ผมชอบวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ชีวิตมีอิสระ ที่จะทำงานอย่างที่ต้องการ มีงานให้ทำอย่างหลากหลาย ที่วันปกติธรรมดาจะทำไม่ได้ เพราะผมต้องสอนหนังสือและทำงานเอกสารควบคู่กัน...
ลูกๆเอ่ยปากเชิญชวนให้ผมไปเที่ยวบ้าง..คงกลัวผมจะเคร่งเครียด ผมต้องรีบบอกว่า ในโรงเรียนนี่แหละเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ดีที่สุด
เพราะโรงเรียนมีโรงเรือนเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา มีสระน้ำ มีต้นไม้น้อยใหญ่ อากาศถ่ายเท มีดอกไม้ตระการตา พาให้เพลิดเพลินไม่รู้จบ จิบกาแฟแล้วเดินทอดน่อง ใครไม่มาลิ้มลองจะไม่รู้รสชาติของชีวิตที่พอเพียงแบบนี้
ขอบคุณพ่อกับแม่..ที่เป็นแบบอย่างให้ใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่ พ่อผมเป็นคนใต้ ทำแต่งานแล้วก็มีเพื่อนไม่มากนัก ส่วนแม่เป็นลูกชาวนา ไม่เคยนำพาให้ลูกๆไปเที่ยวสนุกสนานที่ไหนเลย ประหยัดและอดออม ให้รอดพ้นไปในแต่ละเดือน...
ที่สำคัญที่สุด พ่อกับแม่จะเน้นย้ำอยู่เสมอ ว่าผมคลอดยาก ตอนเด็กๆเจ็บป่วยมากมาย สามวันดีสี่วันไข้ รอดตายมาได้ก็บุญแล้ว พ่อกับแม่คงต้องการเตือนให้ผมระมัดระวังในการใช้ชีวิต..
แต่ความรู้สึกของผม..เหมือนว่าต้องชดใช้ เมื่อทำให้พ่อแม่ทุกข์ยากมาตั้งแต่กำเนิด ก็ต้องตั้งใจเรียนและหางานทำให้ได้ ผมจึงผ่านวัยรุ่นมาได้แบบที่ไม่คุ้นเคยกับการเที่ยวเตร่ ไม่คุ้นเคยกับการคบเพื่อน...๔๐ ปีผ่านไป...ความรู้สึกนึกคิดยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ผมคิดว่า..ความรักงานรักสุขภาพ มีงานให้ทำ ก็ถือว่าเป็นมงคลสูงสุดของชีวิตแล้ว..ผมไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวหรือมีปมด้อยเลยแม้แต่น้อย เมื่อต้องอยู่โรงเรียนคนเดียวในวันหยุดราชการ..
โดยมีลมหายใจเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ และความเงียบงันทำให้ผมฝึกสติ มีสมาธิให้เรียนรู้งาน ประสานใจตนให้รู้เท่าทันชีวิต...ที่ต้องหมั่นคิดคำนึงถึงการพึ่งพาตนเองอยู่เสมอ...
แต่ก็ไม่เคยลืมผู้มีพระคุณ ที่เกื้อหนุนให้ผมมีที่ยืนอยู่ทุกวันนี้ คิดถึงคราใดน้ำตารินไหลทุกครั้ง หนึ่งในดวงใจนั้น ที่ไม่เคยลบเลือนไปได้เลยก็คือ “พ่อหลวง” รัชกาลที่ ๙
๑๔ ปีในโรงเรียนหลังเล็ก ที่ไม่ง่ายเลยกับปัญหาและอุปสรรคนานับปการ แต่พระบรมราโชวาทของพ่อ ได้ช่วยสานต่อให้ทุกงานที่ทำมีพลัง ให้พากเพียร อดทนและตั้งใจ..
วันนี้..ถึงแม้ว่าจะยังไม่ก้าวไกล แต่ความสำเร็จพบเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม การน้อมนำทำจริงในศาสตร์และคำสอนของพ่อ..ช่วยหล่อหลอมจิตใจให้กล้าแกร่ง มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษามาตรฐานของงานให้มั่นคง และโรงเรียนดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
เมื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงเกื้อหนุนจิตสำนึกให้พสกนิกรอย่างผม ให้ก้าวเดินและยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ผมจึงมีแนวคิดที่จะจัดนิทรรศการ..”งานของพ่อสานต่ออย่างพอเพียง”
วันนี้ผมจัดเตรียมห้องเสร็จเรียบร้อย ยังคงเหลือแต่ภาพกิจกรรมที่ได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙..เป็นต้นมา..
งานและกิจกรรม..โครงการตามแนวทางพระราชดำริ..ที่ผมมุ่งเน้น ยังคงเห็นและเป็นอยู่ ผมจะร้อยเรียง ลำดับเหตุการณ์ ทั้งแหล่งเรียนรู้และผลผลิต ติดป้ายนิเทศตลอดเดือนตุลาคม...
เมื่อสานต่องานที่พ่อทำแบบบูรณาการ งานการเรียนการสอนและงานบริหารการจัดการทั้งระบบในโรงเรียนขนาดเล็ก จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พ่อไม่เคยสอนให้ทำเรื่องใหญ่ แต่พ่อสอนให้รู้หน้าที่ มีความเพียร และประหยัด อดออม ..ผมจึงไม่ยอมแพ้...แม้จะมีงานมากมายก็ตาม
หลายคนห่วงใยและถามไถ่..เหนื่อยบ้างไหม? ผมตอบไปว่า..นอกจากไม่เหนื่อยแล้ว ยังสุขใจที่ได้ทำงานในโรงเรียนอันเป็นที่รัก..และเกือบจะค่ำแล้ว..ได้เวลาที่จะต้องรักสุขภาพบ้าง..
ผมวิ่งออกกำลังกายในโรงเรียนสักพักใหญ่...จึงกลับบ้าน..รู้สึกชื่นบานกับเวลาที่ผ่านเลยไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน.....
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๗ กันยายน ๒๕๖๓