การเดินทางของชีวิตแต่ละคนล้วนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน ยามใกล้ค่ำวันนี้ผมเดินผ่านผู้คนหลากหลายอาชีพสิ่งที่พบเห็นถ้าเดินผ่านคนประมาณร้อยคนจะมีเพียงห้าคนเท่านั้นละที่เดินไปสู่เป้าหมายที่ตนเองรู้ว่าจะไปไหนไปทำอะไรเพื่อสิ่งใด ถามว่าแล้วคนจำนวนเก้าสิบห้าคนนั้นละ
คุณคิดอย่างไรรึ ถ้าถามผม ผมคงคิดตอบดัง ๆ ว่า คนเหล่านั้นเขาเดินไปแบบไร้จิตวิญญาณทำให้นึกถึงบทเพลงชื่อว่า ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก เพราะบางคนเดินสวนทางมาเกือบชนผมถ้าผมไม่หลีกหลบให้ ก็เพราะเขาเหล่านั้นเดินก้มหน้าไม่มองสิ่งแวดล้อมเอาแต่ใส่ใจในมือถือดูแต่มือถือเข้าเฝ้ามือถือเหมือนมือถือคือของขลังของศักดิ์สิทธิ์หรือมือถือคือตัวแทนของผู้มีอภิมหาอำนาจที่ครอบงำวิถีชีวิตตนเองจนไม่สามารถจะมองเส้นทางการเดินไปของเขาได้
เอ๊ะ ผมว่าคนยุคก่อนมีจิตใจน้อมระลึกถึงแต่พระพรหมหรือพระเจ้าหรือพระสัจธรรมเป็นที่ยึดถือ แต่ในยุคใหม่นี้สิ่งมาแทนที่ทำให้คนคิดถึงตลอดเวลาเกือบทุกลมหายใจก็ว่าได้คือ มือถือ จริงหรือไม่..?
ไม่จริงครับ..มือถือเป็นแค่วัตถุ ที่เป็นสื่อหรือช่องทาง..ที่อยู่เบื้องหลังหรือซ่อนในมือถือ ต่างหาก ที่คนสนใจ นั่นคือ การติดต่อสื่อสาร..คนยุคนี้ หรือ ยุคไหนๆก็ติดยึดอยู่ กับ การสื่อสารเพื่อหาที่พึ่งพิง..ด้วยสัญชาตญานของ ความ รัก โลภ โกรธ หลง กลัว….ความคิด ความเชื่อ หลักปรัชญาหรือศาสนา..นั่นแหละ ตัวสำคัญ!! เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ทรงอำนาจและมีอิทธิพลต่อสังคม..ยิ่งสังคมในยุคแห่งความสับสนวุ่นวายนี้..ครับ..และคงจะน่ายินดีมากที่ใครๆพากันใช้เครื่องมือนี้ในการสร้างสรรค์คุณค่าของความเป็นมนุษย์….หรือ คงจะน่าเศร้าใจมากเช่นกัน..หากมีใครที่มองเห็นและใช้เครื่องมือนี้ ในการทำลายคุณค่าความเป็นมนุษย์..ทั้งด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม!!
ขอบคุณครับคุณลุงรักชาติราชบุรี ที่มาให้ความเห็นมองลึกลงไปอีกในแง่รูปธรรม หรือ ในรูปภาษาคนตามแนวคิดท่านพุทธทาส ภิกษุ ฮา ๆ