@chokdeemeechai
วิชาชีวิตเพื่อความมั่นคงทางจิตใจ โชคชัย คงบวรเกียรติ

อ่านเจตนาที่แท้จริงของคนใ้ห้ออก10 ตอน (Context) Part of the Body and Body Language Signs ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่บ่งบอกความหมาย ภาษาทางกาย


(Context เนื้อหาองค์ประกอบ) Part of the Body and Body Language Signs ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่บ่งบอกความหมาย ภาษาทางกาย

ขออธิบายถึง การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Gestures) สื่อความหมายเชิง สัญลักษณ์แทนคำพูด ที่เห็นแล้วรู้ความหมายได้เกือบทุกคนเช้าใจได้

                  การวางท่าทาง ท่วงท่า (Postures) ที่สื่อความหมายเกี่ยวกับ ทัศนคติ ที่เขามีความรู้สึกนึกคิด ในขณะนั้น ๆ

Head and Body Position ต่ำแหน่งศรีษะและร่างกาย (ศรีษะ คอ ไหล่ อก ลำตัว สะโพกเอว ก้น เป้าหว่างขา) เป็นภาษาทางกายที่ บ่งบอกความหมายแทนคำพูดได้มากมายหลากหลาย

Head ศรีษะ

                ต่ำแหน่งของศรีษะ มีส่วนสำคัญนการสื่อความหมาย ทัศนคติ และอารมณ์ ที่เขามีความรู้สึกนึกคิด ในทางบวก หรือทางลบ รวมถึง ทิศทางการโน้มศรีษะที่บ่งบอกถึง ความสนใจ ความต้องการเข้าใกล้ เพื่อสร้างความเป็นมิตร หรือ การรุกล้ำคุกคาม เข้าโจมตีทำร้าย ฝ่ายตรงข้าม

  • - Head Looking Up ยกหัวขึ้นมองขึ้นไปข้างบน

                1) รู้สึกดี มีความสุข สนุกสนาน ปิติยินดี

                2) ครุ่นคิด ใช้ความคิด จิตนาการ ฝันกลางวัน ตัดขาดความสนใจต่อสิ่งต่าง ๆ รอบข้าง กำลังมีความสุขกับตัวของเขาเอง

                3) เบื่อหน่าย ตามองบน เมื่อไหร่จะผ่าน หรือจบไปสักที

  • - Head Raise ขยับศรีษะยกหัวขึ้น พร้อมกับยกคิ้วขึ้น จ้องมอง แสดงความสนใจ อยากมีส่วนร่วม
    • § Snobby Look ทำหัวสูงมองลง ยกหัวขึ้นไปด้านหลัง คางยกเชิดไปข้างหน้า คางชี้ มองต่ำ จ้องมองผ่านจมูก บ่งบอกถึง หยิ่งยโส จองหองถือตัว อวดดี ดูหมิ่นเหยียดหยาม การแสดงความเหนือกว่า มีต่ำแหน่งสถานะสูงกว่า           หรือมองอย่างสงสัย มองลอดจมูก ยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง      

    Chin คาง คางเป็นจุดสังเกตที่สำคัญอีกแห่ง เพราะสามารถบ่งบอก อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ ของเขาได้

    • - Chin Lower คางก้มต่ำ ปิดป้องกันลำคอ จากอันตรายทางร่างกาย เพื่อป้องกันตนเองตามสัญชาตญาณ และทางจิตใจที่ถูกคุกคาม หรือ กลัว รู้สึกไม่สบายใจ เศร้าเสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้ เหนื่อยล้า วิตกกังวล อึดอัดใจ
    • § คางต่ำลง ขี้อาย เขินอาย ไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบสายตา หรือ กลัวฝ่ายตรงข้าม
    • § คางลดต่ำ ตามองที่พื้น  รู้สึกผิด สำนึกผิด มีความรู้สึกไม่ดี
    • § คางลดต่ำ ถอยศรีษะและลำตัวถอยหลัง ทำหน้ารังเกียจ ปากแบะ ทำตาปี๋ หรี่เปลือกตาหดเล็กลง ขมวดตาเกือบปิดตา ขมวดคิ้ว หน้าผากย่น ร่องแก้มยับ ไม่ได้รูป ส่งเสียง "อี๋ แยะยี้ ขยะแขยง"
    • - Chin Raise คางเชิดขึ้น ศรีษะเงยไปด้านหลัง อวดดี หยิ่งยโสโอหัง ดูหมิ่นดูแคลน อิจฉา ริษยา
    • § คางเชิดยกขึ้นเล็กน้อย แสดงถึง ความมั่นใจ ภาคภูมิใจในตนเอง
    • § คางเชิดขึ้นเล็กน้อย และเอียงศรีษะเล็กน้อย แสดงถึง การดึงดูดใจ ยั่วยวน เสน่หา
    • - Chin Jut คางยื่น ยกขึ้น แสดงถึง การต่อต้านขัดขืน ไม่ยอม เป็นปรปักษ์ เตรียมพร้อมจะรับมือ หรือโต้ตอบได้เสมอ
    • § คางยื่นยกขึ้น โน้มศรีษะและลำตัวไปข้างหน้า เปิดไหล่กว้าง แอ่นอก แสดงถึง การคุกคาม รุกล้ำ ความก้าวร้าว แยกเขี้ยวยิงฟัน หมายมุ่งทำร้ายฝ่ายตรงข้าม
    • § คางยื่นขึ้นเล็กน้อย ยื่นศรีษะไปข้างหน้าเล็กน้อย หรือ คางชี้ยื่นไปด้านข้าง เพื่อเข้าใกล้สิ่งที่เขาความสนใจ อยากรู้อยากเห็น
    • - Chin Pointer คางชี้ แสดงความสนใจ เมื่อมีการสนทนากันเป็นกลุ่ม เราก็จะชี้คางไปทางคนที่กำลังพูดอยู่ เพื่อให้ความสนใจกับเขาว่าเราฟังเขาพูดอยู่ และถ้ามีคนอื่นพูดขึ้นมาแทน เราก็จะชี้คางหันหน้าไปทางคนที่พูดขึ้นมาว่าเราสนใจในสิ่งที่เขาพูดอยู่ในขณะนี้นะ
    • § คางชี้ทาง ใช้แทนภาษามือ และภาษาพูด "ทางนี้ ทางนั้น"
    • - Wrinkle and Pucker ร่องรอย ยับย่น คางมีร่องใต้ริมฝีปากล่าง เกี่ยวพันกับ การยิ้ม  หัวเราะ อ้าปาก
    • § คางมีรอยบุ๋ม หรือรอยย่นยับที่คาง เกี่ยวข้องกับ การทำปากแบะ ปากมุ้ย ปากจู๋ ส่งจูบ เม้มปากแน่น กันฟันแน่นเห็นร่องคางและร่องที่กราม การแยกเขี้ยวยิงฟันและสีหน้ากลัวอ้าปากค้าง หรือแสยะยิ้มฉีกฟัน
    • § คางขยับ กำลังเคี้ยวรัประทานอาหารอยู่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งในปาก
    • § คาง จะสัมพันธ์เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับ ใบหน้าและหัว จึงมีความหมายในทำนองเดียวกับ หันหน้า ก้มหน้า เงยหน้า เอียงหัว ยื่นศรีษะยื่นคางโน้มหัวและโถมลำตัวไปข้างหน้า (Directional แนวโน้มทิศทางที่จะไป) หรือ (เข้าหาเข้าใกล้  Approach)

    Neck คอ

    • - Neck Opened เปิดคอ มั่นใจในตนเอง ถ้าเชิดคาง หมายถึง หยิ่งยโส โอหัง อวดดี ยั่วยวน ต่อต้าน ขัดขืน เป็นปรปักษ์
    • - Closed ปิดคอ ก้มหัว คางต่ำลง ปิดลำคอเพื่อป้องกันอันตราย
    • § หดคอ ยกไหล่ขึ้น จนกระดูกไหปลาร้าชนกัน กรามขากรรไกร กลัวมาก ๆ ป้องกันตัวจากอันตราย หรือการจู่โจมทำร้าย ถ้ายกมือแขนกัน ตั้งกราดป้องกันตัว เหมือนนักมวย ป้องกันการจู่ตีจากคู่ต่อสู้
    • § หดคอ ยังหมายถึง ไม่สบายใจ ลำบากใจ อึดอัดใจ กระวนกระวายใจ
    • - Turned การหันคอไปยัง จุดที่สนใจ เพื่อความสนใจอยากรู้อยากเห็นในสิ่งนั้น ๆ และหันคอหนี เพื่อละความสนใจ ไม่แยแส
    • § การหันคอเพื่อเพิ่มมุมมองให้กว้างขวางมากขึ้นในทิศทางที่หันไป
    • § การสะบัดคอไปมา ออกกำลังกายที่คอ เพื่อควายความตึงเครียด เมื่อยล้า และ เบื่อหน่าย
    • § สะบัดคอ เพราะ งอนค้อน ไม่ถูกใจ ต้องการให้คนอื่นเห็นเพื่อมาง้องอนขอคืนดี หรือทำให้เธอสบายใจขึ้น
    • § สะบัคอ เพื่อสยายผม ออกแนวเซ็กซี่ เย้ายวนเสน่หา
    • - Covering or Touching มือปิดคอ ก้มคาง กันปกป้องตนเอง
    • § ยกฝ่าหงายมือขึ้น ระดับเดียวกับคอ หมายถึง ห้ามเข้ามานะ และพร้อมจะผลักออกให้พ้นตัว หรือถ้าฝ่ามือห่างกันช่วงไหล่ หมายถึง ยอมแพ้ ยอมจำนน "ในมือฉันไม่มีอะไรนะ ฉันยอมแพ้แล้ว"
    • § มือสัมผัส จับที่คอ โกหก หรือ ลำบากใจ ไม่สบายใจ ในสิ่งที่เขาพูด หรือคิดที่จะพูดสร้างเรื่องโกหก
    • § มือจับที่คอ หมายถึง การระคายเคืองที่คอ หรือเจ็บที่คอ คอแห้ง หรือกังวลเรื่องการดื่มและการกิน
    • § การจับ ลูบ สัผัส บีบ นวด ข้างหลังคอ หรือท้ายทอย แสดงถึง ความวิตกกังวล และความเครียด และเป็นการชดเชย บรรเทาความเครียด หรือการปราบยับยั่งไม่ให้โกรธ ไม่พอใจ รำคาญ ยับยั่งปรามการพูดเกินจริง หรือช็อค ประหลาดใจ
    • § มือประสานหลังคอ หรือ มือประสานท้ายทอย แอ่นไปข้างหลัง พิงหนักพิง แหงนหน้าขึ้น เพื่อคลายความเครียด หรือรู้สึกผ่อนคลาย สบาย ๆ
    • - การกระแอม เคลียร์ลำคอ เพื่อให้โล่งสบายคอ หรือเพื่อจะแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเขากำลังจะพูด
    • - กลืนน้ำลาย เพราะ อยู่ในสภาวะลำบากใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อึดอัด กังวลใจ รู้สึกไม่สบายใจ และน้ำลายสอ มีความอยากกินอาหารดื่มน้ำ จึงกลือน้ำลาย
    • - เมื่อไม่สบายใจ ลำคอจะตึงเครียด เกร็ง ทำให้ลดหมายใจติดขัด ส่งผลต่อการออกเสียงพูด น้ำเสียง สั่นเครือ เสียงเปลี่ยนเล็กน้อย หรือระคายเคืองที่ในลำคอ น้ำลายเหนียวข้น หรือคอแห้ง ออกเสียงพูดลำบากมาก อึดอัด หรือเลือดไปหล่อเลี้ยงที่ลำคอไม่สะดวกติดขัด เส้นเลือดที่คอแดง อาการเกร็งที่คอ
    • - เมื่อไม่สบายใจ เหงื่อไหลไคลย้อย ทำให้ระคายเคืองที่รอบคอ และปกเสื้อ

    Shoulders ไหล่

    • - Raise ยกไหล่ขึ้น ก้มหัวต่ำ คางปิดป้องกันคอ กลัว ไม่ไว้วางใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย
    • § ยกไหล่ขึ้นทั้งสองข้าง หอไหล่ หดคอ กระดูกไหปล้าร้าชนติดกับกราม หมายถึง ป้องกันตัว หวาดกลัว
    • § ยกไหล่ขึ้น มือแขนกอดอกแน่น หรือโอบกอดไหล่ กอดตัวเอง บ่งบอก หนาวสั่นสะท้าน หรือ ค่อนข้างตึงเครียด หรือ กลัว วิตกกังวล
    • § ยกไหล่ขึ้น แผ่ขยายใหญ่ ยื่นไปข้างหน้า แอ่นอก หรือขยายไหล่ไปด้านหลัง ทำตัวให้ใหญ่กว้างขึ้น ยื่นศรีษะไปข้างหน้า เชิดคาง กางมือแขนออกค่อนไปทางด้านหลัง หมายมุ่งเข้าปะทะ จู่โจมทำร้ายฝ่ายตรงข้าม แสดงถึง ความก้าวร้าว
    • - Opened เปิดไหล่ อกผายไหล่ผึ่ง แสดงความมั่นใจ หรือ ผ่อนคลาย
    • § เปิดไหล่ อ้าแขนออกด้านข้างเป็นวงโค้ง ผายฝ่ามือหงายออก ยิ้มให้ด้วยใบหน้า แสดงความเป็นมิตร ทำได้เฉพาะคนที่สนิทสนมสัมพันธ์ใกล้ชิด เพื่อเชิญชวนให้มากอดกัน โผเข้าหา หรือรอให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหาสวมกอดกัน เพื่อแสดงความรัก ร่วมปิติยินดี หรือแบ่งปันความสุข ความอบอุ่น หรือปลอบโยนกัน ถ้าเป็นเด็ก หมายถึง ช่วยอุ้มหน่อย หรือ กอดหน่อยจ้า
    • § เปิดไหล่กว้าง ยกขึ้นเล็กน้อย แอ่นอก เท้าสะเอว หรือ มือไขว้หลัง แสดงอำนาจ ความเหนือกว่า เบ่ง ข่ม คนอื่น
    • - Reduced หดห่อไหล่เข้า
    • § ไหล่ห่อ หดโค้งเข้า ทำตัวเล็กลง งอตัวเล็กน้อย ศรีษะลำตัวเอนไปด้านหลัง หมายถึง กลัว หรือ ป้องกันตนเอง จากอันตรายไม่ปลอดภัย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    • § หดไหล่เข้า โน้มถอยตัวไปด้านหลัง หวาดระแวง หวาดกลัว ไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยจากคนและสถานการณ์
    • § หดไหล่ กอดอก แสดงถึง ภาษากายปิดกั้น หรือ ป้องกันตนเอง  เมื่อรู้สึกถูกคุกคาม รบกวน พื้นที่ปลอดภัย(Comfort Zone) หรือพื้นที่ส่วนตัว(Private Zone)
    • - Shrug ยักไหล่
    • § ยักไหล่ขึ้น ทั้งสองข้างเล็กน้อย ผายฝ่ามือหงายออกด้านข้าง การยอมรับ ยอมจำนน หรือ การขอโทษ ปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น "ฉันเสียใจ, ฉันไม่สามารถทำให้คุณได้" หรือ "เสียใจ, ฉันไม่รู้, ฉันไม่ได้ทำนะ,อย่ามาโทษฉันนะ"
    • § ถ้าส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมยักไหล๋ด้วย หมายถึง ไม่แน่ใจ หรือไม่เข้าใจ "ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด"  ถ้ายกคิ้วขึ้นทำตาโต "มีอะไรหรือเปล่า ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย ฉันไม่เข้าใจ"
    • § ยักไหล่ขึ้นทั้งสองค่านข้างเร็ว หมายถึง ไม่แน่ใจ ไม่เข้าใจ แต่ถ้ายักไหล่เคลื่อนไหวเร็ว ตกใจ ที่ได้ยินเสียงดัง หรือเห็นอะไรกระทันหันที่ทำให้ต้องตกใจกลัว
    • § ยักไหล่เคลื่อนไหวช้า ไม่พอใจ คับข้องใจ และหงิดหงิด ฉุนเฉี่ยว โกรธ พร้อมจะแสดงความก้าวร้าว ปะทะจู่โจม
    • § ยักไหล่ พร้อมกับพูดไปด้วย ซึ่งดูผิดปกติ หมายถึง การโกหก
    • - Partial Shrug ยักไหล่ข้างเดียว บางครั้งก็มีความหมายเดียวกับยักไหล่ทั้งสองข้าง คือ "เสียใจ ฉันไม่เข้าใจ"
    • § ยักไหล่ข้างเดียว ไม่ใส่ใจใยดี ไม่สนใจ "ช่างมัน ฉันไม่แคร์"
    • § ยักไหล่ข้างเดียว เมื่อคนเราไม่สบายใจ ไม่ปลอดภัย หรือ ไม่รักษาคำมั่นสัญญา หรือรู้สึกผิดที่ไม่พูดความจริง โกหก ปิดบังความจริงบางอย่าง ที่ทำให้ดูมีพิรุธ
    • § ยกไหล่ขึ้นค้างไว้ข้างหนึ่ง ไม่น่าไว้วางใจ เชื่อถือไม่ได้ในสิ่งที่เขาพูด และถ้าในทางตรงกันข้ามกลับกัน คุณเป็นผู้พูด แล้วคู่สนทนาฟังอยู่ ยกไหล่ขึ้นข้างหนึ่ง หมายถึง เขาไม่เชื่อ ไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่คุณพูด มีความรู้สึกต่อต้านเล็กน้อย
    • - Attraction Shrug ยักไห่ลดึงดูดใจ ยั่วยวน น่ารัก แสดงการยอมรับ
    • § ยักไหล่ขึ้นข้างหนึ่ง เอียงคอ หันหน้าไปข้างเดียวกับที่ยักไหล่ เชิดเชยคางเล็กน้อย ติดกับหัวไหล่ หรือ บางส่วนของหน้าสัมผัสกับไหล่ ยี้มหวาน มองชม้ายตาด้วยมุมหางตา หมายถึง มีเสน่ห์ ยั่วยวนใจ และดูน่ารักเหมือนเด็ก หยอกล้อขี้เล่น น่าเข้าใกล้
    • - Turning หันไหล่
    • § หันไหล่ บ่งบอกถึง การละความสนใจ มต้องการจะจากออกไป จากการสนทนา
    • § การหันไหล่ โดยที่หน้าและดวงตายังคงจ้องมอง คู่สนทนาอยู่ หมายถึง ฝ่ายตรงข้ามพูดคุกคามเขาทำให้เขารู้สึกไม่บายใจที่จะอยู่ต่อ  ต้องการจะจากไป แต่ยังหาจังหวะอยู่ หรือ ไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ กำลังจะปลีกตัวออกไป
    • - Shaking ส่ายไหล่ไปมา กริยาเหมือนเด็ก อยากได้ขนม ของเล่น แล้วพ่อแม่ไม่ซื้อให้ ประชด ไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจที่เขาต้องการ "เขาอยากได้อ่ะ ไม่เอา ไม่ยอม " ยังหมายถึง ปฏิเสธ "ไม่เอา ฉันไม่ต้องการ" ได้ด้วย
    • - Relaxed ผ่อนคลาย ไหล่หลู่ ลาดลง ไม่มีการเกร็ง ปล่อยวางทิ้งน้ำหนัก แขน มือ เป็นอิสระ

    Chest หน้าอก

    • - Thrust Out and Extended ยืดอกผาย แอ่นอก ทำให้ตัวดูใหญ่ขึ้น
    • § ผู้ชาย ยืดอกแอ่นอก อกผายไหล่ผึ่ง แสดง พละกำลังวังชา เข็มแข็งแรงสมชายชาตรี เพื่ออวดเพศตรงข้าม ดึงดูดใจ ผู้หญิงแทนคำพูดว่า "ฉันแข็งแรง  สามารถปกป้องคุณและลูกของคุณได้"
    • §  และแสดงความเหนือกว่า การข่ม เบ่ง เพศเดียวกัน "ฉันแข็งแรงกว่า ฉันใหญ่กว่าคุณ หลบไปให้พ้นทาง" เหมือนสัตว์โชว์ความแข็งแรงกว่าเพื่อแย่งตัวเมีย แต่คนโชว์อก และเปิดเป้าโชว์หว่างขา บางทีโชว์กล้ามแขน กำหมัด ยกแขนขึ้นระดับเดียวกับไหล่ เบ่งกล้ามโชว์พลัง
    • § ผู้หญิง ยืด แอ่นอก เพื่อยั่วยวน ดึงดูดใจ กระตุ้นเร้าอารมณ์ความต้องการทางเพศของฝ่ายชาย ซึ่งเป็นเรื่อปกติธรรมชาติอย่างหนึ่งของคน บางครั้ง แอ่นอก บิดไหล่และบิดลำตัวเล็กน้อย แอ่นก้น ให้เห็นสัดส่วนเว้าโครงในรูปร่างที่สมส่วนของเธอ และบางครั้ง กอดอกใต้ราวนม เพื่อเน้นดันทรงหน้าอกให้ดูเด่น แน่นกระชับดูใหญ่ขึ้น หรือมือจับที่หน้าอกแต่ไม่ใช่นมนะ เพื่อสะดุดดตา เป็นจุดสนใจเป้าสายตาของฝ่ายชายให้เขาอยากเข้าหา มาใกล้ทำความรู้จักกับเธอ แทนคำพูดว่า "ฉันดูดีสมบรูณ์ สามารถดูแลคุณและลูกของคุณได้"
    • - Leaning ยื่นอก แอ่นอกออกไปข้างหน้า โน้มศรีษะและลำตัวไปข้างหน้า เข้าใกล้ผู้อื่น หมายถึง ให้ความสนใจ อยากเข้าใกล้
    • § อีกความหมายหนึ่ง ยื่นอกแอ่นอก ยืดแขนข้อศอกไปข้างหลังเล็กน้อย โน้มลำตัวท่อนบนไปข้างหน้า(ศรีษะ คอ ไหล่ อก ลำตัว) เพื่อบุกรุกล้ำ คุกคาม ก้าวร้าว หมายจะทำร้าย จู่โจม ฝ่ายตรงข้าม "ฉันสามารถทำร้าย ตีคุณได้จากตรงที่ฉันอยู่ได้"
    • § เอียงร่างกายท่อนบนถอยหลัง หนี แสดงความไม่ไว้วางใจ ไม่ปลอดภัย หวาดกลัว
    • § เอียงไปด้านข้าง ละความสนใจ หรือ ต้องการที่จะจากไป ออกจากการสนทนา
    • § เอียงไปด้านข้าง ถ้ายกคิ้ว มองผ่านจมูก คางเปิดเชิดเล็กน้อย หมายถึง เชิงสงสัยตั้งคำถาม "มีอะไรกับฉันหรือเปล่า"  หรือ "คุยกับฉันอยู่หรือ" หรือ "รู้จักกับฉันรึ ฉันไม่รู้จักกับคุณเลย"
    • - Reduced หดห่ออก ทำให้ตัวดูเล็กลง
    • § หดอกเข้า ห่อไหล่ แสดงถึง ตัวของเขาอ่อนแอ ไม่เป็นภัย ไม่คิดจะทำร้ายใคร อย่ามาทำร้ายฉันนะ
    • § หดยุบอกเข้า ก้มหัวต่ำ เพื่อป้องกันตนเอง หรือ หดอก คอตก ลำตัวงอ หมายถึง เศร้า สลด ซึมเศร้า เสียใจ หดหู่ หงอยเหงา และรู้สึกผิด สำนึกผิด เป็นต้น
    • - Folding Arms on the Chest กอดอก สร้างเกราะป้องกันตัวเอง และ การปิดกั้นตนเอง เมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
    • § กอดอก แบบเผยให้เห็นหลังมือแผ่ออก เป็นการป้องกันตัวเองเพียงเล็กน้อย และกึ่งเปิดกึ่งปิด ไม่ได้ปิดกั้นตนเองมากนัก
    • § กอดอก แบบมือสอดเข้าไปใต้แขน หรือใต้รักแร้ไม่ให้เห็นมือ เป็นการปิดกั้นค่อนข้างมาก ปกปิด ไม่ต้องการที่จะพูดเปิดเผยความจริง หรือ ไม่ต้องการสนทนากับใคร หรือ ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น เป็นการต่อต้านดื้อเงียบ
    • § กอดอกแน่น บ่งบอกถึง ความตึงเครียด พยายามยับยั้งปรามใจตนเอง หรือ เย็นชา ปิดกั้น ป้องกันตนเองรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย กลัว
    • § กอดอก กำหมัด บ่งบอกถึง การป้องกันตนเองอย่างมาก พยายามยับยั้งชั่งใจ ปรามไม่ให้ทำตามใจตนเอง ไม่พอใจ  และพร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ใส่ หรือพร้อมที่จะปะทะจู่โจมทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ ถ้าเขาหมดความอดทน
    • § กอดอกด้วยมือข้างเดียว มือจับที่แขนเหนือข้อศอก อีกข้างหนึ่งปล่อยตรง บ่งบอก ยอมจำนน ไม่ได้บุกรุกคุกคาม และไม่ได้ปิดกั้นตนเอง แต่เป็นการแสดงความนอบน้อมถ่อมตน ถ้ากอดจับใต้ข้อศอก ที่แขนเหนือข้อมือ จะมีความหมายเดียวกันกับการนำมือกุมหน้าเป้าหว่างขา บ่งบอก การแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน และการแสดงความสุภาพ มั่นใจ ปลอดภัย
    • § กอดอกข้างเดียว มืออีกข้าง แกว่ง หรือจับสัมผัสส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย  เช่น การจับข้อมือ เพื่อขยับแขนเสื้อ กระดุมเสื้อ นาฬิกา กำไล แหวน โทรศัพท์มือถือ เพื่อปกป้องกันตนเอง หรือหาอะไรมาเป็นเครื่องขวางกั้น จากความไม่ปลอดภัย อึดอัด กระวนกระวาย ประหม่า สับสน หรือเบื่อหน่ายกับการรอคอย
    • § การกอดอก รอคอยใครสักคน หรืออึดอัดรอให้ถึงเวลาที่นัดหมาย
    • § เมื่อได้รับฟังข่าวร้าย กอดอกเป็นสัญลักษณ์ถึง การป้องกันตนเองจากข่าวร้าย หรือได้ยินในสิ่งที่ตนไม่ชอบ ไม่พอใจ ก็จะกอดอ
    • § กอดอก เอียงตัว หรือถอยหลัง เมื่อรู้สึกถึงการถูกคุกคามมากเกินไป
    • § กอดอกเมื่ออยู่คนเดียว หมายถึง ท่าทางที่เขารู้สึกสบาย รู้สึกดี หรือกำลังสนใจ หรือตื่นเต้น
    • § การกอดอก หมายถึง การปิดกั้นตนเอง มีเหตุผลที่ซ่อนปิดบัง หลอกลวง และแสดงถึง ไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ มีความคิดและพฤติกรรมในทางลบ ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้วางใจ
    • § การกอดอก บางครั้งหมายถึง การแสดงความเหนือกว่า และการแสดงการคุกคาม กอดอก กางแขน การไหล่ ยืออก ยืดตัวตรงทำให้ดูสูงขึ้น หรือโน้มไปด้านข้างหน้าเล็กน้อย หรือข้างหลักเล็กน้อย หรือพิงพนักเอนหลังของเก้าอี้ เงยเชิดคางเล็กน้อย มองด้วยสายตามองต่ำผ่านจมูกลงมาที่ฝ่ายตรงข้าม
    • § การกอดอก ยังมีความหมายนัยซ่อนอยู่ คือ ไม่เห็นด้วย ไม่ต่อรอง การยืนหยัด ยืนกราน ไม่ยอมแพ้ ต่อต้าน เป็นปรปักษ์ กอดอก เอียงคอ มองด้วยมุมหางตา หรือฉีกยิ้มที่มุมปาก
    • § การกอดอก ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย ยกตัวอย่าง การแสดงออกทางสีหน้าดวงตา การยืน การโน้มตัว มือที่จับกอดอก เป็นต้น จึงจะตีความหมายได้ชัดเจนถูกต้องมากขึ้น
    • - Breathing การหายใจ กระบวนการเคลื่อนที่แลกเปลี่ยนอากาศ หายใจเข้าเอาอ็อกซินเจน(Oxygen)เข้าปอด และ หายใจออกนำคาร์บอนไดอ็อกไซด์(Carbon Dioxide)ขับออกจากร่างกาย โดยปกติคนเรา จะหายใจ(เข้าออกเท่ากับหนึ่งครั้ง) ประมาณ 30-40 ครั้งต่อนาที
    • § การหายใจเข้า (Inhales) หายใจผ่านจมูก นำอากาศเข้าไปสู่ปอด ปอดขยายใหญ่ขึ้น ทำให้มีแรงดันเพิ่มขึ้น ดัน กระดูกซี่โครงขึ้น ทำให้อกขยายใหญ่และยกขึ้น จนเห็นกระดูกไหปลาร้าที่ไหล่ยกตัวสูงขึ้น กะบังลมลดเลื่อนต่ำลง พุงท้องยุบเข้า
    • § การหายใจออก (Exhales) กะบังลมเลื่อนสูงขึ้น ปอดหดตัวเล็กลง อกยุบหดเล็กลง จนกระดูกไหปลาร้าที่ไหล่ลดต่ำลง กระดูกซี่โครง อกเลื่อนต่ำลง ขับดันคาร์บอนไดอ็อกไซด์ออกมาจากถุงลมปอด ออกทางหลอดลม ส่งต่ออกมาทางจมูก
    • § อก เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ และเคลื่อนไหว เวลาที่สูดหายใจเข้า (อกยกขึ้นพุงยุบ) หายใจออก (อกยุบลงพุงป่อง) ซึ่งบ่งบอกได้หลายความหมาย อกกระพรืบ(ขยับยกขึ้นลงเป็นจังหวะ) ช้า หรือ เร็ว หายใจ ลึก หรือ ตื้น
    • § หายใจ ลึก และ ช้า หมายถึง ผ่อนคลาย มีความมั่นใจ หรือ สภาวะรู้ตัว มีสติสัมปชัญญะ กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือ สงบ
    • § หายใจ ลึก และ เร็ว หมายถึง สนุกสนาน ดีใจ หัวเราะ
    • § หายใจ ตื้น และ ช้า หมายถึง กลัว หรือ รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ไว้วางใจ หรือไม่พอใจ หงุดหงิด และคับข้องใจ
    • § หายใจ ตื้น และ เร็ว ถี่ขึ้น(ใจสั่นเต้นระรัว) หมายถึง โกรธ เครียด วิตกกังวล กระวนกระวาย ประหม่า หวาดกลัว อึดอัดลำบากใจ
    • § หายใจ ขาดช่วง ติดขัด ไม่เป็นจังหวะ หมายถึง กลัว ผิดหวัง กังวล หรือ ร้องไห้สะอึกสะอื้น หรือ กดดันตึงเครียด
    • § หายใจหอบ หมายถึง ตื่นตระหนก ตกใจกลัว ช็อค หรือ ประหลาดใจ ตื่นเต้น
    • § อารมณ์ทางบวก การหายใจ จะเป็น แบบ หายใจเข้าลึก หายใจออกช้าและยาว หรือ หายใจเข้าลึก หายใจออกเร็วแต่ไม่ถึงกับสั้นมาก (มีความสุข หัวเราะ สนุกสนาน มีความรัก ดีใจ ผ่อนคลาย เป็นมิตร)
    • § อารมณ์ทางลบ การหายใจ จะเป็นแบบ หายใจเข้าตี้น หายใจเร็วถี่ (ไม่พอใจ หงุดหงิด คับข้องใจ อิจฉา ริษยา รังเกียจ เหยียดหยาม เศร้าเสียใจ วิตกกังวล กระวนกระวาย อึดอัดใจ เครียดกดดัน รู้สึกผิด โกหก โกรธโมโห ก้าวร้าว จู่โจมทำร้าย)
    • § การถอนหายใจ ทั้งแบบไม่มีเสียง เพื่อบรรเทาความไม่พอใจ ไม่สบายใจ หงุดหงิด รำคาญ เบื่อหน่าย ไม่ได้ดั่งใจ
    • § และถอนหายใจ มีเสียงดังออกมา "เฮ้อ ฮา ฮือ ฮึ โฮย" เพื่อบรรเทาความคับข้องใจ ไม่พอใจ หรือ ผิดหวัง ท้อแท้ หมดอาลัยตายอยาก และ การปลงตก "ช่างมัน เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ"

                    โดยปกติคนเรา มีการหายใจอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวของเรา ปล่อยให้สมองสั่งการระบบหายใจทำงานในรูปแบบอัตโนมัติ โดยที่ตัวเราไม่รู้สึกถึงกระบวนการทำงานของการหายใจ แต่ถ้าเรามีสติรู้ตัว เราจะรับรู้สึกได้ถึง การหายใจเข้าหายใจออกที่จมูก ปอด อกเคลื่อนไหวกระพรืบขึ้นลงเป็นจังหวะ ที่สำคัญสามารถนำมาใช้ในการสังเกตการหายใจของคนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ เพื่อดูกริยาอาการของเขา และการหายใจของเขา มีความสอดคล้องกับอารมณ์ที่แสดงออกมาหรือไม่ และยังสามารถนำมาปรับใช้ประโยชน์ตัวของเราเอง เพื่อการควบคุมและปรับอารมณ์ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น และมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ และระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย และมีผลต่อสุขภาพจิตและระบบสุขภาพทางกายในระยะยาว ให้ดำเนินชีวิตยืนยาว

                    ไหน ๆ ก็เลยเถิดมาแล้ว เรื่องเกี่ยวกับหน้าอก ก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ อัตราการเต้นของหัวใจ ที่ยังสามารถนำมาสังเกตคู่สนทนาได้ ด้วยการสัมผัส จับมือ จับแขน จับไหล่ จับตัวของเขา ก็จะสามารถสังเกตหยั่งรู้ถ้าเรามีสมาธิจับชีพจร และรับรู้ได้ถึงความเร็วช้าในการเต้นของหัวใจของเขาได้ เพื่อมาเปรียบเทียบกับอารมณ์ในขณะนั้นที่เขาแสดงออกมาว่า มีความเป็นจริงแท้แค่ไหน เป็นการแกล้งทำหลอกลวงเราอยู่หรือเหล่า โกหกเราอยู่หรือไม่

                    อัตราการเต้นของหัวใจ ด้านบวก (ดีใจ หัวเราะสนุกสนาน) หัวใจจะเต้นสูงขึ้น ในระดับปานกลาง

                    อัตราการเต้นของหัวใจ ด้านลบ (โกรธ โมโห หงุดหงิดไม่พอใจ) หัวใจจะเต้นสูงขึ้น ในระดับสูงเต้นเร็วขึ้นมาก ความดันโลหิตขึ้น

                    หรือ การออกแรง ออกกำลังกายมา ก็ทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรง ความดันโลหิตขึ้นสูง

                    ดูความตื่นเต้น ตื่นตัว เตรียมพร้อม ปะทะจู่โจม การเต้นของหัวใจส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย เลือดไปเลี้ยงที่บริเวณใดมาก ก็จะมีสีชมพู่ จนถึงแดง และเมื่อเลือดไหลเวียนไม่สะดวกหรือมีน้อย หน้าก็จะออกซีดขาวเมื่อเกิดอาการหวาดกลัว หรือเขียวคล้ำเพราะเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอติดขัด รวมถึงอุณหภูมิในร่างกายด้วย เขามีความร้อนในตัวเพิ่มมากขึ้นจากการแสดงอารมณ์โกรธ โมโห หรือ อุณหภูมิลดลงจากการแสดงอารมณ์ กลัว

    ตัวเราทำตัวเหมือนเครื่องจับเท็จ ตรวจจับ ลมหายใจ(การกระพรืบของอก) ความดันโลหิต(สีหน้า) การเต้นของหัวใจ(การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายสัมพันธ์กับอารมณ์) และอุณหภูมิร่างกาย ประกอบด้วย

    https://sites.google.com/site/systembody302/respiratory_system

    https://en.wikipedia.org/wiki/Breathing

    http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=8&chap=2&page=t8-2-infodetail20.html

    https://psychcentral.com/lib/change-how-you-feel-change-how-you-breathe/

    https://www.sciencealert.com/the-way-you-breath-could-change-your-emotions

    https://networkmagazine.ie/articles/breath-life-link-between-breathing-and-emotions

    http://www.thewellspring.com/wellspring/breathing/379/breathing-and-emotions.cfm

    หมายเลขบันทึก: 665273เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2019 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม 2019 12:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (0)

    ไม่มีความเห็น

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท