ยิ่งเท่ ยิ่งน่ารัก เพราะกินโปรตีน ผักและผลไม้ โครงการส่งเสริมโภชนาการเด็กในโรงเรียน



สสส.หนุนทำโครงการ “ยิ่งเท่ ยิ่งน่ารัก เพราะกินโปรตีน ผักและผลไม้” มุ่งส่งเสริมโภชนาการในเด็ก พบหลายโรงเรียนสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน ช่วยนักเรียนเห็นคุณค่าการกินมากขึ้น ผู้ทรงคุณาวุฒิแนะผลักดันให้เข้าสู่ระดับนโยบายเพื่อกระจายความรู้ ขณะที่สสส.พร้อมส่งเสริมโรงเรียนที่ยังขาดโอกาส ให้ทุนนำไปทำงานด้านโภชนาการเด็ก

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) ได้จัดทำโครงการ ยิ่งเท่ ยิ่งน่ารัก เพราะกินโปรตีน ผักและผลไม้ เพื่อสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอาหารกลางวันที่มีคุณภาพแก่นักเรียน ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 147 โรงเรียน จาก 10 จังหวัด คือภาคกลางและภาคตะวันตกที่ จ.ปทุมธานี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ภาคใต้ที่ จ.สงขลา พัทลุง กระบี่ และตรัง


โครงการนี้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดโรงเรียนนำร่องด้านการกินโปรตีน ผักและผลไม้ ผ่านการโครงงานและกิจกรรมเดิมของโรงเรียน เช่น โครงการอาหารกลางวัน โครงการส่งเสริมสุขภาพ โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เน้นกิจกรรมให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่สร้างสรรค์ มีโอกาสและกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากการฝึกคิดและปฏิบัติจริง

นางสาวจารุวัฒน์ บุษมาลี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) กล่าวว่า โครงการ “ยิ่งเท่ ยิ่งน่ารัก เพราะกินโปรตีน ผัก และผลไม้” จัดทำขึ้นเพื่อให้เด็กนักเรียนเติบโตอย่างมีโภชนาการสมวัย และช่วยให้นักเรียนได้รู้จักพืชผักและเมนูอาหารท้องถิ่น สืบสานวัฒนธรรมชุมชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้หันมาการกินโปรตีน ผัก และผลไม้เพิ่มมากขึ้นในมื้อกลางวัน

ผลการดำเนินโครงการกว่า 15 เดือน พบว่า โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการตื่นตัว มีการบูรณาการความรู้เพื่อให้เด็กคิด และทดลองทำโครงงานด้วยตนเอง ทำให้เข้าใจเรื่องโภชนาการและประโยชน์ของการกินผักผลไม้ โรงเรียนหลายแห่งเกิดนวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อชักจูงให้เด็กหันมากินผักผลไม้เพิ่มมากขึ้น เช่น ใช้การเล่านิทาน เพลง ละคร, จัดประกวดเมนูที่เอาผักผลไม้มาปรุงอาหาร, การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยทำแปลงเกษตรปลอดสารพิษ การทำสวนหย่อมโดยปลูกผักผลไม้แทนไม้ดอกไม้ประดับ, มีการจัดทำปฏิทินการกินผักและผลไม้ จนเกิดโรงเรียนต้นแบบด้านร้านค้า สหกรณ์สีเขียว เป็นต้น


ส่วน อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวว่า การแก้ไขโภชนาการในเด็กปัจจุบันควรมุ่งแก้ไขที่พฤติกรรมการกินมากกว่าที่จะทำให้เด็กอ้วนน้อยลง แต่ควรนำโมเดลที่หลายหน่วยงานทำแล้วประสบความสำเร็จ มาหาจุดร่วมที่ตรงกัน เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่านี่คือโมเดลที่ดีที่สุด จากนั้นก็ผลักดันเข้าสู่นโยบายระดับประเทศ เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายยอมรับ และอนุมัติงบประมาณไปยังท้องถิ่น เพื่อโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลได้รับโอกาสที่เท่าเทียม

“สำหรับโครงกายิ่งเท่ยิ่งน่ารักฯ ได้ผลดีและตอบโจทย์ได้เพียงส่วนหนึ่ง จึงควรถอดบทเรียน เพื่อนำไปทดลองทำในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป” อาจารย์สง่า กว่า


ขณะที่ รศ.นพ.อำนาจ ศรีรัตนบัลล์ ประธานคณะกรรมการบริหารแผนสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส. กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ คือกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลจากชุมชนเมือง หรือหน่วยงานของภาครัฐเข้าไปไม่ถึง และขาดทรัพยากรคน ขาดทุนทรัพย์ที่จะนำทำงานด้านการส่งเสริมด้านโภชนาการ จึงต้องหารรูปแบบที่เหมาะสม หรือโมเดลที่เข้ากับคนและพื้นที่ต่อไป

ดังนั้นการเปิดรับผู้รับทุน หรือการให้การสนับสนุนในปีต่อไปของสสส. จึงมุ่งเน้นในกลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่เคยเข้าถึงทุนในการส่งเสริมโภชนาการ ให้โอกาสคนที่ด้อยโอกาสได้เข้าถึงความรู้และการสร้างโภชนาการสมวัย ให้เด็กมีความรู้ทั้งประสบการณ์ชีวิตและวิชาการ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด

“สิ่งที่ผมเชื่อคือสภาพแวดล้อมของโรงเรียนสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนได้ โรงเรียนควรทำโครงการ Project based learning หรือ การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน ได้แก่ การเรียนรู้ด้านการลงมือทำและสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง นักเรียนจะสนุกกับการมีโอกาสได้คิดลงมือทำเอง ถ้าการดำเนินการได้ผลดีก็สามารถนำไปใช้กับหลักสูตรอื่นๆ ได้ ซึ่งหากทำได้จะทำให้นักเรียนมีความรู้และมีทักษะแห่งความสำเร็จ รู้จักคิดให้รอบคอบ รู้หลักการทำงานร่วมกับผู้อื่น เสมือนในชีวิตจริง” อาจารย์อำนาจ กล่าว


หมายเลขบันทึก: 622401เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2017 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2017 17:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท