วันนั้นผู้เขียนลางานครึ่งวัน จุดประสงค์หลักคือมีนัดกับหมอฟันผ่าฟันคุดที่ก่อปัญหาเบียดฟันกรามจนปวดมาหลายวัน นัดเวลา 5 โมงเย็นจึงจำเป็นต้องลางาน จุดประสงค์รองก็ได้ประโยชน์ในการชำระค่าบริการ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเน็ต จิปาถะที่เป็นรายจ่ายล้วนๆ(เฮ้อ เหนื่อยใจ)
หลังจ่ายจนเป็นที่พอใจก็กลับบ้านกินข้าวเที่ยงในเวลาเกือบบ่ายสองโมง ขอนอนสักงีบเอาแรงหน่อยเถอะ ตื่นขึ้นมาตกใจสี่โมงกว่าแล้ว รีบล้างหน้าล้างตาขับรถออกจากบ้านไป สิบห้านาทีถ้ารถไม่ติดก็น่าจะทัน ไม่ทันสายหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกน่า(เข้าข้างตัวเอง)
ขับออกจากซอยเข้าสู่บางนาตราด โอ้โห พระเจ้า รถติดแทบไม่ขยับ คิดว่าน่าจะติดตรงทางเบี่ยงขึ้นวงแหวนเท่านั้น หน้าเมกาบางนายิ่งสนิท มีโทรศัพท์เข้ามาจากคลีนิกรักษาฟัน บอกหมอไม่รอแล้วเพราะรถติดมากยังไงก็มาไม่ทัน เลื่อนเป็นวันจันทร์หน้า รู้สึกเซ็งกับตัวเองที่ช่างไม่รู้เลยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรในวันนี้
จากข่าวทางวิทยุรายงานว่าเขตบางนา และอ.บางพลี สมุทรปราการ ฝนตกหนักแต่เช้า ตอนเที่ยงถึงบ่ายมีตกอีกรอบจนทำให้น้ำท่วมขังบริเวณหน้าเมกาจนถึงหน้าโรงเรียนราชวินิต ทำให้รถติดสะสมอย่างหนัก
น้ำท่วมขังตรงทางขึ้นทางด่วนหน้าร.ร.ราชวินิตบางแก้ว....
น้ำท่วมบริเวณทางเข้าเส้นหลักเยื้องเมกาบางนา...
ห้าโมงเย็นผู้เขียนยังติดอยู่หน้าเมกา เกจน้ำมันเหลืออยู่สองขีดลังเลจะเข้าเติมน้ำมันก่อนดีมั๊ยแต่ก็เบนหัวเข้าซ้ายยากมาก ตัดสินใจเข้าทางหลักบางนาตราดเพื่อจะกลับรถตรงยูเทรินเดอะเนชั่น แต่รถก็ไม่ขยับเลย เปลี่ยนใจจะไปกลับที่เซ็นทรัล หรือจะแวะเข้าโรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อตรวจฟันเผื่อมีหมอผ่าฟันได้เร็วกว่าวันจันทร์ เส้นหลักรถพอขยับได้บ้างแต่คู่ขนานด้านนอกนิ่งสนิท ถึงทางออกเซ็นทรัลรถจ่อเข้าลามมาทางหลักจนเหลือสองเลน ยังมีทางกลับรถอีกคือบางนา เลยเซ็นทรัลรถวิ่งได้เร็วขึ้น
ผู้เขียนมุ่งหน้าสู่แยกบางนา...
รถมาหยุดนิ่งขยับทีละนิดอยู่ตรงทางออกเกือบชั่วโมง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว รถค่อยๆขยับๆจนล่วงเข้าทุ่มกว่า ผู้เขียนเพิ่งขับเข้าสู่เลนกลับรถ มองดูเกจน้ำมันเหลือขีดเดียวแล้ว ผู้เขียนปิดแอร์และเลื่อนกระจกลง เลี้ยวรถออกคู่ขนานเพื่อเข้าเติมน้ำมันซึ่งยังอยู่อีกไกลก่อนจะถึงเซ็นทรัลโน้นเลย
รถค่อยๆขยับทีละนิดๆชนิดที่ว่าคนเดินแซงไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า คงเดินมาจากแยกบางนา หรือจากอุดมสุข บางคนโชคดีพอเจอมอเตอร์ไซค์วินก็โบกขึ้นนั่ง แต่บางคันก็ไม่ไปอ้างว่าน้ำท่วมซอยเข้าไม่ได้ ไฟแดงเตือนน้ำมันขึ้นแล้ว หนทางที่จะถึงปั๊มไม่ไกลมากเท่าไหร่แต่จะไปถึงอีกกี่โมงยามไม่มีใครรู้ นาฬิกาบอกเวลาจะถึงสองทุ่มแล้ว ป่านนี้ภรรยาผู้เขียนน่าจะเลิกงานและคงจะติดอยู่กลางถนนเช่นกัน
รถของผู้เขียนคลานมาถึงตรงหน้าคลีนิกรักษาฟัน ยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายวันเวลา เสียดายโอกาสที่สูญไป หากรู้ว่าน้ำท่วม รถติดขนาดนี้คงมาแต่เนิ่นๆและได้ทำฟันไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมาทนปวดและติดอยู่บนถนนเป็นเวลานานขนาดนี้ ยกโทรศัพท์โทรหาคนข้างกายเธอบอกว่าเลยผู้เขียนไปแล้ว มองดูเสันทางหลักด้านใน รถวิ่งได้ดีพอสมควร ไม่หยุดนิ่งเหมือนด้านนอกนี้ เธอบอกมากับเพื่อนที่ทำงานไปได้เรื่อยๆ
ภาพคลีนิกทำฟันอยู่ติดถนน ด้านหน้าเป็นป้ายรถเมล์ สังเกตุเห็นคนยังนั่งรอรถเมล์อยู่แม้รถจะติดสนิทขนาดไหน....
ไฟแดงเตือนน้ำมันหาย ผู้เขียนคิดเข้าข้างตัวเองว่าน้ำมันคงจะเหลืออยู่พอถึงปั๊ม หรือว่ามันจะหมดแล้ว ใจหนึ่งเมื่อรถหยุดนานกะจะดับเครื่อง แต่ก็กลัวว่าจะสตาร์ทไม่ติดเพราะน้ำมันอาจจะไม่เดินต่อเนื่อง(คิดไปเอง) ถ้าหมดเครื่องดับจะทำยังไง ใครจะมาช่วยเข็น และเข็นไกลแค่ไหนกว่าจะถึงปั๊ม กะจากทางยูเทรินเซ็นทรัลท่เห็นด้านหน้าก็คงจะเกือบหนึ่งกิโลเมตรล่ะที่จะต้องเข็น หรือไม่เข็นเพราะไม่มีคนช่วยจะจอดทิ้งแล้วเดินไปซื้อน้ำมัน ใครจะเฝ้ารถอีก
ระหว่างนั้นช่องด้านขวาขยับได้ผู้เขียนกะจะออกขวาแต่ติดรถคันหน้าที่ยังไม่ขยับ ด้านหลังเลนขวารถที่ตามเป็นรถบัสรับส่งพนักงานอยู่ห่างถึงสองช่วงคันได้ รอคันหน้าขยับนิดจะออกขวาแล้ว พอดีรถบัสเคลื่อนตัวออกมาอย่างเร็วและเบียดเข้ากับรถด้านซ้ายเสียงชนกระจกข้างแตกกระจายได้ยินชัดเจน ผู้เขียนตัดสินใจไม่ออกขวาและด้านหน้าเริ่มขยับต่ออีกนิด มองกระจกหลังรถเก๋งคันที่ถูกชนเปิดไฟผ่าหมากอยู่ด้านหลัง และต่อจากนั้นรถก็จะติดสนิทมากไปกว่าเดิมอีกเป็นแน่
เหงื่อผู้เขียนเริ่มตกเมื่อไฟแดงเตือนน้ำมันหมดขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้หมดจริงแน่ๆ พยายามตั้งสติปกติเมื่อไฟแดงเตือนขึ้นวิ่งได้ไกลหลายกิโลเมตรอยู่ นี่ปั๊มอยู่ไม่น่าจะถึงกิโลเมตรยังไงน่าจะไปถึง
รถเริ่มขยับได้ถี่ขึ้น ใจชื้นขึ้นอีกนิด ขยับอีกนิดก็ใจชื้นขึ้นอีกหน่อย
และรถผู้เขียนก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้จนเห็นป้ายปั๊มน้ำมันแล้ว
คืนนั้นผู้เขียนถึงบ้านเกือบสี่ทุ่ม อยู่บนท้องถนนระยะทางไปกลับจากบางแก้วถึงบางนา 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง
ในคืนแห่งพระจันทร์สีเลือด
และนอนทนปวดฟันต่อไปจนรุ่งเช้า
.....................
มาให้กำลังใจครับ