เที่ยวจังหวัดประจวบกับสุภัชชา.พันเลิศพาณิชย์ตอน.ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สิรินาถราชินี


เที่ยวจังหวัดประจวบกับสุภัชชา.พันเลิศพาณิชย์ตอน.ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สิรินาถราชินี 



ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สิรินาถราชินี ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 786 ไร่ เขียวขจีไปด้วยพรรณไม้ป่าชายเลนที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ก่อนที่ป่าจะอุดมสมบูรณ์ เช่นวันนี้ แต่เดิมป่าชายเลนของ ปากน้ำปราณเคยตกอยู่ในสภาพเสื่อม โทรมอย่างหนัก สาเหตุมาจากการทำนากุ้งจนทำให้ดินเสียซึ่งเป็น สาเหตุหลักของการเสื่อมโทรมของป่าชายเลนแห่ง อื่นๆ เช่นกัน ถือเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เดิมทีเป็นนากุ้งที่ได้รับสัมปทาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า – คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราณบุรี กรมป่าไม้ได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง แล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ พัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนและกำหนด ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการปลูกป่าและพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนในเวลาต่อมา


เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้เริ่มมีการเจริญเติบโตเร็วขึ้น มีรากหาอาหาร รากค้ำยัน และรากอากาศเพิ่มขึ้น และในปี 2547 ได้พัฒนาแปลง ปลูกป่าชายเลนบางส่วน ให้เป็นศูนย์ศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน และห้องเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าชายเลน โดยได้รับพระมหา กรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชินีนาถ พระราชทานชื่อว่า “สิรินาถราชินี” จนมาถึงปัจจุบัน นากุ้งเสื่อมโทรมจึงได้ กลายเป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศป่าชายเลนฟื้นกลับคืน มาอีกครั้ง ที่ศูนย์ฯ สิรินาถราชินีนั้นเปรียบความสำคัญของ ป่าชายเลนเสมือนเป็น “มดลูกของทะเล” เพราะเป็นทั้งแหล่งกำเนิด แหล่งอาศัย แหล่งอนุบาลและ เป็น แหล่งอาหารตามธรรมชาติของสรรพชีวิตในห่วงโซ่อาหาร เหมือนมดลูกของมารดาที่โอบอุ้มบุตรในครรภ์ให้อบอุ่นปลอดภัย ก่อนที่จะออกไปเผชิญ กับโลกภายนอก เมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้จึงทำให้เห็นภาพความสำคัญป่าชายเลนได้อย่างชัดเจนทีเดียว

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


เส้นทางเดินมีสิ่งที่น่าสนใจคือ “ต้นโก
งกางประวัติศาสตร์” หรือต้นโกงกางใบเล็กจำนวน 2 ต้น ที่ ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระเทพฯทรงปลูกที่ศูนย์แห่งนี้ ต้นโกงกางถือเป็นไม้เด่นประจำป่าชายเลน และด้านในศูนย์ได้รับ 10 สุดยอดประสบการณ์ “มหัศจรรย์ป่าสร้าง” ที่รวมความหลากหลายบรรยากาศแห่งความประทับใจไว้ ภายในโครงการมีการทำทางเดินไว้อย่างดี เหมือนห้องแสดงนิทรรศการที่มีชีวิต มีป้ายบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนผืนป่าแห่งนี้ พร้อมร่วมสำรวจธรรมชาติบนเส้นทาง คันนากุ้ง (เดิม) และแวะชมต้นโกงกางประวัติศาสตร์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูก หรือหากใครอยากเห็นวิวสวยๆแบบ 360 องศา ต้องออกแรงเดินขึ้นไปบนหอชะคราม ก็จะได้เห็นวิวป่าปลูก ทะเล และปากน้ำปราณบุรีที่กว้างไกลสุดสายตา
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จัดทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติจัดทำเป็นสะพานไม้ทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตาม ป่าชายเลน ซึ้งเราจะได้ชมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ทั้ง โกงกาง โปรงแดง ตะบูนดำ โดยจะมีป้ายข้อมูลให้ความรู้ อยู่เป็นระยะ เส้นทางบาง
ช่วงจะเห็นรากของ ต้นโกงกา แผ่สาขาใหญ่โตกลายเป็นศิลปะทางธรรมชาติที่งดงามแปลกตา บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ นอกจากจะได้รู้จักกับพรรณไม้ต่างๆ ในป่าชายเลนแล้ว ยังได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน เช่น ปูก้ามดาบ หอยขี้กา กุ้งดีดขัน ที่ช่วยย่อยสลายอินทรียสารด้วยการกินใบ โกงกางและพืชชนิดอื่นๆ แล้วย่อยออกมาเป็นมูล เป็นปุ๋ย ช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้ดิน และยังช่วยในการหมุนเวียนของสารอาหารในระบบนิเวศป่าชายเลนส่วนปลา ชนิดต่างๆ ก็เป็นตัวบ่งชี้ความ อุดมสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน โดยปลาที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนตลอดชีวิต ตั้งแต่เป็นปลาตัวเล็กจนโตเต็มวัย ได้แก่ ปลาตีน ปลากระบอก ปลาหมอเทศ ปลาแป้นเหลืองทอง เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีนกกินเปี้ยว หรือนกกระเต็นชนิดหนึ่งที่กินปูเปี้ยวเป็นอาหาร จัดเป็นนกที่มีสีสัน สวยงามที่สุดในบรร

ดานกป่าชายเลน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, รองเท้า และสถานที่กลางแจ้ง


นอกจากนี้ช่วงระหว่างกลางทางเดิน มีท่าเรือขนาดเล็กเชื่อมกับสะพานทางเดินฯ ซึ่งเป็นจุดที่พักเรือ สามารถทำกิจก
รรมล่องเรือ สัมผัสกับความงามตาม ธรรมชาติและศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลนทางน้ำ มีพันธุ์ไม้นานาชนิดและรวมทั้งชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ริมคลอง ราคาประมาณ 350 บาท (8 คน) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โทร 089 919 3869 080 044 4831

ในภาพอาจจะมี 1 คน, รองเท้า และสถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี สุภัชชา พันเลิศพาณิชย์, สถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง


จนมาถึงเส้นทางสุดท้ายเป็นส่วนของต้นโปรงมีหอคอยชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของป่าชายเลนได้แบบ 360 องศา เป็นจุดชม วิวทิวทัศน์ป่าชาย เลนสิรินาถในมุมกว้างได้แบบไม่มีอะไรบดบั
สายตา และในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมอง ไปได้ไกลถึง ปากแม่น้ำปราณบุรี อุทยานแห่งชาติเขาสาม ร้อยยอด ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง ซึ่งแต่ละด้านของหอชะครามจะมีป้ายสื่อความหมาย ให้ข้อมูลว่าภาพเบื้องหน้าเรานั้นมีอะไรเป็นจุดสนใจบ้างและยังมีภาพ เปรียบเทียบก่อนและหลังการสร้างป่าจากนากุ้งร้างให้ชมกันด้วยคะ

https://www.facebook.com/plngp...
หมายเลขบันทึก: 666210เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2019 10:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม 2019 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท