การไปวัดนั้นมีสองรูปให้เราไป
ไปวัดแบบสมมุติ กับไปวัดแบบปรมัตถ์ ไปวัดด้วยความเป็นจริงตามหลักพุทธศาสนา
เช่นคนแก่ไปวัดทุกวันพระ เพราะความเหงา
ไปเจอเพื่อน ได้พูดคุยคลายเหงา
ได้ทำกิจกรรมร่วมกันบางทีก็เรียกจับกลุ่มนินทากันก็ได้
ไปวัดเมื่อไม่สบายใจ ไปขอพรสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ ไปสร้างกำลังใจ
อันนี้ไปวัดแบบสมมุติ
อีกแบบคือไปวัดด้วยความเป็นจริงตามหลักศาสนาพุทธ จริงๆทุกควรไป
วัดเป็นที่สาธารณะ มีพระภิกษุผู้ปฏิบัติใช้เป็นที่ศึกษาปฏิบัติธรรม เราเป็นชาวพุทธ เราก็ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรมได้
เริ่มตั้งแต่ไปทำบุญทำทาน ตักบาตร ถวายสังฆทาน
บางคนไปวัดเพื่อปฏิบัติสมาธิ เช่นการไฟฟังธรรม ไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา
แบบที่ควรไป ไปเพื่อความสุขในการเข้าสู่หลักไตรสิกขาหนทางแห่งธรรมคือ
ศีล สมาธิ ปัญญา
ไปวัดแบบสมมุตินั้นได้บุญนิดหน่อย ได้สมาธิแบบขนิกสมาธิ สมาธิแบบชั่วคราวเฉพาะตอนสวดมนต์ เพราะตอนสวดมนต์จิตโดนขังไว้ด้วยบทสวดบูชาพระ จิตไม่อาจส่งกระแสออกไปคิดเรื่องอื่น
แต่พอสวดมนต์เสร็จก็จับกลุ่มนินทาคนอื่น
หรือกลับบ้านไปยังนินทาคนอื่น หรือฆ่าปลาทำกับข้าว อันนี้ขนิกสมาธิ ได้สมาธิเหมือนกันนิดหน่อยชั่วคราว แค่สงบยังไม่สุข บุญได้นิดเดียว
ถ้าไปวัดด้วยความเป็นจริง
ไปเพื่อปฏิบัติธรรม ไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิรักษาศีลภาวนา อันนี้ได้บุญมากกกกก
ได้ความสงบ รู้มีความปิติ สุข ได้อุปจารสมาธิ
แจ่มใสเบิกบานกลับบ้านทำการทำงานบริหารงานคล่องตัว ครอบครัวมีความรักความเข้าใจ
ประโยชน์มากมายใช้ได้ชาตินี้..
.ธัมมานุสารี.
#เทวทูต #ทำบุญพระประทาน
ไม่มีความเห็น