สิม ถือเป็นเขตในคามวาสี ที่สำคัญของชาวพุทธ การที่ใช้วรรณกรรมบนผนังสิมของชาวล้านช้างก็ดี หรือชาวอีสานก็ดี วรรณกรรมเรื่องนั้นๆ ต้องมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนทรรศน์ของคนในสังคมชาวพุทธ อิทธิพลวรรณกรรมจึงสามารถสะท้องให้เข้าใจวิถีชุมชน วิถีแนวคิดของคนในแถบนั้น แม้ปัจจุบันวรรณกรรมล้านช้างหรือวรรณกรรมอีสานจะลดบทบาททางสังคมลงมามาก แต่ก็พอจะสืบสาวราวเรื่องได้ว่ามีความสำคัญกับสังคมอยู่มิน้อย ดังเช่นวรรณกรรมในฮูปแต้มนี้ ก็ถือเป็นวรรณกรรมสืบทอดที่คงเหลือให้เห็นรากเหง้าของบรรพบุรุษที่จารไว้สืบพระพุทธศาสนา เช่นสังสินไชย พระลักพระลาม เป็นต้น คำถามที่ข้างคาใจอยู่คือ ทำไมวรรณกรรมเรื่องพระลักพระราม และสังสินไซย จึงมีบทบาทสำคัญทางพระพุทธศาสนาจนถึงขั้นวาดเป็นฮูปแต้มเพื่อเป็นพุทธบูชา ของชาวล้านช้างและอีสาน (หาคำตอบต่อไป)
ในวรรณกรรมเรื่องสังสินไชยนั้น มีคำกล่าวเกรินของการเข้าสู้เรื่องนั้น จะเป็นบทไว้ครู เช่น "ศรีสิทธิมังคะละเลิศล้ำ สิทธิเดชลือชา นาโถสุดยอดญาณไตรแก้ว" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพุุทธศาสนานั้นมีความสำคัญอย่างในวรรณกรรมเรื่องนี้ นอกจากนี้อาจสันนิฐานได้ว่าสังสินไซยนีี น่าจะเป็นวรรณกรรมที่มีถิ่นกำเนินแถบลุ้มน้ำโขงแต่เดิม ที่ผนวกกับแนวคิดเชิงพุทธศาสนาเข้ามาผสมผสานที่แทรงแนวคิดทางพุทธศาสนาอย่างกลมกลืน ซึ่งแตกต่างจากวรรณกรรมเรื่องพระลักพระลามของล้านช้าง ที่ได้รับอิทธิพลจากมหากาพย์รามายณะของอินเดีย เมื่อเกิดการทอดถ่ายทางวัฒนธรรมหนึ่ง มาสู่อีกวัฒนธรรมหนึ่งการสร้างสรรหรือดัดแปลงวรรมต้นฉบับ เพื่อปรับให้เข้ากับสังคมและวัฒนธรรมของตนจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด คงเหลือแต่เค้าโครงเดิม ซึ่งวรรณกรรมเรื่องพระลักพระลามของลาวนั้นยังพอสืบสาวราวเรื่องได้ว่าได้รับอิทธิพลของอินเดียโดยชัดเจน
วรรณกรรมที่สื่อผ่านฮูปแต้มในปัจจุบันนี้มีคนสนใจน้อย แล้วการเปิดเปิดกว้างในการเลือกสรรวรรณกรรมเพื่อวาดฮูปแต้มนั้นก็น้อยมาก เพราะปัจจุบันเน้นที่เป็นชาดกนิบาต หรือเป็นพุทธประวัติ จนเกิดเป็นขีดจำกัดทางการเลือกสรรวรรณกรรม เพื่อสร้างสรรควรรณกรรมผ่านฮูปแต้มที่เป็นร่อยรอยสืบทอดทางวัฒนธรรม และหล่งเรียนรู้ทางวรรณกรรม
ไม่มีความเห็น