รายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 19 มกราคม 2560
ระบุว่า กรรมการ ECB มีความเห็นว่าการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในขณะนั้นสู่ระดับ 1.8%
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทำให้ ECB ตัดสินใจดำเนินการ
ซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้
เพื่อให้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งขึ้น
ECB ระบุว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของ ECB ที่ต่ำกว่า 2% นั้น
เกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน
เช่น การเพิ่มขึ้นของค่าแรงสำหรับคนงาน
ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 19 มกราคม 2560
โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์
ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB
ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB
หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อ
สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE
ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน สำหรับเดือนมกราคม - มีนาคม 2560
ขณะที่เดือนเมษายม - ธันวาคม 2560 จะอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า อาจมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE
หรือขยายเวลาออกไปเกินกว่าเดือนธันวาคม 2560 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง
แหล่งที่มา : http://www.ryt9.com/s/iq27/2602384
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
วันศุกร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560
ไม่มีความเห็น