เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 ผมและทีมงานจากกลุ่มงานกิจกรรมนิสิต ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดบทเรียนการดำเนินงานด้านกิจกรรมนิสิตของสโมสรนิสิตคณะนิติศาสตร์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้นำนิสิต ตลอดจนอาจารย์ที่ปรึกษา ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 อาคารพัฒนานิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ในทางกระบวนการนั้น ผมและทีมงานออกแบบกระบวนการแบบง่ายๆ ไม่เน้นความซับซ้อนอะไรให้มากความ เช่น BAR : รู้จักฉันรู้จักเธอ - ความรู้คู่สโมสรนิสิตคณะ- ผู้นำกับการทำงานเป็นทีม- สรุปการเรียนรู้ในรอบ 4 เดือน โดยทุกๆ กิจกรรมเน้นแนวคิดการเรียนรู้ในแบบบันเทิงเริงปัญญา และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
เวทีวันนั้น เปิดตัวด้วยกิจกรรม “ตาราง 9 ช่อง” เพื่อละลายพฤติกรรมให้นิสิตกล้าแสดงออกพร้อมๆ กับฝึกทักษะเครื่องมือการเรียนรู้ง่ายๆ เช่น การซักถาม สัมภาษณ์ สังเกต บันทึกข้อมูล รับผิดชอบโดยคุณณัฐภูมินทร์ ภูครองผา
ถัดจากนั้นเป็นกระบวนการ “วัดความรู้เรื่องกิจกรรมนิสิต” หรือ “ความรู้คู่สโมสรนิสิต” ซึ่งเน้นการให้นิสิตทำ “ข้อสอบ” แล้วเฉลยข้อสอบร่วมกัน พร้อมๆ กับการบรรยายผ่านข้อสอบในแต่ละข้อ ซึ่งเนื้อหาก็มีทั้งที่เป็นนโยบายและทิศทางของมหาวิทยาลัย อัตลักษณ์-ค่านิยมนิสิต นโยบายเชิงรุกการพัฒนานิสิต ทักษะทางสังคม (Soft skills) โดยคุณสุริยะ สอนสุระ
ต่อด้วยกระบวนการทบทวนตัวเองผ่าน “สัตว์หลากทิศ : การทำงานเป็นทีม” โดยให้นิสิตแสดงทัศนะถึงคุณลักษณะสำคัญๆ ของสัตว์ที่ตนเองชื่นชม แล้วผูกโยงมาสู่การเรียนรู้ “สัตว์สี่ทิศ” ที่ประกอบด้วย กระทิง อินทรี หมี และหนู ซึ่งกระบวนกร คือ คุณรุ่งโรจน์ แฉล้มไธสง
ช่วงท้ายของเวที ผมเข้าไปสานต่อกระบวนการต่างๆ ผ่านกิจกรรมสำคัญๆ เช่น การสะท้อนแนวคิดผ่านหลักคำในคำถามหลัก คือ ทำไมตัดสินใจเข้ามาทำกิจกรรม ความคาดหวังของการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมนอกหลักสูตร คืออะไร รวมถึงการถอดบทเรียนเชิงปฏิบัติการร่วมกัน โดยให้นิสิตแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
กรณีกิจกรรมที่โดดเด่นและประทับใจในรอบ 4 เดือน นิสิตเลือกมาคือกิจกรรม "พิธีไหว้ครู" ซึ่งนิสิตสะท้อนว่าเป็นกิจกรรมที่หลอมรวมทั้งนิสิต อาจารย์ บุคลากรมาเป็นหนึ่งเดียวกัน สอดคล้องกับการปลุกฝังคุณธณรมจริยธรรมของความรัก ความผูกพัน หรือความกตัญญูที่ยึดโยงกับวิชาชีพของกฎหมาย และครรลองของสังคมไทย
กิจกรรมดังกล่าว สำเร็จลุล่วงได้ด้วยปัจจัยสำคัญ คือ ทั้งนิสิตที่หมายถึงผู้นำนิสิต -นิสิตทั่วไป ตลอดจนผู้บริหาร อาจารย์และเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญต่อกิจกรรมนี้ร่วมกัน ประหนึ่ง "นโยบายชัดเจน" ก็ทำอะไรได้ง่ายขึ้น
รวมถึงการสะท้อนว่ากิจกรรมนี้แต่ละฝ่ายมีความชัดเจนใน "เนื้องาน" ของตนเอง - เรียกได้ว่าเข้าใจงานและทุ่มเทกับงานก็ว่าได้
และย้ำหนักแน่นว่ากิจกรรมนี้ มีการทำงานที่เป็นทีม และในทีมก็มีระบบการทำงานกันอย่างชัดเจน จนก่อให้เกิดพลังต่อการเรียนรู้
ขณะที่จุดอ่อนของกิจกรรมนี้มีไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเห็นตรงกันว่า กลุ่มแกนนำทำงานมีจำนวนไม่มากนัก และอุปกรณ์ยังไม่เพียงพอ ซึ่งนั่นมีประเด็นของงบประมาณเข้ามาเกี่ยวโยงด้วย
ส่วนโครงการในรอบ 4 เดือนที่ถือว่ามีจุดอ่อนมากที่สุด นิสิตเลือกโครงการ "พาน้องไปวัด" โดยสะท้อนถึงปัญหาต่างๆ ที่สำคัญๆ เช่น
นอกจากนั้นก็สะท้อนถึงปัญหาสถานที่ เช่น
เช่นเดียวกับการยืนยันว่ากิจกรรมครั้งนี้ "ข้าวไม่สุก" ---
นี่คืออีกหนึ่งเวทีที่ผมและทีมงานได้มีโอกาสเรียนรู้ร่วมกับนิสิต ในหลายๆ กิจกรรม ผมและทีมงานพยายามสื่อถึงเรื่องกระบวนการเรียนรู้ หรือเครื่องมือในการเรียนรู้ไปในตัว ฝึกให้นิสิตมีทักษะในการถอดบทเรียนด้วยตนเอง ฝึกทักษะในการทำงานแข่งกับเวลา ฝึกทักษะในการระดมความคิด ฝึกทักษะในการสื่อสารสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการทำงานอย่างเป็นทีม ฝึกการทำงานแบบมีส่วนร่วม ฯลฯ
รวมถึงการบ่มเพาะทัศนคติที่ดีในแง่ของการ รักและเคารพตัวตนของตนเอง และผู้อื่น หรือแม้แต่การรักและผูกพันกับมหาวิทยาลัยฯ
ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ของนิสิตคณะนิติศาสตร์นั้น ไว้มาเล่าต่อทีหลัง นะครับ
...
เขีบน : 2 ตุลาคม 2563
ภาพ : สุริยะ สอนสุระ / พนัส ปรีวาสนา
-สวัสดีครับอาจารย์-ครูคือผู้ให้ ครูคือผู้สร้างสรรค์สังคม-ด้วยความระลึกถึงท่านอยู่เสมอครับ
งดงามในวิถี ถอดบทเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ขอบคุณเรื่องเล่าในฤดูฝนครับท่านพี่