ผมได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล และในวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๓ ก็มีนัดประชุมเพื่อขอคำแนะนำเรื่องแผนยุทธศาสตร์ ๓ ปี (๒๕๖๔ - ๒๕๖๖) แต่ผมติดนัดอื่นเสียก่อน ไปร่วมประชุมไม่ได้ ท่านคณบดี (พญ. วัชรา ริ้วไพบูลย์) ส่งเอกสารมาให้ และขอให้ช่วยส่งคำแนะนำไปให้ หลังการประชุมยัง อีเมล์ มาบอกว่าที่ประชุมแนะนำอะไรบ้าง
วิทยาลัยราชสุดา จัดการศึกษาเพื่อคนพิการ และเพื่อคนที่จะไปทำงานพัฒนาคนพิการ ประเทศไทยเรามีระบบที่เอื้อเฟื้อคนพิการมากขึ้นเรื่อยๆ มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ (๑) และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๖ (๒) ที่สะท้อนว่าสังคมไทยเราก้าวหน้าในเรื่องการดูแลคนพิการขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะมาตรา ๒๐/๓ ที่ให้อำนาจราชการส่วนท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการได้โดยใช้งบประมาณของคนเอง นี่คือโอกาสของวิทยาลัยราชสุดาในการทำงานวิชาการแนว engagement กับฝ่ายปฏิบัติ
ใน พรบ. (๑) มาตรา ๒๔, ๓๓, ๓๔ เรื่องกำหนดให้นายจ้างหรือสถานประกอบการต้องจ้างผู้พิการทำงาน หรือจ่ายเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ก็เป็นกิจกรรมที่วิทยาลัยราชสุดาสามารถเข้าไปร่วมทำงานวิชาการแนว engagement ได้
กรมพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้รวบรวม พรบ. จนถึงการปรับปรุงครั้งที่ ๖ ไว้ที่ (๓) ซึ่งผมเชื่อว่าหากเข้าไปอ่านค้นหาให้ดีจะพบจุดที่เข้าไปทำงานวิชาการแนว engagement ได้อีกมาก
งานวิชาการแนว engagement หรือแนวหุ้นส่วน ทำโดยหน่วยงานวิชาการเข้าไปเป็นหุ้นส่วนร่วมงานกับสถานประกอบการ เริ่มตั้งแต่ร่วมคิด หากิจกรรมที่จะร่วมกันทำเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ร่วมกันตั้งเป้าหมาย วางแผนดำเนินการ ที่จะต้องร่วมมือกัน ทั้งในเรื่องการออกหรือหาทรัพยากรมาใช้ในการดำเนินการ การร่วมกันลงแรงหรือลงสมอง ฟันฝ่าความยากลำบากสู่ความสำเร็จร่วมกัน โดยที่ฝ่ายประกอบการก็ได้ผลงานตามแบบของตน ฝ่ายมหาวิทยาลัยก็ได้ผลงานวิชาการและได้ทรัพยากรมาทำงาน
ที่จริงฝ่ายมหาวิทยาลัยได้มากกว่าผลงานวิชาการ เพราะกิจกรรมที่ทำร่วมกันนั้น ใช้ฝึกนักศึกษาได้ โดยในกรณีของวิทยาลัยราชสุดา ใช้กิจกรรมเป็นแหล่งทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาโทและเอกได้ เป็นงานวิชาการแนวประยุกต์ หรือ translational ที่ข้อมูลที่เก็บได้สามารถนำมาวิเคราะห์สังเคราะห์ตกผลึกเชิงทฤษฎี สู่การเสนอทฤษฎีใหม่หรือปรับปรุงทฤษฎีเดิมได้ นำไปตีพิมพ์ในวารสารที่มี impact factor ได้
นอกจาก Engage กับสถานประกอบการ ยังอาจ engage กับกรมพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมกันหาทางให้กรมได้มีผลงานเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ ประสิทธิภาพ และในแง่การสร้างนวัตกรรมในการทำหน้าที่ โดยใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มาสนับสนุนกิจกรรมวิชาการแนวประยุกต์เพื่อค้นหาและส่งเสริมนวัตกรรมในการส่งเสริมคนพิการโดยสถานประกอบการต่างๆ โดยอาจกำหนดเกณฑ์ของนวัตกรรม และมีการให้รางวัลยกย่องประจำปี การกำหนดและพัฒนาเกณฑ์ต่อเนื่องควรทำเป็นงานวิชาการ
วิทยาลัยราชสุดา สามารถริเริ่มสร้างสรรค์การทำงานวิชาการบนฐานชีวิตจริงของคนพิการได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยหลักการที่ช่วยให้คิดอกคือหลักการทำงานเป็นหุ้นส่วนกับสังคมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ และองค์กรของคนพิการเอง
วิจารณ์ พานิช
๒๓ ก.ย. ๖๓
เรื่องผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามสะดวกนั้น หลักจากที่ได้อ่านผมขอขอบคุณที่อาจารย์ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อน key competency ของเหล่าผู้มีความสามารถให้เกิดผลจริง นำไปสู่การพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และที่สำคัญสร้างคุณค่าให้ทรัพยากรมนุษย์ทุกคนครับ