นับเป็นบุญตาของผมเหลือเกิน..ที่ได้มีโอกาสไปเดินชมความอลังการของงานตกแต่งดอกไม้..ที่สวยสดงดงามยิ่งนัก..เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ บริเวณปากคลองตลาด..
ผมมัวแต่ทำงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติ..จึงไม่ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับถนนสายดอกไม้ หรือ “อุโมงค์ดอกไม้” ที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ จัดให้ชมในวันที่ ๒๑ – ๒๗ ตุลาคม..ผมไปวันสุดท้ายพอดี..
มีผู้คนมากมายเข้าชมดอกไม้ในอุโมงค์..เดินไหลตามกันไป ถ่ายรูปกันขวักไขว่ ผมเองติดตาประทับใจ เดินไปคิดไปว่าใครกันนะ คิดและทำเรื่องนี้ได้อย่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญ คือ ทำเพื่อพ่อหลวงอย่างแท้จริง..ผมจึงกลับมาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม..
พบว่า...ซุ้มดอกไม้ปากคลองตลาด จัดโดยมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ร่วมกับจิตอาสา และชุมชนปากคลองตลาด ได้รวมตัวจัดกิจกรรม "ดอกไม้เพื่อพ่อ" เพื่อร่วมกันเนรมิตปากคลองตลาดให้กลายเป็นถนนสายดอกไม้ พร้อมกับเชิญชวนคนไทยทุกคนได้ร่วมรังสรรค์ซุ้มประตูดอกไม้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยใช้พื้นที่บริเวณถนนจักรเพชร ประดับซุ้มดอกไม้จำนวนทั้งหมด ๖ ซุ้ม ตลอดระยะทางยาวกว่า ๔๐๐ เมตร ซึ่งแต่ละซุ้มมีความสวยงามโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทั้งหมดประกอบด้วย....
ซุ้มที่ ๑ "คนไทย" ซุ้มดอกไม้ความยาว ๘๙ เมตรตามพระชนมพรรษาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซุ้มนี้จัดทำเสมือนผืนผ้าปลิวไสว ประดับด้วยดอกไม้สีขาวในส่วนปลายของผืนผ้าแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีธงชาติไทยเพื่อสื่อความหมายว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาคล้ายดั่งผ้าขาว ต่อเมื่อได้มาอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ ทุกคนล้วนเป็นคนไทยร่วมกันอย่างหมดหัวใจ ในขณะที่ประชาชนจุดเทียนเดินผ่านซุ้มดังกล่าว ยังสื่อความหมายว่าไม่ว่าลมพายุจะแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถดับแสงเทียนแห่งศรัทธาของคนไทยลงไปได้ เพราะคำสอนของพระองค์นั้นเป็นสัจธรรม เป็นอมตะวาจา
ซุ้มที่ ๒ "สายฝน" (The Rain) ซุ้มดอกไม้ที่มีแรงบันดาลใจจากดอกบัวของยายตุ้ม จันทนิตย์ ที่เฝ้าอดทนรอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนดอกบัวสายในมือเหี่ยวเฉา เมื่อครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกร จ.นครพนม ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ และด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ที่เปรียบดั่งสายฝนหลั่งชโลมให้ชีวิตคนไทยได้ชุ่มฉ่ำตลอดมา จึงทำให้ดอกบัวที่เหี่ยวเฉากลับกลายเป็นดอกบัวที่บานสะพรั่งในหัวใจคนไทยทั้งประเทศ โดยซุ้มนี้ใช้ดอกบัวจัดเรียงลดหลั่นดุจสายน้ำและมีดอกบัวที่ล่องลอยโผล่พ้นผิวน้ำคือปริศนาธรรมที่บ่งบอกถึงการเป็นบัวเหนือน้ำของคนไทยจากคำสอนของพระองค์ท่าน
ซุ้มที่ ๓ "รอยเท้าพ่อ" ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำเป็นรูปทิวเขาทางภาคเหนือ ประดับด้วยดอกเบญจมาศ และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดซึ่งปัจจุบันเป็นดอกไม้เศรษฐกิจของไทย เพื่อสื่อความหมายถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรม จากไร่ฝิ่นมาสู่สวนดอกไม้และพืชเมืองหนาว สร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกร
ซุ้มที่ ๔ "บ้าน" (Home) ซุ้มดอกไม้ที่นำดอกไม้มาจัดทำเป็นพวงดอกไม้เป็นรูปทรงของดอกดารารัตน์จำนวน ๗๗ ดอกในฟอร์มของแผนที่ประเทศไทย เพื่อสื่อความหมายถึงพสกนิกรชาวไทยทั้ง ๗๗ จังหวัดที่น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ดุจดั่งความรักของพระองค์ที่มีให้กับคนไทยทั้ง ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ
ซุ้มที่ ๕ "๙" (King Rama IX) ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นด้วยดอกดาวเรืองสว่างสดใส ซึ่งเป็นสีประจำรัชกาลนำมาเรียงร้อยเป็นม่านระย้าอย่างงดงาม เมื่อผู้ชมมองจากมุมหน้าตรงของซุ้มประตู จะเห็นเป็นรูปทรงของเลข ๙ ส่วนความเรืองรองของสีเหลืองดอกดาวเรืองนั้นเปรียบเสมือนความรุ่งเรืองของประเทศไทยตลอดรัชสมัยของพระองค์ที่ทั่วโลกต่างยกย่องให้เป็นพระราชาเหนือพระราชา
ซุ้มที่ ๖"มณฑารพ" ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นเป็นรูปทรงประตูสวรรค์ มีดอกมณฑารพ ดอกไม้ทิพย์ที่มีถิ่นกำเนิดในแดนสวรรค์ห้อยระย้าอยู่ที่ช่องประตู ครั้งใดมีเหตุการณ์ที่ทำให้แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นถึงชั้นฟ้า ดอกมณฑารพก็จะโปรยปรายผ่านแดนทิพย์สู่โลกมนุษย์ ด้านข้างประตูสวรรค์รายล้อมด้วยเทือกเขาดอกไม้สีขาวและช้างเผือกเครื่องเชิดชูเกียรติประดับบารมีของพระมหากษัตริย์ เพื่อสื่อความหมายถึง..พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย....
ผมเก็บภาพมาได้บางส่วน อย่างยากลำบาก..แต่คุ้มค่า..เหมือนได้รางวัลชีวิต หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการงานมาโดยตลอด..ชื่นใจเหลือเกิน..ที่เห็นผู้คนบนผืนแผ่นดินไทย รักในหลวงรัชกาลที่ ๙ และผมเชื่อมั่นว่า พระองค์จะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีงาม..แห่งแผ่นดินไทยนี้..ตลอดกาล
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐
-สวัสดีครับท่าน ผอ.
-ขอบคุณภาพสวยๆ นะครับ
-ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสของจริง แต่ก็ได้ชมผ่านสื่อต่างๆ ประทับใจและชื่นชมผู้จัดงานมากๆ ครับ
-สวยทุกมุมมองนะครับ