ผมใช้หนังสือชุด”ศาสตร์พระราชา พัฒนาทั่วไทย” เป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาการอ่านสำหรับเด็กชั้น ป.๔ – ๖ เริ่มใช้มาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑
ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจที่ค้นพบหนังสือดีที่ตรงใจผม สอดคล้องกับงานที่ผมทำ คืองานพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ และงานสืบสานคำพ่อสอน
กิจกรรมการอ่านผ่านตัวหนังสือที่ว่าด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลากหลายโครงการฯ ทำให้นักเรียนได้ใกล้ชิดพระราชกรณียกิจของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙
นอกจากนักเรียนจะได้ความรู้ที่เกิดจากพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านแล้ว นักเรียนยังได้รับประสบการณ์ทางภาษาที่เรียงร้อยเรื่องราวที่เป็นมิติของธรรมชาติ
เช่นเดียวกับผมที่พยายามจะทำให้ครอบคลุมในทุกมิติ คือบูรณาการการเรียนรู้นอกห้องเรียน ในบทบาทของโรงเรียนขนาดเล็กที่ใช้แหล่งเรียนรู้เป็นฐาน
จัดกิจกรรมให้นักเรียนเข้าถึงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้ควบคู่การปฏิบัติ ให้นักเรียนซึมซับกระบวนการทำงานที่ต้องขยันหมั่นเพียรและพึ่งตนเอง..
ผมต้องการให้นักเรียนเข้าใจการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง เข้าใจว่าทักษะชีวิตเป็นสิ่งที่จำเป็นที่นักเรียนจะต้องใฝ่รู้ใฝ่เรียน และเรียนรู้ที่จะรักสิ่งแวดล้อมด้วย..
ในขณะเดียวกันนักเรียนจะต้องพัฒนาตนเอง..และเครื่องมือสำคัญก็คือการอ่าน ผมกำลังมีความสุขที่เห็นนักเรียนรักการอ่านที่จะนำไปสู่ทักษะการเขียนได้ในที่สุด
แต่ละสัปดาห์นักเรียนจะมีโอกาสได้อ่านโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับน้ำ โครงการพระราชดำริเกี่ยวกับดิน และที่เกี่ยวกับการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพ
สิ่งที่ผมทำ ไม่ได้อยู่ในหลักสูตรแกนกลางฯ ไม่มีในหลักสูตรสถานศึกษา และไม่ได้กล่าวถึงในนโยบายหรือจุดเน้นของกระทรวงฯ แต่ที่ผมต้องทำเพราะ..ผมรักในหลวง..
รักพระองค์ท่าน..และรักในทั้งหมดที่พระองค์ทำเพื่อพสกนิกร ถ้าผมไม่ได้นำมาสอนหรือถ่ายทอดสู่นักเรียน ผมคงนอนตายตาไม่หลับ..
เมื่อผมลาลับจากโลกนี้ไป..เชื่อว่าลูกศิษย์และลูกหลานจะจดจำและเข้าใจ ลึกซึ้งในเรื่องราวพระจริยวัตรของพ่อ สานต่อโครงการที่พ่อทำ โดยศึกษาจากสิ่งที่ผมพูดและเขียนเป็นบันทึกไว้
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ให้นักเรียนมั่นใจว่าผมจริงจังกับการศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากการที่ให้นักเรียนอ่านหนังสือศาสตร์พระราชาพัฒนาทั่วไทย
หลังจากที่นักเรียนชั้น ป.๕ อ่านหนังสือ”ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน”จบแล้ว ผมบอกนักเรียนในทันทีว่าครูจะเดินทางไปอ่าวคุ้งกระเบน ไปเห็นสถานที่จริง
ครูจะถ่ายภาพมาให้นักเรียนดู เหมือนทุกครั้งที่ครูได้ไปเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริยังที่ต่างๆ ไปเยี่ยมชมสถานที่ทรงงานของพระองค์ท่านเพื่อน้อมนำโครงการฯที่เป็นแบบอย่างอันดีในการศึกษา
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ผมออกเดินทาง..และในวันนั้นทำให้ผมทราบความเป็นมาเป็นไปของอ่าวคุ้งกระเบนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น..ซึ่งตรงกับที่นักเรียนได้อ่านให้ผมฟังทุกอย่าง..อาทิ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2524
จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องและพิจารณาความเหมาะสมจึงกำหนดพื้นที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 ศูนย์ศึกษาดังกล่าว เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการศึกษาสาธิต และการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเลโดยวิธีการผสมผสานความรู้อันหลากหลายของแต่ละหน่วยงานเพื่อวางแผนพัฒนาการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและยั่งยืนตลอดไป
ทรัพยากร ที่สำคัญ..ที่ผมจะนำเรื่องและภาพไปฝากนักเรียนก็คือป่าชายเลน..ที่มีความสวยงามและมีประโยชน์อย่างมากมายต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย
ต้นไม้ที่ยิ่งใหญ่ในป่าชายเลน ผมเห็นแล้วประทับใจจนลืมไม่ลงก็คือ ต้นโกงกาง..นักเรียนเห็นภาพในหนังสือแล้ว..แต่รายการนี้ในภาพต่างๆจะต้องมีผมยืนอยู่ด้วย..รับรองน่าสนใจแน่นอน
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น