมมุติตัวละครที่ชื่อว่านางเลิฟเวตต์ ผู้เป็นเจ้าของร้านเบอร์เกอร์ ผู้ร่วมมือและแปรรูปเนื้อของเหยื่อให้กลายเป็นพายเนื้อรสโอชะ เพื่อจำหน่ายในร้านของเธอในขณะที่เธอกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินไม่มีซื้อเนื้อมาทำเป็นวัตถุดิบ

ต่อมาใน 2007 ผู้กำกับสุดแนวทิม เบอร์ตัน ก็ได้นำเรื่องราวของละครเวทียอดนิยมนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์เพลง โดยให้พระเอกคู่บนสุดแนว จอนนี่ เดป มารับบทเป็น สวีนนีย์ ทอดด์ และให้ เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ นักแสดงเจ้าบทบาท อดีตแฟนสาวของเขามารับบทเป็นนางเลิฟเวตต์ ผู้เป็นเจ้าของร้านเบอร์เกอร์

หนังใช้ชื่อหนังว่า Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street (2007) หรือในชื่อภาษาไทย สวีนนีย์ ท็อดด์ บาร์เบอร์หฤโหดแห่งฟลีทสตรีท  บรรยากาศของหนังทั้งหมดเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับทิม เบอร์ตันอย่างแท้จริง การให้สีที่หม่นหมอง การแสดงอารมณ์ของตัวละครที่ฉูดฉาด โชว์การแสดงขั้นเทพของดารานำทั้งสองคน การใช้เพลงที่โดดเด่นเหมาะสม การสร้างความระทึกขวัญสยองขวัญด้วยความสนุนทีรย์ และท้ายที่สุดก็จบด้วยโศกนาฏกรรม ที่ตัวละผู้ก่อเหตุต้องรับไป

อ่านบทความ คติการกินเนื้อมนุษย์ : จากความเชื้อดั่งเดิมสู่โลกภาพยนตร์ได้ที่ บทความไทยศึกษา คติชนวิทยา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2243292522648167&id=1421767514800676

หมายเลขบันทึก: 688045เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2021 21:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2021 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท