(บันทึก)... ต่อ... สื่อระหว่าง สองมิติ.. บนแผ่นภาพ.. ในแกลลอลี่ชีวิตวันนี้..
กับคำว่า "ขี้"...
ขี้.. นั้น.. เป็นธรรมชาติ.. ไม่บังอาจ จะกล่าวถึง.. ใครๆ.. ก็มี
ดูดีๆ.. เป็นศิลป.. อย่ากล่าวหาว่า ขี้เป็นคำหยาบ.. หาก เหม็น ทนเอาหน่อย.. ใครๆ.. ก็มี
ขี้มีมากมาย.. ทำให้ดี.. มีเงินมีทอง.. ใครๆ ก็มี
ฝรั่ง รู้จักใช้ "ขี้" ทำแก้สทำปุ๋ย จึงเป็นสิ่งดีๆ
ใครๆ ก็มี...
เอามากล่าวขวัญกันไว้ ว่า.. ขี้นั้นดี... ถึงจะเหม็นสักหน่อย.. ก็ต้องจัดการดี.. ๆ..
แรฟนี้้ คงมีประโยชน์.. ต่อ คน.. ที่คิดถึงคุณประโยชน์ไม่กล่าวโทษ อย่างเดียว กับสิ่งที่เหม็น แต่หากว่าดี
วันนี้ ลาไปก่อน.. ขอให้เห็น แต่สิ่งดี...
ความเห็น (5)
“…ขี้.. นั้น.. เป็นธรรมชาติ.. ไม่บังอาจ จะกล่าวถึง.. ใครๆ.. ก็มี…”
I have a theory of “forest building”. First we add ‘germs’ (micro-organisms: bacteria, yeasts, fungi, …), then we add (larger but) mini-organisms (insects, plants, worms, …), after that (larger still) other animals and trees.
The underlining concept of this theory is: (recycle) wheels of ‘wastes’ that those organisms produce, become ‘foods’ for other organisms, and so grow webs of relations (‘food chains’ in flesh and wastes). In simple words ‘poo chains’ of inter-dependency. ;-)
-สวัสดีครับยาย-ตามมาบอกว่ายินดีต้อนรับสู่บ้านไร่นะครับ-จะพาตนมาเยือนกันวันไหนก็แจ้งมานะครับ-รอต้อนรับยาย..มากินนอน..ที่นี่..ขอรับ..-ถ้าเป็นวันหยุดอาจจะได้เจอกลุ่มเด็กๆที่จะมาร่วมทำกิจกรรมที่บ้านไร่ครับ
สวัสดี .. คุณsr.. ด้วยความ ยินดี…ใครๆ ก็มี… รับด้วยเกล้า.. จะปฏิบัติ.. ตาม.. ด้วยความ.. ยินดี.. ใครๆ.. ก็มี.. จะจัดตั้งในป่า.. ให้มี.. “poo chains” interdependency..ให้มี… อย่างที่ทุกๆคน มีได้.. ด้วย ความ ใยดี… ใครๆก็มี…. อนาคตสดใส.. เพราะทุกวันมีแต่สิ่งดี.. ๆภาพ สองมิติ.. มี ข้อคิด.. ดีๆ…ใครๆ.. ก็มี.. แรฟคือ กระจก ที่มองผ่านได้.. และโดดหนีได้.. ตามแต่กำลังที่มี… ใครๆ ก็มี.. อยากจะ.. แรฟ.. ตอน แก่ๆ.. เท่าที่กำลัง.. จะมี… ใครๆ ก็มี….
I should add that ‘forestation’ is quite easy. All we have to do is to leave the forest alone for awhile. Wildlife (what left of wildlife) will always seek out places void-of-human to live. They are truly our forest builders. Just leave them and the forests alone for awhile (10-20 years - in the tropic) and voila ‘lush green productive forests’ for us to exploit. So, what percentage of Nature we should leave alone, how should we rotate forests, which forests and where should be ‘orchestrated’ (by a ‘national’ forest conductor). These questions are enough for a few university (postgraduate) courses or institutes of forest research and management.
Some permanent forests should be permanently left alone as ‘DNA reservoirs’ to provide ‘builders’ (sources of ‘genesis’). In summary –Leave It Alone–!
A bit too much for Saturday reading? ;-)
_ Ieave it Alone_ ครั้งหนึ่ง และ ครั้งนั้น..ต้นสัก ต้นหนึ่งล้มลง..ถุกปล่อย ให้ ล้มอยู่เช่นนั้น..มันไม่ “ตาย” หาก เกิด ต้นใหม่ บน ต้น ที่ล้ม นั้น (โบราณ ว่า ไม้ ล้ม อย่า ข้าม..คงเป็น ฉนี้เอง…และแล้ว..วัน หนึ่ง หัน กลับมาดู…หายไป เสียแล้ว…(..ถูก ขมาย)…..
มันเป็นเช่นนั้นเอง…bilders sources ( Humanist of genesis)