๗๕๖ ถวายเทียนพรรษา..พัฒนาจิตใจ..เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ


ผมคิดว่า..กิจกรรมประเพณีในทางพระพุทธศาสนานั้น..ลงทุนกันขนาดนี้ ต้อง ได้อานิสงส์ทางด้านจิตใจด้วย พัฒนาควบคู่กันไปกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคม..

             ปีนี้..คึกคักกว่าทุกปี..ที่หน้าอำเภอ..โรงเรียนได้นำขบวนแห่เทียนจำนำพรรษาไปร่วมกิจกรรมกับเทศบาล ซึ่งมีส่วนราชการพร้อมใจกันมาร่วมพิธี..

            โรงเรียนขนาดเล็ก..แต่ปีนี้..นักเรียนมากกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะนักเรียนอนุบาล ผู้ปกครองก็เลยตามมาดูแล งานนี้ก็เลยถือโอกาสนำพาผู้ปกครองเข้าวัดเข้าวา

            ก่อนเคลื่อนขบวน..ก็ต้องให้นายอำเภอกล่าวเปิดเป็นปฐมฤกษ์..ระหว่างที่รอ.. วงดุริยางค์กับคณะกลองยาวของโรงเรียน เตรียมพร้อม..

            พอถึงช่วงเวลาจะบรรเลง..ก็ต้องอยู่เฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะขบวนแห่ตั้งแถวอยู่ใกล้กับแตรวงมืออาชีพ บรรเลงเพลงเร้าใจผ่านเครื่องขยายเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว

            พอถึงช่วงเดิน..เขาให้นักเรียนเดินก่อน ขบวนแห่ผ่านตลาด และอยู่ห่างจากแตรวง..ก็เลยมีโอกาสได้บรรเลงดนตรีบ้าง

            ผมช่วยเด็กตีกลองยาว เพื่อให้กำลังใจและช่วยลุ้นไปด้วย ช่วงไหนหยุดพัก ผมก็จะไปรำฟ้อนกับชาวบ้านและพนักงานเทศบาล เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี

            จริงๆแล้ว..ผมกับคณะครูและนักเรียน..จะเคลื่อนขบวนแห่เทียนไปยังวัดเป้าหมายเลยก็ได้ ไม่ต้องร่วมพิธีเปิดและไม่ต้องเดินแห่ในตลาด...

            แต่ถ้าทำเช่นนั้น..มันก็จะไม่ใช่ประเพณีและไม่ช่วยทำให้มันเป็นวัฒนธรรม ที่สำคัญ..การร่วมด้วยช่วยกัน คือความรักสามัคคีที่แสดงถึงความพร้อมเพรียงและร่วมแรงร่วมใจ

            ผมทำแบบนี้มานานนับ ๑๐ ปี..แลนี่คือ หนึ่งในงานสัมพันธ์ชุมชนที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

            ขบวนแห่เทียนพรรษา..ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง..จึงเดินทางถึงวัดประจำอำเภอ..ส่วนราชการและพ่อค้าประชาชน แห่เทียนเข้าสู่วัด..แต่ผมพานักเรียนขึ้นรถต่อไปอีกราว ๑ กม. เพื่อถวายต้นเทียนให้วัดเล็กๆ..

            ชื่อวัดโบสถ์เก่าสระจิกด่าน..ปีนี้มีพระจำพรรษา ๗ รูป ภายในวัดมุ่งเน้นความร่มรื่น มีสวนพฤกศาสตร์และมีโบสถ์เก่าหลังงาม อายุกว่า ๓๐๐ ปี ที่กรมศิลปากรได้บูรณะเสร็จเรียบร้อย

            วัดใหญ่..ในตลาด ที่เป็นวัดประจำอำเภอ..มีขบวนแห่และต้นเทียนจำนวนมาก เข้าไปแออัดกันทุกปี ผมก็เลยแปลกใจว่าทำไม? วันนี้..พอจะมองเห็นคำตอบบ้างแล้ว

            คนเราชอบความคึกคัก ยิ่งใหญ่อลังการ..ที่ใดสงบร่มรื่น และเรียบง่าย มักจะไม่ชอบกัน และอีกอย่างหนึ่ง..การทำบุญวัดใหญ่ๆ ก็น่าจะได้หน้าได้ตา ได้เกียรติยศ..เมื่อมีการประกาศ..ชื่อเสียงเรียงนาม...

            ผมคิดว่า..กิจกรรมประเพณีในทางพระพุทธศาสนานั้น..ลงทุนกันขนาดนี้ ต้อง ได้อานิสงส์ทางด้านจิตใจด้วย พัฒนาควบคู่กันไปกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคม..

            อย่างไรก็ตาม..โรงเรียนขนาดเล็ก..แต่พออยู่ในวัดเล็กๆ ก็เลยดูยิ่งใหญ่ไปโดยปริยาย ..พระคุณเจ้า..พูดถึงความเป็นมาของวันเข้าพรรษา และเชิญชวนญาติโยมมาร่วมทำบุญ..จากนั้นก็เจริญพระพุทธมนต์

            หลังจากทำพิธีถวายต้นเทียนแล้ว ผมนำนักเรียนสวดมนต์เพื่อกราบลาพระคุณเจ้า..ก่อนขึ้นรถ..พระคุณเจ้าเดินมาส่งที่รถแล้วบอกว่า "โยมนำข้าวสารไปด้วย ๓ กระสอบนะ ไปหุงหาเลี้ยงนักเรียน...”

            ผู้ปกครองช่วยกันยกข้าวสารขึ้นรถ..มีเสียงเปรยๆให้ ผอ.ได้ยิน “ไม่มีที่ไหนนะเนี่ย..แห่เทียนแล้วได้ข้าวสารกลับโรงเรียนด้วย”

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๒๖  กรกฎาคม  ๒๕๖๑


หมายเลขบันทึก: 649187เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2018 21:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม 2018 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท