บอร์ด ก.ค.ศ. กำหนดอำนาจบริหารงานบุคคล ของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาและศึกษาธิการจังหวัด


บอร์ด ก.ค.ศ. กำหนดอำนาจบริหารงานบุคคล
ของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาและศึกษาธิการจังหวัด

ดร.ถวิล อรัญเวศ
รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4

----------------

บอร์ด ก.ค.ศ. กำหนดอำนาจบริหารงานบุคคลในพื้นที่ของผอ.เขตพื้นที่การศึกษาและศึกษาธิการจังหวัดพร้อมกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหารองศธจ. เริ่มจังหวัดละ1 อัตราก่อน ถ้าพื้นที่ใดมีงานมากอาจให้เพิ่มรองศธจ.อีก 2-3 ตำแหน่ง

ด้วยเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์รมว.ศึกษาธิการ
เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบอำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และ
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตาม พ.ร.บ.ระเบียบ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560
โดยมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. จัดทำแนวปฏิบัติเพื่อให้การปฏิบัติงานฅ
เป็นมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ยังเห็นชอบการกำหนดกรอบอัตรากำลัง
ผู้ปฏิบัติงานในสำนักงาน ศธจ. ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ขนาด ได้แก่

ขนาดใหญ่พิเศษ 21 อำเภอขึ้นไป

ขนาดใหญ่ 16-20 อำเภอ

ขนาดกลาง 9-15 อำเภอ และ

ขนาดเล็ก 8 อำเภอลงมา

โดยในระยะแรกให้เกลี่ยอัตรากำลังจาก สพท. ตำแหน่งศึกษานิเทศก์
มาจำนวน 958 ตำแหน่ง และตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตาม
มาตรา 38 ค.(2) ไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนตำแหน่งที่ สพท.ทั่วประเทศ
มีอยู่หรือคิดเป็นจำนวน 3,575 คน โดยการเกลี่ยอัตรากำลังดังกล่าว
ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ ไม่กีดกัน และ
ไม่ทำให้ราชการเสียหายทั้งต้นทางและปลายทาง

รมว.ศึกษาธิการ ยังกล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังอนุมัติให้กำหนด
ตำแหน่งรอง ศธจ. เป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการต้น โดยเบื้องต้น
กำหนดให้มี รองศธจ.จังหวัดละ 1 อัตราก่อน รวมถึงเห็นชอบ
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งรองศธจ. สังกัดสำนักงานปลัดศธ.
โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ดังนี้

1. รองผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือรอง ผอ.สพท.
2. รองผอ.สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร
3. รอง ผอ.สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด


สำหรับวิธีการสรรหา

ใช้การประเมินความรู้ความสามารถในตำแหน่ง พิจารณาจากประวัติ
ประสบการณ์ทางการบริหารและผลงานที่ประสบผลสำเร็จ
และประเมินความเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่
ประเมินตามรูปแบบและวิธีการที่สำนักงานปลัด ศธ.กำหนด
ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง พิจารณาจากวิสัยทัศน์และ
แนวทางการพัฒนาสำนักงาน ศธจ.และสัมภาษณ์

ทั้งนี้ผู้ได้รับการสรรหาจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่เป็น
รายภาค และตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศโดยไม่มีการขึ้นบัญชี

ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. กล่าวว่า อำนาจหน้าที่ของ
ศธจ.และ ผอ.สพท.จะมี 3 ลักษณะ ได้แก่

1. เป็นงานที่จะต้องทำร่วมกัน ระหว่าง ผอ.สพท.และศธจ.
เช่น การพิจารณาความดีความชอบในเรื่องการเลื่อนขั้นเงินเดือน
การโยกย้าย การประเมินวิทยฐานะครู การเลื่อนเงินเดือน เป็นต้น

2. งานของ ผอ.สพท.โดยตรง เช่น

การทำแผน การส่งเสริมการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
การทำมาตรฐานและเกณฑ์ประเมินผลงาน การจัดประวัติข้าราชการ
อำนาจหน้าที่ในการสั่งประจำส่วนราชการหรือสำนักงานเขตฯเป็นการชั่วคราว
การดำเนินการทางวินัยกรณีวินัยไม่ร้ายแรง รวมถึงการฝึกอบรม
ดูงานวิจัยของผู้ใต้บังคับบัญชา และ

3.งานของ ศธจ.

จะเป็นเลขานุการคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(อ.ก.ค.ศ.) ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้สั่งบรรจุ แต่งตั้ง และให้ออกจากราชการ
ของผอ.โรงเรียน, รองผอ.โรงเรียน, ข้าราชการครู และ
การสั่งให้มีการรักษาการในกรณีที่มีตำแหน่งว่าง การดำเนินการ
ทางวินัยกรณีวินัยร้ายแรง เป็นต้น

“ที่ประชุมได้ทำความชัดเจนในเรื่องการบริหารงานบุคคลตามคำสั่ง
หัวหน้าคสช. อำนาจหน้าที่การบริหารงานบุคคลเป็นอำนาจร่วมกัน
ระหว่างองค์คณะบุคคลหรือคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
(กศจ.) กับ ศธจ.และผอ.สพท.โดยจำแนกภารกิจของ
ผอ.สพท. ภารกิจของ ศธจ.และภารกิจที่ผอ.สพท.
และศธจ.จะต้องร่วมกันทำ ดังนั้นหลังจากนี้จะ
ต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ถึงบทบาทหน้าที่ของแต่ละส่วนให้ชัดเจน”

ส่วนตำแหน่ง รองศธจ.นั้นเบื้องต้นเริ่มจังหวัดละ 1 ตำแหน่งก่อน
รวมทั้งหมด 77 ตำแหน่ง แต่หากจังหวัดใดมีปริมาณงานมากก็อาจ
จะมีเพิ่มอีก 2-3 ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ
คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ.ในภูมิภาค(คปภ.)


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2560 เวลา 15.35 น.
https://www.dailynews.co.th/education/569456


หมายเลขบันทึก: 627803เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2017 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน 2017 12:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท