ผมมีโอกาสได้อ่านประวัติและบทความที่เป็นข้อคิด ความเห็น อันมีคุณค่า..ของ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก “บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย” ซึ่งท่านได้ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยวัย ๙๕ ปี ท่านเป็นนักวิชาการ เป็นนักคิด นักเขียน มีผลงานการเขียนหนังสือมากมาย
ผมอ่านพบข้อความตอนหนึ่ง ที่ท่านเขียนไว้ เพื่อมอบเป็นความรู้และประสบการณ์แก่อนุชนรุ่นหลัง..ความตอนหนึ่งมีดังนี้
“ผมบอกลูกศิษย์เสมอว่า หากมีโอกาสได้เข้าเรียน หรือเข้าทำงาน ให้เคารพคนที่มีประสบการณ์จากชีวิตจริง ไม่ใช่เคารพคนจบสูง มีเงิน มีอำนาจ...”
ท่านระพี..มองเข้าไปถึงชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ได้ลึกซึ้งถึงแก่นจริงๆ เพราะคนไทยจะเป็นเช่นนั้น ยกย่องนับถือคนมีเงิน ให้เกียรติคนที่เรียนจบสูงๆ มีดีกรีเป็นด๊อกเตอร์ และนับถือศรัทธาตลอดจนยกย่องและยอมรับในอำนาจของนักการเมืองตลอดมา
ประเทศที่เจริญแล้ว แถบยุโรปและอเมริกา เลิกคิดถึงเรื่องพวกนี้มานานแล้ว จบสูงก็ใช่ว่าจะทำงานได้ดี มีเงินก็ใช่ว่าจะมีทุกอย่าง บางคนไม่มีคุณธรรมเลยด้วยซ้ำ ส่วนนักการเมือง เขาถือเป็นเรื่องของความเสียสละ ทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องการสืบทอดอำนาจ
แถบเอเชีย..นับวันยิ่งชัดเจน ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและสิงคโปร์ จะยอมรับคนที่มีทักษะฝีมือ มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าตัวปริญญา การเรียนจบสูงๆ จึงวัดคุณค่าหรือคาดหวังไม่ได้ว่าจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ
ที่สุดแล้ว..ก็ต้องยอมรับ “ชีวิตจริง” ที่สั่งสมทักษะความรู้และประสบการณ์ เรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แก่ปัญหามาอย่างยาวนาน..ก็สมควรแล้ว ที่จะต้องได้รับการยอมรับและให้ความเคารพ..ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใดก็ตาม..
ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บริหาร ท่านศาสตราจารย์ระพี สาคริก ยังมีแนวคิดที่น่าสนใจ ดังนี้
“หากมีโอกาสเจอหรือสัมผัสผู้บริหาร ให้เลือกผู้บริหารพันธุ์ดี คือคนที่ดีต้องโตมาจากการเรียนรู้ระดับล่างสู่บนได้..” ท่านได้อธิบายเพิ่มเติม โดยยกตัวอย่างงานด้านเกษตรกรรม “ซึ่งงานด้านเกษตรนั้น หากใครจะทำวิชาการด้านการเกษตร ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานระดับติดดินได้”
“ไม่ใช่อ้างแค่ความรู้เมืองนอก เน้นนานาชาติ อ้างตำราที่ตัวเองอ่านมาแล้วมาทำงาน เพราะในชีวิตจริงต้องอยู่กับคนมากกว่าตำรา..แล้วอย่าลืมว่าความรู้ดิ้นได้ เปลี่ยนได้...”
ทำให้ผมคิดถึงและเทียบเคียงกับวงการครู..ที่สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน..มุมมองของผม..ในอนาคตที่ใครๆก็อยากเห็นและอยากได้ผู้บริหารพันธุ์ดี
ผมคิดว่า..ผู้บริหารต้องมาจากครูที่เป็นครูมานาน มีวิทยฐานะที่สูงพอสมควร ประสบการณ์ตรงนี้ จะทำให้ได้ทั้งคุณวุฒิ และวัยวุมิ ตลอดจนวุฒิภาวะที่เหมาะสม อันเนื่องมาจากการบ่มเพาะการทำงานวิชาการและงานบุคคลในโรงเรียนที่มากพอ
ที่สำคัญ..ความสอดคล้องต้องกันของรายได้และประสบการณ์ คือมีค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือตัวเองและดูแลครอบครัวได้แล้ว..ที่จะไม่เป็นปัญหาต่อตนเองและผู้คนรอบข้าง
ณ วันนี้..กระทรวงศึกษาธิการและสพฐ. กำลังคิดในแบบที่ผมคิด กล่าวคือ คนที่จะเป็นผู้บริหารได้ ต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ หรือมองกันที่ประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นอย่างไร? ความชัดเจนจะปรากฏในไม่ช้านี้
และวันนี้อีกเช่นเดียวกัน..เพื่อนรุ่นน้อง เคยเป็นครูมาก่อน ตอนนี้เป็นศึกษานิเทศก์อยู่เมืองนนท์ มีดีกรีเป็นด๊อกเตอร์..ความรู้ความสามารถและประสบการณ์เพียบพร้อม..
เพื่อนบอกผมว่า..สอบได้และขึ้นบัญชี ผอ.รร.กำลังถูกเรียกตัวให้ไปเลือกโรงเรียนในเร็ววันนี้..และยังบอกด้วยว่า..เป็นโรงเรียนประถมขนาดเล็ก อยู่อำเภอไทรน้อย...
ผมยังไม่ได้คิดอะไร..นอกจาก..นึกถึงผู้บริหารพันธุ์ดี ซึ่งเพื่อนคนนี้ น่าจะเป็นได้อย่างแน่นอน
เพื่อนผมลังเล..ให้ผมช่วยตัดสินใจ เพราะตำแหน่งศึกษานิเทศก์ก็มีความมั่นคงและก้าวหน้าได้ ส่วนผู้บริหารสถานศึกษานั้น หากโรงเรียนขนาดเล็กก็อาจจะต้องเหนื่อยกว่าปกติ...จึงคิดหนัก..
ผมเลยเสนอแนะ..ให้หาข้อมูลรอบด้าน มาสนับสนุนความคิดของตัวเอง ก่อนตัดสินใจ..และวางเป้าหมายชีวิตไว้อย่างไร? ตั้งใจจะทำงานเพื่อใคร..ตนเองหรือสังคม....
ตอนนี้ผมคิดว่า เพื่อนต้องหาหัวใจให้เจอ...เมื่อเจอแล้ว จะทำงานอะไร?..ตำแหน่งไหน? กับใคร?..ก็มีความสุข..ครับ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓๑ มกราคม ๒๕๖๓
ไม่มีความเห็น