หนังสือ The Fear Factor : How One EmotionConnects Altruists, Psychopaths and Everyone In-Between (2017) เขียนโดย Abigail Marsh บอกว่าความกลัวเชื่อมโยงกับความเป็นคนเสียสละเพื่อผู้อื่น(altruistic) และความเป็นคนจิตผิดปกติ (psychopath)
สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความกลัวและความเสียสละเพื่อผู้อื่นคือ amygdala ในคนที่จิตผิดปกติ เป็นคนโหดร้าย amygdala ไม่ค่อยทำงาน เป็นคนที่ไม่เข้าใจความกลัว จึงไม่รับรู้ความกลัวของเหยื่อที่ตนทำร้าย มีผลงานวิจัยบ่งชี้ว่าคนที่รับรู้ความกลัวของผู้อื่นได้ดี จะเป็นคนที่มีความเสียสละเพื่อผู้อื่นสูง
มีการวิจัยตรวจสอบการทำงานของสมองส่วน amygdala เมื่อเห็นใบหน้าคนที่แสดงความกลัว เปรียบเทียบคนที่มีจิตใจเสียสละ (ลงชื่อบริจาคไต ๑ ข้าง) กับคนทั่วไป พบว่าคนมีจิตใจเสียสละมีการทำงานของ amygdalaสูงกว่า แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ และการทดลองแบบเดียวกันไม่ยืนยันผลดังกล่าว จึงอาจเป็นไปได้ว่า ในการทดลองดังกล่าวทำให้เกิดความรู้สึกระวังภัย จะสู้หรือหนีไปกระตุ้น amygdala
เพื่อพิสูจน์ว่า amygdala ทำงานมากกว่าในคนมีจิตเสียสละ เขาให้ผู้ถูกทดลองชุดเดียวกัน ดูภาพใบหน้าที่แสดงความโกรธ และวัดระดับการทำงานของ amygdala คราวนี้กลุ่มเปรียบเทียบมีการทำงานของamygdala มากกว่า ช่วยพิสูจน์ว่าการทำงานของ amygdala สูงในคนมีจิตเสียสละไม่ได้เกิดจากความรู้สึกระวังภัย เพราะถ้าเกิด ใบหน้าแสดงความโกรธก็จะกระตุ้น amygdala ของผู้มีจิตเสียสละมากกว่ากลุ่มควบคุม
เขาบอกว่าคนมีจิตเสียสละเป็นคนที่ไวต่อการรับรู้ความรู้สึกกลัวของผู้อื่น
นอกจากนั้น คนมีจิตเสียสละมักเป็นคนตื่นกลัวง่าย แต่เมื่อเผชิญความกลัวของผู้อื่นจะเอาชนะความหวาดกลัวของตนเองได้เพื่อมุ่งช่วยเหลือผู้อื่น
นอกจากสมองส่วน amygdala ที่พิเศษ นำไปสู่ความเป็นคนเห็นแก่ผู้อื่นแล้ว ฮอร์โมน oxytocin ยังมีส่วนด้วย เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ฮอร์โมนนี้เป็นตัวกำหนดให้คนเป็นพ่อแม่มีพฤติกรรมเสียสละเพื่อลูก
มีการทดลองหยอดฮอร์โมนนี้เข้าโพรงจมูกคนแล้วทดลองดูระดับความเห็นแก่ผู้อื่น พบว่าสูงขึ้น
นอกจากนั้น ยังพบว่า ระดับการรู้หนังสือและการเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ก็ช่วยเพิ่มพฤติกรรมความเป็นคนเห็นแก่ผู้อื่น รวมทั้งการฝึกเมตตาภาวนา ก็ช่วยเพิ่มพฤติกรรมความเป็นคนเห็นแก่ผู้อื่นด้วย
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ก.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น