วันนี้...เป็นวันที่ ๒๕ นับแต่เปิดเรียนในภาคเรียนที่ ๒/๒๔๖๐
แต่เป็นวันที่ ๕๖ ของการ " ปลอด ผู้บริหารโรงเรียน"
แต่ใน ๕๖ วันนี้ บุคลากรของโรงเรียน ทำงานอย่างเต็มกำลัง
ทำงานแบบ " ไม่เหนื่อยใจ" งานเดินหน้าอย่างรวดเร็วเป็นไปตาม
ที่กำหนดไว้ อย่างไม่น่าเชื่อ !
หากย้อนหลังไปสัก ๗ ปี คณะครูและบุคลากรของโรงเรียนของคุณมะเดื่อ
นับเป็นทีมงานบุคลากรที่มีคุณภาพมาก ๆ ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
ทำงานแบบเต็มกำลัง งานเดินหน้าอย่างมีคุณภาพ เต็มไปด้วย
ประสิทธิภาพ โรงเรียนมีระบบงาน และการบริหารงานอย่างมี
แบบแผน ใช้ระบบการบริหารงานที่มีคุณภาพทุก ๆ งาน
และที่สำคัญ โรงเรียนเดินหน้าด้วย " บ ว ร "
โดยมี " ผู้บริหารโรงเรียน เป็นผู้นำในการพัฒนางาน"
อย่างแทัจริง
นับแต่โรงเรียนว่างตำแหน่งผู้บริหาร โรงเรียนเหลือ " ครูเก่า" ที่อยู่ที่นี่มาเกิน ๑๐ ปี
อยู่เพียง ๓ คน หนึ่งในนั้น คือ ครูมะเดื่อ ส่วนตำแหน่ง "รักษาการ ฯ "
เป็นของ " ครูกัลยา" หรือ "ครูต้อย" ซึ่งรับหน้าที่ การเงินของโรงเรียนด้วย
ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ " ครูพิภพ" ซึีงรับหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุของโรงเรียน
ส่วนครูมะเดื่อรับงาน " วิชาการโรงเรียน" หลังจากว่างงานไป ๗ ปี
นอกจากนั้น เป็นครูบรรจุใหม่ แทบทุกคน ..นับแต่วันที่ว่างตำแหน่ง ผอ.รร.
รก.กัลยา ก็ทำหน้าที่ของ " ผู้นำอย่างเต็มความสามารถ
เริ่มจาก....การประชุมครู แบบ " PLC " เพื่อหาทิศ หาทางของโรงเรียน
ที่จะต้องเดินหน้า หลังจากที่หยุดชะงักไป ๗ ปี
ต่อด้วยการ ประชุมผู้ปกครอง ... ประชุมกรรมการสถานศึกษา...
จัดตั้ง " กรรมการผู้ปกครองเครือข่าย " และ ประชุมภาคี ๔ ฝ่าย
คุณมะเดื่อ ขอให้ครูทุกคนเขียน " โครงการ" เพื่อใช้งบประมาณรายหัวด้วยตนเอง
และ รับหน้าที่รวบรวม " โครงการ" นำมาจัดทำ " แผนปฏิบัติงานโรงเรียน" (ซึี่งจาก
๗ ปีที่ผ่านมา ครูของโรงเรียน ไม่มีโอกาสได้เขียนโครงการใชงบประมาณ
ตามความจำเป็นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรืองานที่ตนรับผิดชอบเลย
งานใช้งบประมาณทุกอย่าง ครูหรือบุคลากรที่เกี่ยวของ โดยเฉพาะคณะกรรมการ
สถานศึกษา ไม่มีโอกาสได้รับรู้ ) คุณมะเดื่อเร่งจัดพิมพ์โครงการ และทำแผน
ปฏิบัติงานโรงเรียนจนเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ทันกับงบประมาณ
ในปี ๒๕๖๑ นี้
พร้อมกันนี้ คุณมะเดื่อเร่งเดินหน้างานโครงการที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
นั่นคือ งานเศรษฐกิจพอเพียง งานโครงงานคุณธรรม งานบรรยากาศและ
สิ่งแวดล้อมของโรงเรียน งานห้องสมุด งานแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน
งานสัมพันธ์ชุมชน และที่สำคัญคือ " งานการเรียนการสอน" โดยเฉพาะ
งานสอนพิเศษนักเรียนที่อ่านเขียนไม่คล่อง ซึี่งงานเหล่านี้
คุณมะเดื่อทั้งลงมือทำเอง และเป็นที่ปรึกษาให้กับครูลูก ๆ หลาน ๆ
ที่เป็นครูรุ่นใหม่ของโรงเรียน
คุณมะเดื่อ เดินหน้างาน เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้แนวทาง " กินทุกอย่างที่ปลูก และปลูกทุกอย่าง
ที่กิน " นับแต่เริ่มเปิดเรียน วันที่ ๑ พ.ย. เป็นต้นมา โดยปรับบริเวณรอบ ๆ โรงเรียน
ให้เป็น " แปลงผักสวนครัว" อาศัยโคนต้นไม้ใหญ่ ริมถนนทางเดินในโรงเรียน
ชายคาอาคารต่าง ๆ ตลอดจนหลังอาคารเรียน เป็น " แปลงผัก" ให้เด็ก ๆ ทุกชั้น
นำผักสวนครัวมาปลูก มีครูประจำชั้นเป็นผู้ดูแล ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ
ก่อนหน้านี้ ทั่วบริเวณโรงเรียนของคุณมะเดื่อ มี " หอยทากยักษ์"
ระบาดไปทั่ว เจ้าหอยทากยักษ์นี้ เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด สำหรับพืชผัก
ทุกอย่าง มันกินจนราบเรียบ
คุณมะเดื่อจึงนำเจ้าตัวร้ายนี้มาหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพสำหรับรดพิชผัก
ที่ปลูกไว้ เป็นการ " หนามยอกเอาหนามบ่ง" ดังนั้น เมื่อนักเรียนเตรียม
พื้นที่สำหรับปลูกผัก ก็ต้องกำจัดเจ้าหอยทากยักษ์นี้ไปด้วย ด้วยการ
จับเอามาทำปุ๋ยหมักในถังที่เตรียมไว้ และทุก ๆ เช้า เด็ก ๆ ก็จะตรวจสอบ
แปลงผักของตนเอง พร้อม ๆ กับกำจัดเจ้าตัวร้ายนี้ไปด้วย
พร้อม ๆ กับการปลูกพืชผัก คุณมะเดื่อให้เด็ก ๆ นำปลอกบ่อเก่า ๆ ที่มีอยู่
ในโรงเรียน และไม่ได้ใช้ทำสิ่งใดนอกจาก " เพาะลูกน้ำตามธรรมชาติ"
นำ มาล้าง ทำความสะอาด เพื่อเอามา " เลี้ยงหอยขม " แทนการ
เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงกบ เหมือนกับที่หลาย ๆ โรงเรียนเลี้ยงกัน
คุณมะเดื่อเห็นว่า การเลี้ยงหอยขม ยังไม่แพร่หลาย และเป็นงานที่
น่าสนใจมาก หอยขมในธรรมชาติ นับวันแต่จะหายาก มีราคาแพง
เลี้ยงง่าย และแทบไม่ต้องมีการลงทุนในการเลี้ยง
คุณมะเดื่อได้คุยเรื่องการเลี้ยงหอยขมกับผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่ีง
ผู้ปกครองท่านนี้สนใจมาก และคิดจะเลี้ยงหอยขมด้วย บอกว่าแถว ๆ บ้านเขา
ยังพอจะหาหอยขมในธรรมชาติได้ คุณมะเดื่อจึงให้เอกสารการเลี้ยงหอยขม
กับผู้ปกครองท่านนี้ไปศึกษา แล้ววันรุ่งขึ้นผู้ปกครองเด็ก ก็นำหอยขม
มาให้คุณมะเดื่อถุงหนึ่ง คุณมะเดื่อจึงได้หอยขมมาเลี้ยงตามความตั้งใจ
คาดว่า ... วันหน้าจะเอาหอยขมไปแลกกับ " กบ " ของท่าน ผอ.ชยันต์
ไม่ทราบว่า จะ โอ.เค.ไหม จ๊ะท่าน ผอ คนเก่ง ?
งานที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณมะเดือ คือ การพัฒนาคุณภาพการอ่าน การเขียน
ของนักเรียน การสอนซ่อมและสอนเสริม เป็นโครงการหนึ่งที่คุณมะเดื่อ
ทำมาตลอดระยะเวลาของชีวิตครู คุณมะเดื่อได้ใช้เวลา หลังเลิกเรียน
ตั้งแต่ ๑๖.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. กับการสอนพิเศษให้กับนักเรียน ทั้งที่
มีปัญหาด้านการอ่าน การเขียนจริง ๆ และ ต้องการที่จะเรียน
เพิ่มเติมเอง และผู้ปกครองฝากให้เรียนด้วย .... นับตั้งแต่
ชั้น อนุบาล - ป.๖ ประมาณ ๖๐ คน อาศัยห้องสมุดใหม่
(อาคารอเนกประสงค์) เป็นสถานที่เรียนไปพลาง ๆ ก่อน
คุณมะเดื่อยังไม่ได้จัดระบบการสอนให้ลงตัว เนื่องด้วย
อยู่ในช่วงที่ต้องทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันไป
น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ครูรุ่นใหม่เป็น เด็กที่น่ารักมาก ๆ อีกทั้งมีความขยัน
ในงานสอน และเอาใจใส่ต่อศิษย์ของตน ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์
ได้อย่าง สิ่งใดไม่รู้ไม่เข้าใจ
ก็จะไถ่ถามจากครูพี่ ๆ ป้า ๆ น้า ๆ ลุง ๆ ไม่รวมถึงความเก่ง
ในเนื้อหาวิชาความรู้ ในวิชาเอกของตน สมกับเป็นครูรุ่นใหม่
คุณมะเดื่อเห็นแล้วนึกชื่นชมมาก ๆ
บรรยากาศของการทำงาน ความร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยงานโรงเรียน
แบบพี่น้อง ไม่คำนึงว่างานนั้นจะหนักหรือเบา บรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ห่างหายไปจากโรงเรียนนี้ร่วม ๗ ปี บัดนี้ บรรยากาศนั้นกลับมาอีกครั้งแล้ว
ครูทุกคน ทำงานโดยไม่มีวันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ หากใครมีเวลาว่าง ก็จะ
เข้าไปทำงานที่โรงเรียน โดยไม่ต้องคำนึงว่า เป็นครูเวรหรือไม่
นี่คือ บรรยากาศของโรงเรียนบ้านท่าฝาง ในวันนี้
ในแต่ละวัน ผู้ปกครองแวะเวียนไปพูดคุย ไถ่ถาม ช่วยงานโรงเรียนเสมอ หลังจากห่างหาย
ไปร่วม ๗ ปี เช่นกัน.......
ทุกวันนี้บุคลากรของโรงเรียนทุกคนทำงานอย่างมีความสุข
แม้ว่าจะขาด " ผู้บริหารตัวจริง" ก็ตามที
พวกเราทำงานเดินหน้า ด้วยจิตสำนึกของความเป็นครู
ด้วยจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือ....นำพาศิษย์ไปสู่ความสำเร็จของชีวิต
นำพาโรงเรียนไปสู่การพัฒนาที่ดี และทันกับสังคมที่กำลัง
เปลี่ยนแปงไปอย่างรวดเร็ว
การมีผู้บริหารหรือไม่...จึงไม่ใช่...เรื่องสำคัญที่มีผลต่อการ
ทำงานของพวกเรา มันสำคัญที่ " จิตสำนึกของความเป็นครู"
อีกเพียง ๒๑ เดือน สำหรับชีวิตบนเส้นทางสายการศึกษา
ของคุณมะเดื่อ.....ดังนั้น.......!
ทุกวินาทีจึงมีค่ายิ่งสำหรับคุณมะเดื่อ....และ..พวกเราชาว....ท่าฝาง
สวัสดีจ้ะพ่อเขียน
ดีใจจังเลยที่พ่อเขียนกลับมา
เขียนบันทึกที่โกทูโนอีกครั้ง
คิดถึงนะจ๊ะ อย่าหายไปอีกนะ
ขอบคุณที่มาทักทายจ้ะ