​เคาะประตูบ้านสร้างกิจกรรม ชวนผู้สูงวัยให้ใส่ใจสุขภาพ

เคาะประตูบ้านสร้างกิจกรรม

ชวนผู้สูงวัยให้ใส่ใจสุขภาพ

          ภาพของวิถีชีวิตของชุมชนเมืองใหญ่ ซึ่งต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ตื่นเช้าไปทำงาน เย็นเข้าบ้าน วนเวียนแบบนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านจึงไม่มี บางทีบ้านข้างเคียงกันก็ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงความร่วมมือในด้านอื่นที่จะรวมตัวกันทำอะไรสักเรื่องหนึ่งก็เป็นเรื่องยาก ความร่วมมือร่วมใจจึงอยู่ในเกณฑ์ต่ำสุด

          เช่นเดียวกับหมู่บ้านศุภากร หมู่11 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่นี่ถือเป็นหมู่บ้านเกิดขึ้นใหม่เมื่อปี 2548 ผู้อาศัยกว่า 3,000 คน ใน 500 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยทำงานทั้งวัยหนุ่มและวัยใกล้เกษียณ รูปแบบการใช้ชีวิตจึงต่างคนต่ออยู่

            ความเป็นสังคมเมืองโดยสมบูรณ์แบบนี้เอง ยังส่งผลกระทบไปถึงผู้สูงอายุในหมู่บ้านที่มีทั้งหมด 117 คน ซึ่งทุกคนใช้ชีวิตวัยใกล้ฝั่งด้วยการอยู่บ้าน บ้างก็เลี้ยงหลาน บ้างก็อยู่เพียงลำพังสองคนตา-ยาย และไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคมภายนอก ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตจึงไร้จุดหมาย

            ธนิต สันติสุนทรกุล ประธาน อสม.หมู่บ้านศุภกร กล่าวว่า ชุมชนมองเห็นปัญหาของผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะด้านสุขภาพจิต ที่เริ่มห่อเหี่ยว ซึมเศร้า ลูกหลานไปทำงาน ไม่มีเวลามาดูแล ส่วนทางกายก็มีโรคถามหาตามช่วงวัย  จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้กลุ่มผู้สูงอายุทั้งหมดมีความสุข เพื่อชุมชนเกิดการพัฒนาอยู่อย่างมีความสุขทุกส่วน จึงได้เข้าร่วมโครงการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

            เมื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว การจะไปชักชวนผู้สูงอายุให้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะความเคยชินที่ต่างคนต่างอยู่มานาน ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเหมือนสังคมชนบท ธนิตและทีมงานอสม.ที่ร่วมกันทำโครงการจึงต้องใช้วิธีเชิงรุก คือ เดินเคาะประตูบ้านที่มีผู้สูงอายุทุกหลัง เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการ และจะเป็นประโยชน์อย่างไร

            “แรกๆ ก็มีทั้งที่สนใจ บางคนก็เฉยๆ ไม่มีท่าทีสนใจ  แต่เราแสดงความจริงใจและตั้งใจ ทำให้เขาเชื่อใจและยอมออกมาทำกิจกรรมในที่สุด” ธนิต บอก โดยครั้งแรกที่มีการประชุมชี้แจงโครงการ มีผู้สูงอายุสนใจมาเข้าร่วมกว่า 80 คน เปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็น ว่าต้องการอะไร อยากได้อะไร เพื่อนำเอาข้อมูลนั้นไปใช้ในการทำงานต่อไป โดยได้ อบต.ไทรนน้อย และ รพ.ไทรน้อย มาเป็นภาคีสนับสนุนด้วย

            นี่จึงถือเป็นครั้งแรกที่ผู้สูงอายุหมู่บ้านศุภากรได้ออกมาพบปะพูดคุย มีกิจกรรมทำร่วมกัน เกิดเป็นความร่วมมือและสร้างความสามัคคีในชุมชน

            สิชามน งบไธสง หนึ่งในคณะทำงาน กล่าวว่า กิจกรรมหลักๆ ที่ทำ ครอบคลุมทั้งเรื่องของกาย ใจ และปัญญา เช่น การออกกำลังกายทุกเย็นวันจันทร์ พุธ ศุกร์ การฝึกอบรมเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โครงการฝึกอาชีพทำกระเป๋าถักไหมพร ประดิษฐ์ดอกไม้ การฝึกสมาธิบำบัด ออกกำลังกายโดยใช้สมาธิ รวมไปถึงและการสอนการกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการสำหรับผู้สูงวัย นอกจากนี้แล้วยังได้นำผู้สูงอายุจำนวน 30 คนไปเข้าร่วมกิจกรรม “ตามล่าหาความสุข” ที่ รพ.ไทรน้อย จัดขึ้น เพื่อให้ได้ความรู้เกี่ยวกับการชีวิตบั้นปลาย ไม่ให้ซึมเศร้า ขณะเดียวกันก็ช่วยกันดูแลและให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่ติดบ้าน ติดเตียง ทั้งหมด 7 รายด้วย

            “ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เราก็จัดงานรดน้ำดำหัวขึ้นเป็นครั้งแรก มีรำวงย้อนยุค ร้องเพลง เพื่อให้ผู้สูงอายุได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ถือเป็นงานแรกของชุมชนที่มีกิจกรรมร่วมกัน ปรากฎว่ามีคนมาร่วมเกินที่ตั้งไปไว้เยอะ ทุกคนมีความสุข และมาพูดกับเราว่า ขอบคุณที่มาทำให้หมู่บ้านเรามีความสุข และปีหน้าจะมาร่วมกิจกรรมอีกแน่นอน เราก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นผู้สูงอายุมีความสุข” สิชามน กล่าว

          จากที่เคยใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ อย่างห่อเหี่ยวไร้จุดหมาย วันนี้เราจึงเห็นรอยยิ้มอย่างมีความสุขเต็มเปี่ยมของผู้สูงอายุกว่า 117 คนของหมู่บ้านศุภากร  ที่ไม่ต้องทนเหงา ซึมเศร้าเหมือนแต่ก่อน ดูมีกำลังวังชา ใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมายต่อไป

          

          ดังเช่น ป้าสมบูรณ์ ทรงทรัพย์ คือตัวอย่างของผู้สูงอายุหมู่บ้านศุภากรที่เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน ปกติแล้วป้าสมบูรณ์ อาศัยอยู่กับสามีลำพังสองคน เมื่อก่อนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากเข้าสังคม ใครชวนไปไหนก็ไม่อยากไป วันๆ ก็อยู่แต่บ้าน ไม่อยากไปไหนหรือเจอใคร แต่พอมาเข้าร่วมโครงการ ได้ออกมาพบปะพูดคุยกับคนอื่น ได้มาออกกำลังกายทุกเย็น ก็มีความสุข มีรอยยิ้มได้ สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ ส่วน ร.ต.บุญชาติ รื่นบุญมา ข้าราชการบำนาญ ก็ได้มีโอกาสออกกำลังกายทุกเย็น ทำให้ร่างกายแข็งแรง ดีกว่าแต่ก่อน หลังเสร็จกิจกรรมก็จะมาพูดคุยกัน ทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนจะไม่มีแบบนี้

            ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันทุกภาคส่วนในการเสริมสร้างศักยภาพ ทำให้วันนี้ผู้สูงอายุหมู่บ้านศุภากรมีรอยยิ้ม สุขกาย สุขใจ และมีพลังในการใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขต่อไป