ฟังดูเป็นคำง่ายๆ ในบางเรื่องบางสถานการณ์อาจพูดไม่ได้ มันดูง่ายเกินไป แต่ในภาพรวม คำนี้ดูดี..มีความสงบเย็น และเห็นอกเห็นใจอยู่พอสมควรทีเดียว..
เคยคิดไหม? เราใช้คำว่า “ไม่เป็นไร” นานหรือยัง.. เมื่อก่อนผมใช้เป็นครั้งคราว และคิดควบคู่กันไปด้วยว่า..เราเป็นคนมักง่ายหรือเปล่า? หรือว่าไม่มีหลักการ ขาดเป้าหมาย ทำงานส่งเดชไป ผลเป็นประการใด ก็..ไม่เป็นไร...
จริงๆ..หาเป็นเช่นนั้นไม่..แค่เป็นเค้าลางว่า..เราเริ่มเรียนรู้การให้อภัยในเบื้องต้นแล้ว..เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ระหว่างบุคคลและหมู่คณะ
กาลเวลาผ่านไป ตระหนักและประจักษ์แก่ใจว่า ไม่มีอะไรแน่นอน แม้ว่าจะเต็มที่กับทุกอย่าง ก็มิอาจคาดหวังอะไรได้ มีปัจจัยหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้
บอกตัวเองว่า..เตรียมตัวเผื่อใจไว้บ้าง กับเรื่องงานก็ต้องมีแผนรองรับ เกิดอะไรขึ้น มิตรภาพกับรอยยิ้มก็ยังต้องคงอยู่ อย่างน้อยคำว่า..ไม่เป็นไร ก็เท่ากับดูแลหัวใจตนเอง
ทุกอย่าง..เริ่มต้นที่ใจ..ใจเย็นก่อนที่จะพูดว่า ไม่เป็นไรด้วยซ้ำ ไม่เป็นไร จึงเป็นถ้อยคำมงคล..ที่ผมเริ่มหลงรัก และพูดกับนักเรียนเป็นประจำ
นักเรียนทำแบบฝึกหัดผิดไปบ้างเล็กน้อย ทำงานช้าไปสักนิด..ไม่ใช่เรื่องผิดอย่างมหันต์ ผมให้กำลังใจ ใช้คำว่า..ไม่เป็นไร แต่ก็เสริมต่อไปว่า ตรวจทานให้รอบคอบ ให้งานออกมาสะอาดเรียบร้อยก็แล้วกัน..
ในครอบครัว..มักมีสิ่งที่ทำให้เราไม่ได้ดั่งใจเสมอ ลูกๆอาจไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังก็ได้..คิดและพูดออกไปเลย ไม่เป็นไร คิดผิดคิดใหม่ได้นะลูก โอกาสเปิดกว้างให้เราเสมอ..
เพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา..กับความรู้ความสามารถ ที่อยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างระหว่างบุคคล ต้องสร้างความรักความเข้าใจ ปฏิสัมพันธ์และบรรยากาศขององค์กร ทำให้ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้อภัยได้ก็ต้องให้อภัย..จึงต้องรู้จักใช้คำว่า ไม่เป็นไร..บ้าง
ลองมีความรู้สึกดีๆ กับคำว่า..”ไม่เป็นไร” ดูสิ แล้วมองในมุมบวก ก็จะปรากฏถ้อยคำที่ตามมา น่าคิดเหมือนกัน..
ไม่..มาจากอักษร..ม..ก็เหมือนจะบอกว่า เขากับเรา..เริ่มต้นกันใหม่ คิดใหม่ทำใหม่..มุ่งมั่นกันต่อไป ไม่ต้องท้อ...
เป็น..มาจากอักษร..ป...พูดไปแล้ว เราก็ต้องคิดให้ได้ว่างานนี้ควรปรับปรุงอะไร? มีแนวทางใดบ้างที่ต้องเปลี่ยนแปลง..แต่อย่าลืม “ปลง” ไว้บ้างก็ดี อย่าคาดหวังสูง
ไร..มาจากอักษร...ร...คงไว้ซึ่งการทำงานด้วยความรัก และก็รักผู้ร่วมงาน..ทุกอย่างเรียนรู้ได้ ไม่ควรทำไรแบบรีบเร่งเกินไป
ถ้ายังรักตัวเอง..ก็ใช้ไปเถอะคำว่า..ไม่เป็นไร..ทำให้ใจเย็นและเป็นสุขมากขึ้น อย่างน้อยก็ช่วยทำให้มองโลกในแง่ดี ไม่ตำหนิติติงผู้อื่นจนเกินเหตุ
ยกตัวอย่างในช่วงนี้ก็ได้ กระทรวงศึกษาธิการ จะจัดสรรงบประมาณเพื่อบ้านพักครู ภารโรงและครูธุรการทุกโรงเรียน ถ้าเขาทำไม่ได้อย่างที่พูดล่ะ เขาจะอับอายไหม? อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่เรื่องของเรา..ก็ต้องบอกว่า..ไม่เป็นไร..ชินแล้วกับนโยบายแบบนี้
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น