ปิดฉาก...ศิลปหัตถกรรม ฯ ๖๘


การบริหารงานที่ผิดพลาด เกิดโทษแก่ระบบงานทั้งระบบ


สิ้นสุดลงแล้วสำหรับงาน " มหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยี

ของนักเรียน ครั้งที่ ๖๘ " ระดับเขตพื้นที่  หลังจากที่ครู และนักเรียนต้องคร่ำเคร่งและเคร่งเครียด

กันมาไม่ต่ำกว่า ๒ เดือน  หลาย ๆ โรงเรียนประสบความสำเร็จ นำชัยชนะกลับไปสู่โรงเรียน

และเตรียมพร้อมที่จะต้องเข้าแข่งขันในระดับภูมิภาคในเดือนหน้า...กันต่อไป

สำหรับคุณมะเดื่อ งานศิลปหัตถกรรม ฯ  ปีนี้ก็นับเป็น  " ปีส่งท้าย" ในเส้นทางสายการศึกษานี้

เพราะปีหน้า ก็คงได้แต่ส่งใจช่วย  ส่งใจเชียร์ทุก ๆ โรงเรียน เพราะพ้นจากหน้าที่การงานแล้ว

ปีนี้ คุณมะเดื่อทำหน้าที่ " กรรมการตัดสิน" ในกิจกรรมสาระศิลปะ  และการงานอาชีพ ทั้งหมด

๕  รายการด้วยกัน  รวมทั้งส่งนักเรียนเข้าแข่งขันด้วย  ทั้ง สาระภาษาไทย  ศิลปะ  และ วิทยาศาสตร์

โดยเป้าหมายที่แท้จริงก็คือ  ต้องการพาเด็ก ๆ ไปหาประสบการณ์  และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้นำพา

ความรู้ความสามารถของตัวเองไปสู่สนามการแข่งขันด้วย   

คุณมะเดื่อมิได้เจาะจง ตัวแทนนักเรียนที่ไปทำการแข่งขัน   แต่ ให้เป็นไปตามความสมัครใจ

เด็กคนไหนสมัครใจที่จะแข่งในรายการใดก็ให้สมัครมา  หลังจากนั้น คุณมะเดื่อก็ทำการ

ฝึกซ้อมให้   แต่ ปีนี้มีเวลาที่จะฝึกซ้อมให้เด็ก ๆ น้อยมาก รวม ๆ แล้ว ไม่ถึงสองสัปดาห์

เนื่องจากเหตุผลหลายประการ  จึงได้แต่บอกเด็ก ๆ ว่า  " แพ้หรือชนะไม่สำคัญ

แต่ขอให้เด็ก ๆ ทุกคนทำให้ดีที่สุด  ทำให้เต็มที่ เต็มกำลัง และเต็มความสามารถ"

เด็ก ๆ ก็สู้อย่างเต็มที่  และทำได้ดีที่สุด เพียง เหรียญทองอันดับสี่  เหรียญเงิน

และเหรียญทองแดง....แค่นี้ก็พอใจแล้ว.... เพราะสิ่งที่เด็ก ๆ ได้มากกว่านั้นคือ....

"ประสบการณ์ภาคสนาม"  ที่มีประโยชน์ยิ่งกว่า

การทำหน้าที่กรรมการกับน้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ครู  ทำให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้มาก

ระหว่างครูยุคใหม่ กับ ครูที่กำลังจะได้พักผ่อนอย่างครูมะเดื่อ ทำให้ทราบว่า  " ปัญหา " ของการ

บริหารงานในโรงเรียน  แต่ละโรง  แต่ละที่ ก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก  ".....ผอ.บอกว่า..ถึงเด็กจะได้

รางวัลชนะเลิศกลับมา...ผมก็ไม่มีอะไรให้นะ ....."  นี่คือคำบอกเล่าของน้องครูคนหนึ่ง ที่ร่วมเป็น

กรรมการกับครูมะเดื่อ  ได่ระบายให้ฟัง   เธอเล่าต่ออีกว่า.......

 "....หนูตอบ ผอ.ไปว่า  หนูก็ไม่ได้หวังว่า ผอ.หรือโรงเรียนจะมีอะไรให้ หรือต้องมาสนับสนุนอะไร..

เพราะถ้าคิดอย่างนั้น หนูก็คงไม่มาบอก ผอ.เรื่องที่จะส่งเด็กแข่งหรอก...เพราะรู้ว่าคำตอบคืออะไร"

...นี่คือคำบอกเล่าของน้องครูคนนี้  และเธอก็ไม่หวังพึ่งพาอะไรกับทางโรงเรียน  

เธอบอกว่า ซ้อมเด็กด้วยทุนของตนเอง...และเคยร้องไห้กับเด็ก ๆ มาแล้ว.....

ก็น่าชื่นชมที่เด็ก ๆ  สามารถเอาชัยชนะกลับมาให้น้องครูคนนี้ได้...ชื่นชมจริง ๆ 

เรื่องที่เธอคุยกับคุณมะเดื่อ  มันก็เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งคุณมะเดื่อก็เคยพบมาแล้ว....มันเป็นคำพูด

และการกระทำของคนที่ได้ชื่อว่า  " ผู้อำนวยการโรงเรียน"  ...  คนหนึ่ง....!!   ซึ่่งไม่รู้ว่า

คน  " พวกนี้  "  หลุดเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อย่างไร....และไม่รู้ว่า จะมีคนจำพวกนี้

แทรกตัวอยู่ในโรงเรียนทำหน้าที่ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างหน้าชื่นตาบานอีกสักกี่คน

พวกเขาคงไม่รู้  หรืออาจจะรู้ก็ได้ว่า...คำพูดและการกระทำของเขาจะทำลายขวัญและกำลังใจ

ให้กับครูของเขาเพียงใด....และมันจะกลายเป็น  " แผลเรือรังในใจ" ของครูตลอดไป...เขาก็คง

คิดว่า  " ทำและพูดให้เป็นที่พอใจของตัวเอง...ครูคือผู้ใต้บังคับและบัญชาเท่านั้น  ต้องฟังเขาอยู่แล้ว"

นี่แหละ....วงการศึกษาบ้านเรามันจึง....ไปไม่ถึงไหนสักที....สาธุ ! 



ศิลปหัตถกรรมนำทั้งสุข 
นำทั้งทุกข์สู่ครูอยู่มากหลาย
เบี้องหลังความสำเร็จที่มากมาย
ซุกซ่อนความ"เบื่อหน่าย"อยู่มากมี


หมายเลขบันทึก: 658095เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2018 19:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2018 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี