มหาวิทยาลัยผูกพันสังคม ๑๐. อุดมศึกษายุคใหม่ สถาบันอาศรมศิลป์ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยปรับโครงสร้างของสถาบัน เพื่อบูรณาการงานหลักทั้ง ๔ ด้าน (การเรียนการสอน, วิจัย, บริการ, ทำนุบำรุงวัฒนธรรมและศิลปะ) เข้าด้วยกัน โดยใช้งานบริการวิชาการแบบ ผูกพันสังคม (social engagement) เป็นตัวนำ
สถาบันอุดมศึกษาแบบนี้น่าจะเรียกว่า Engagement-Based Higher Education Institution ... สถาบันอุดมศึกษาร่วมพัฒนาสังคม
งาน social engagement มาจาก engagement partner ที่มีทรัพยากรสนับสนุน มีเป้าหมายทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคม แต่ตนเองทำไม่ได้ ต้องการภาคีที่มีความสามารถเข้าไปดำเนินการ สถาบันอาศรมศิลป์จึงอาสาเข้าไปดำเนินการ หรือร่วมดำเนินการ มองจากมุมมองเดิม ก็เป็นงานบริการวิชาการ แต่ในมุมมองสมัยใหม่ เป็นงาน social engagement
มองและปฏิบัติให้สมัยใหม่ยิ่งขึ้นไปอีก สถาบันอาศรมศิลป์มองงาน social engagement เป็นแหล่งสำหรับให้นักศึกษาและอาจารย์เข้าไปเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม และหากมีโจทย์วิจัยติดกระเป๋าไปด้วย การทำงานนั้นก็เป็นงานวิจัยไปด้วยในตัว รวมทั้งเนื่องจากงาน social engagement ที่เข้าไปร่วมมักเป็นงานที่ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ กิจกรรมที่ทำจะเป็นการพัฒนาจิตสาธารณะของนักศึกษา อาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องไปในตัว หากการดำเนินการกิจกรรมนั้นมีการสะท้อนคิด (reflection) ร่วมกันเป็นระยะๆ และโจทย์สะท้อนคิดมีประเด็นด้านคุณค่าต่อสังคม (social values) รวมอยู่ด้วย
จะเห็นว่า สถาบันอุดมศึกษาสมัยใหม่ต้องทำงานอยู่บน ๔ เสาหลัก (4 pillars) คือ
กิจกรรมที่ต้องเรียนรู้และดำเนินการเป็นการใหญ่สำหรับสถาบันอาศรมศิลป์ คือ “การถอดหลักสูตรเป็นคำถาม” เพื่อ “การเรียนรู้จากการปฏิบัติตามด้วยการสะท้อนคิด” ที่ผู้เรียนเกิดสมรรถนะครบถ้วน ลุ่มลึก และเชื่อมโยง ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
ผู้บริหารต้องมีชุดคำถามสำหรับบูรณาการระหว่างวิชา และบูรณาการวิชาเข้ากับการปฏิบัติ
ผมคิดว่า ในเบื้องต้น ต้องมี “ชุดคำถามประจำวิชา” ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ให้อาจารย์นำไปใช้ แล้วนำประสบการณ์การใช้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันว่าได้ผลเป็นอย่างไร ควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง
ชุดคำถาม จึงน่าจะเป็น “เสาหลัก” ที่สถาบันอาศรมศิลป์ต้องเอาจริงเอาจังในการสร้างและสั่งสม ในช่วงเวลาสองสามปีข้างหน้า
ไม่มีความเห็น