AFS Chaperone Field Trip Survival 2018: ลุงแท็กซี่น้ำใจงาม และ ARON House บ้านพักสุดคลาสสิก อายุ 160 ปี


บ้านพักสุดคลาสสิก หลังนี้ อายุประมาณ 160 ปี มีการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมเท่าที่สามารถจะทำได้ เป็นบ้านไม้ที่ออกแบบเพื่อการพักอาศัยอย่างสะดวก ดูสวยงามทุกตารางพื้นที่

***...มิติแห่งความงดงามของแสงแรกยามฟ้าสาง ณ ผืนฟ้าเมือง Fort Myers ผ่านกระจกจากเครื่องบิน ช่วงอำลาแบบชั่วคราวแต่อาจยาวนาน ตราบชั่วชีวิตที่เหลือ...***

น้องแดง อาสาสมัครเอเอฟเอสจากจังหวัดเพชรบูรณ์ 

นัดพบน้องแดง อาสาสมัครเอเอฟเอสจากจังหวัดเพชรบูรณ์  ที่สนามบิน  International Buffalo Airport  เพื่อเดินทางไปที่พักด้วยกัน  ต่างฝ่ายต่างยินดี-ปรีดา เพราะลุยเดียวกันมาหลายวันแล้ว ...

ลุงขับแท็กซี่ น้ำใจงาม 

ลุงขับแท็กซี่ ไม่รู้จักถนนที่จะไปบ้านพัก จึงยื่นข้อมูลที่พริ้นท์มาให้ดู  ปรากฏว่าคุณลุงก็ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนเดิม  จึงให้ดูจากหน้าจอโทรศัพท์   คุณลุงพยายามตั้ง GPS เอง   ถามว่าไปถูกไหมเนี่ย มันอยู่ห่างจากน้ำตก Niagara Falls  แค่ 0.6 ไมล์เอง  ใกล้ๆ กับ  Maid of the mist น่ะ   ดูท่าทางเหมือนลุงจะไม่คุ้นเคยกับสถานที่เหล่านี้   แกรู้แต่ว่าน้ำตกฝั่งแคนาดา หรือฝั่งอเมริกาแค่นั้น 555            

แต่คุณลุงกลับมีความเชื่อมั่นว่าตนเองไปถูก   ขณะเดียวกันผู้เขียนก็เปิด GPS ดูเส้นทางไปด้วย  ครั้งแรกคุณลุงยื่นข้อเสนอว่า เหมาจ่ายไหม  ราคา 71 เหรียญ  ผู้เขียนลองเปรียบเทียบระยะทางกับราคาที่เคยจ่าย   26 ไมล์นี่น่าจะไม่เกิน 40 เหรียญ จึงบอกไปว่าขอเป็นมิเตอร์ดีกว่า            
นั่งมองหน้าจอจาก GPS เอ....นี่มันคนละทิศ คนละทาง จึงทักท้วงขึ้น  บอกลุงว่า..ทำไมคุณไม่ U turn ล่ะ  นี่มันเป็นเส้นทางไปเมืองนิวยอร์กนะ  คุณลุงก็บอกว่า  ฉันไปตามเส้นทาง GPS ของฉัน   จึงบอกว่า งั้นคุณลุงรับผิดชอบด้วยนะ  จึงปล่อยเลยตามเลย          

นั่งไปอีกระยะหนึ่ง  ไม่มีป้ายบอกทางเลย แถมสองข้างทางก็เป็นพื้นดินโล่งๆ    จะไปกันใหญ่แล้วเนี่ย...มิเตอร์ขึ้นมา 70 เหรียญ ไล่ไป 80 เหรียญ...เฮ้ยๆ ลุง...แน่ใจนะ   ฉันว่ามันไม่ใช่หรอก นี่เสียเวลาฉันนะ แถมจะพาลให้เสียเงินอีกหลายตังค์เชียว

คุณลุงฉุกคิดแว่บหนึ่ง   จึงเปลี่ยนทีท่า  แล้วบอกว่า งั้นไปตามเส้นทางที่คุณบอกก็ได้             
ผู้เขียนต้องคอยบอกเส้นทาง ตามข้อมูลจาก GPS   รวมระยะทางเป็น 2 เท่าพอดี   รถจอดลงตรงหน้าบ้านเมื่อมิเตอร์ขึ้นไปถึง 143 เหรียญ ตัดสินใจถามว่า ลุงจะคิดเงินอย่างไรเนี่ย  ลุงบอกว่า คิดแค่ 70 เหรียญละกัน ตามที่บอกตั้งแต่แรก  แต่ลดราคาลงไปอีก 1 เหรียญ  (เหมือนกับแท็กซี่เมืองไทยที่ตั้งราคาเหมาจ่าย ตามระยะทางที่กำหนดไว้ ให้เลยว่า ถ้าไปที่นี่ราคาเท่านั้น   ไปที่นั่นราคาเท่านี้  จัดพิมพ์ใส่กระดาษเคลือบพาสติกให้ลูกค้าได้ดู)    ผู้เขียนจึงตอบตกลงที่จะจ่าย 70 เหรียญ  เพราะน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว   

คุณลุงใจดี ช่วยหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ของผู้เขียนและน้องแดงลงให้อย่างมีน้ำใจ แถมด้วยใบเล็กอีก 1 ใบ   จัดการกดกริ่ง  ไม่น่าจะดังเนาะ เคาะประตูอีก 2-3 รอบ ไม่มีใครมาเปิดให้  อ้าว...ทำไงดี   ตามข้อตกลงนั้น   บ้านพักเขาให้เช็คอินได้ ในเวลา 16.00 น. แต่ความตั้งใจจริงก็แค่อยากจะฝากกระเป๋าไว้ แล้วจะไปเดินเล่นกันก่อน             

คุณลุงแท็กซี่พยายามโทรศัพท์ถึงเจ้าของบ้านตามหมายเลขที่ปรากฏอยู่ในใบจอง  เพื่อเจรจา-สอบถาม  ขณะเดียวกันหนุ่มใหญ่บ้านตรงข้ามมองเห็นเหตุการณ์วุ่นวายเล็กๆ    จึงเดินข้ามถนนมาเจรจา เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้  แต่คุณลุงขับแท็กซี่กลับไม่ไว้ใจหนุ่มคนนั้น  มีการกันเชิงอยู่เล็กๆ ผู้เขียนและน้องแดงรู้สึกขำ และเข้าใจความหวังดีของคุณลุง  จึงบอกไปว่า  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ  เพราะเขาเป็นเพื่อนบ้านกัน  คงไม่มีปัญหาใดๆ
ลุงขับแท็กซี่บอกว่าจะกลับวันไหน เวลาเท่าไร จะได้มารับได้   ให้เบอร์โทรศัพท์ให้โทรฯหา  
***   แต่ลุงจ๋า  หมดปัญญาโทรฯหาคุณลุง  เพราะซิมการ์ดที่ซื้อไปให้ใช้ได้แค่โทรเบอร์จากไลน์และเฟสบุค เท่านั้น          

หนุ่มใหญ่บ้านตรงข้าม ติดต่อเจ้าของบ้านได้ความว่า  เจ้าของบ้านทำธุระอยู่ข้างนอก ให้นำกระเป๋าไปวางไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นหลบสายตาผู้อื่นไม่น่าจะหาย           

ARON House บ้านพักสุดคลาสสิก อายุ 160 ปี

บ้านพักสุดคลาสสิก หลังนี้  อายุประมาณ 160 ปี   มีการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมเท่าที่สามารถจะทำได้ เป็นบ้านไม้ที่ออกแบบเพื่อการพักอาศัยอย่างสะดวก ดูสวยงามทุกตารางพื้นที่  รวมแล้วมี  3  ชั้น   ชั้นบนสุดเป็นห้องใต้หลังคา    เปิดให้เช่าพักได้ 6 ห้อง  แต่ละห้องมีการตกแต่งต่างรูปแบบกันไป สวยงามไปคนละแบบ  

หนุ่มผู้ดูแล( ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงหรือไม่)  พักอยู่ที่ชั้น 2  ห้องตรงกลางเป็นห้องรับประทานอาหาร  มีอุปกรณ์ทำครัว แบบง่ายๆ ให้แขกที่มาพัก ทำอาหารเช้ารับประทานเอง  ตั้งเตาแก๊ส เครื่องปิ้งขนมปังและกระติกน้ำร้อนไว้ให้ตรงมุมห้อง  

จัดวางกระทะ ตะหลิว  จาน ชาม ช้อน ซ่อม และมีด ไว้ให้ใช้     จัดน้ำดื่มขวดเล็ก นมสด และไข่ไก่ไว้ในตู้เย็น  ส่วนซีเรียลก็ใส่ในขวดโหลเล็กๆ พร้อมขนมปังที่จัดแบ่งไว้ในถุงพลาสติก   มีกาแฟและน้ำตาลตั้งบริการ   ใครจะเลือกกินอะไรก็เลือกสรรตามความชอบ  แต่ต้องล้าง-เช็ดให้สะอาดด้วยตนเอง    

ชั้นล่างมีการจัดแสดงเป็นนิทรรศการฯ ให้ศึกษาได้ตามสะดวก  ตกแต่งห้องเหมือนกับยุคสมัยศตวรรษที่ 19 โดยอิงจากภาพถ่ายโบราณในอัลบั้มรูปภาพที่วางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ 

น่าชื่นชมที่เขาเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์บ้านโบราณและสิ่งของเครื่องใช้ ที่สืบทอดกันมาไม่ต่ำกว่า 2 Generations

  ***...นึกวาดฝันอยากครอบครองบ้านโบราณแบบนี้จัง...***

*** ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ***

หมายเลขบันทึก: 651749เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2018 06:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2018 18:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท