แผลเบาหวานที่นิ้วเท้า


มีพี่สาวท่านนึง เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวเป็นเบาหวานกันทั้งตระกูล บางคนก่อนเสียชีวิตนี่เหลือแต่ตัวกับหัว ที่เหลือโดนตัดทิ้งหมด ฟังแล้วก็น่าเวทนามาก พี่ท่านนี้เล่าว่า น้องสาวที่อยู่จ.ระยอง เวลานี้เป็นแผลที่นิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้าง ขูดไป 3 รอบแล้ว ขูดจนถึงกระดูกขั้นตอนต่อไปหมอก็ต้องตัดนิ้วทิ้ง ส่งรูปมาให้ดู พร้อมกับอยากจะขอลองใช้ครีมขมิ้นดูดูแล้วแผลไม่ใหญ่นัก แต่ลึก เนื้อรอบขอบแผลเริ่มตาย อักเสบ เป็นหนองจากข้อสันนิษฐานนั้น หลังจากทาครีมขมิ้นไป 3 ครั้ง เช้า บ่าย และก่อนนอน วันรุ่งขึ้นหนอง และอาการอักเสบควรจะต้องหายไป แต่เพื่อความไม่ประมาทจึงแจ้งเผื่อไว้ว่า 3 วัน หลังจากใช้ไปได้วันที่ 2 ได้โทรไปถามอาการก็ทราบว่า อาการอักเสบ เป็นหนอง หายไปแล้วผู้ป่วยมั่นใจว่าจะรักษาหายได้ แต่ว่าเป็นคนขี้เกียจทาครีมขมิ้น ต้องให้ลูกสาวคอยเตือน หรือคอยทาให้ประกอบกับผู้ป่วยชอบย่ำน้ำ เฉอะแฉะบ่อยๆ จึงต้องบอกให้ลูกสาวคอยระวังอย่าให้แม่ย่ำน้ำ อย่าให้เท้าเปียกน้ำได้จะดีกว่า

หลังใช้ครีมขมิ้นทาไปได้ 15 วัน แผลก็ตื้นขึ้น มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ทดแทน ทำให้หลุมลึกดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ระหว่างที่ใช้นั้น ช่วงสัปดาห์แรกที่แผลมีเลือดซึมๆออกมา ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกว่าเซลล์เริ่มมีการฟื้นตัวและซ่อมแซมตัวเองหลังจากนั้นขอบแผลเป็นสีดำ แลดูน่ากลัว อันเป็นผลจากเส้นเลือดดำนำอาหารมาหล่อเลี้ยง เพื่อให้เซลล์มีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากใช้ครีมขมิ้นไป 30 วัน แผลตื้นขึ้น ขอบแผลดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีการอักเสบ ไม่ติดเชื้อ ไม่มีหนอง แผลเริ่มแห้งอาการดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากใช้ครีมขมิ้นครบ 2 เดือน แผลเบาหวานที่เคยเป็นนั้น ก็มีการสร้างเซลล์ผิวหนังปิดทับปากแผล หายสนิทดีแล้ว แต่เซลล์ผิวหนังที่สร้างขึ้นมาใหม่ ไม่อาจมีสภาพเส้นลายเหมือนเดิมได้ เนื่องจากเซลล์บริเวณดังกล่าวถูกทำลายไปอย่างหมดสิ้น

ในฐานะนักวิจัย แม้ว่าผิวหนังที่สร้างกลับขึ้นมาใหม่ จะไม่มีลายเส้นและความเหมือนจากเดิมก่อนเป็นแผลก็ตาม แต่การที่แผลเบาหวานสามารถรักษาให้หายได้ ก็เป็นเป้าหมายหลักของงานวิจัยนี้ ด้วยผลลัพท์ที่ได้ในเวลา 60 วัน นับเป็นที่น่าพอใจครับ

หมายเลขบันทึก: 659945เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2019 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2019 11:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

I have uneasy feeling having read your article. It is good to see how well ‘KAMIN cream’ (ครีมขมิ้น) work. It is also worrying to see ‘advertisement style’ evidence.

As a fellow private researcher, I beg you for
1) more scientific references supporting this claim at least something likeนักวิจัยไทยใช้สารประกอบของขมิ้น ‘ตัดไฟโรคเบาหวาน เสียแต่ต้นลม’ - ไทยรัฐhttps://www.thairath.co.th/content/280220Aug 1, 2012 - วารสารวิชาการ “พยาบาลผู้ป่วยเบาหวาน” ของสหรัฐฯ รายงานว่า สารประกอบในขมิ้นที่ใช้เป็นเครื่องแกง มีสรรพคุณช่วยป้องกันผู้ที่มีภาวะเบาหวานแฝง …

2) more specific ‘active ingredients’ and more specific description of ครีมขมิ้น [as it is this article can do more harm than good to people suffering symptoms as shown in pictures – they should be seeking ‘proper medical treatment’ rather than ‘hearsay’].

Please reconsider the fitness of this article and its message to ‘desperate’ sufferers of diabetes. Don’t victimize them for self-interest.

We can only research records. For our research, we have detail of the active ingredient, dosage, toxicity of various herbs Including the response of the tissue.More than 12 years that we research, we have academic information to support but this research is illegal in Thailand. Prohibition of production, not selling. Do not distribute the test. Therefore, it is only a sample case from patient that is willing to participate in our research without expecting any compensation.This record is prepared only to see the opportunity and possibility of treating diabetes. To be a guideline for other researchers to be further researched. Because in Thailand does not support herbal research for disease treatment. Research of medicinal plants or Herbals, causing researchers to become criminals Therefore we are unable to disclose details.We just hope that someday we will bring this research. Continue to develop abroad, but at this time we can only telling stories. Thank you for your interest.

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท