วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ มีการประชุมสภาสถาบันอาศรมศิลป์ สาระจากการประชุมบ่งว่าสถาบันอุดมศึกษาเล็กๆ ที่เป็นสถาบันทางเลือกแห่งนี้ มีคุณค่าและดำรงอยู่ได้ เพราะมีชื่อเสียงในฐานะเป็น change agent ด้านการศึกษา
มีวาระแจ้งเพื่อทราบเป็นโครงการวิจัยและพัฒนา ๓ เรื่องคือ
- การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาต้นแบบพื้นที่นวัตกรรมการจัดการศึกษาระดับจังหวัด ด้วยกระบวนการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนทั้งระบบ กรณีศึกษาจังหวัดระยอง ระยะที่ ๒
- โครงการวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกวัย ให้เป็นกลไกสนับสนุนความเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้จังหวัดระยอง โดยความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และภาคีเครือข่าย Learning City จ. ระยอง ภายใต้การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง
- โครงการ “พึ่งตน เพื่อชาติ” สนับสนุนโดยครอบครัวอยู่วิทยา เป็นเงิน ๓๐๐ ล้านบาทใน ๓ ปีแรก ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ และเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ดำเนินการหนุนผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด ๑๙ ในการน้อมนำเกษตรทฤษฎีใหม่ไปใช้ในการสร้างต้นทุนของชีวิต และสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
ผมตีความว่า สถาบันอาศรมศิลป์ มีรูปแบบ “ชาลาหุ้นส่วนสังคม” (engagement platform) ที่ชัดเจนมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ โดยจุดแข็งมี ๓ ด้าน คือ ด้านการศึกษา ด้านพัฒนาชุมชนและผู้ประกอบการสังคม และด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์หรืการออกแบบ
เนื่องจากจำนวนนักศึกษาน้อยลงเรื่อยๆ สถาบันจึงต้องหาทางอยู่รอดจากกิจกรรมด้านการเป็นนวัตกรสังคม ซึ่งตรงกับสมรรถนะที่สถาบันเรียนรู้และสั่งสมขึ้นมา
วิจารณ์ พานิช
๒๘ มิ.ย. ๖๓