4 วิธีการประหยัดน้ำประปา



น้ำประปาเป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดให้ได้มาตรฐานที่กำหนดก่อนที่จะปล่อยไปตามท่อจ่ายไปยังบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ก่อนที่จะต่อเข้าบ้านจะมีอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำว่าใช้น้ำไปเท่าไหร่ เราเรียกกันทั่วไปว่า “มิเตอร์วัดน้ำ” หรือมาตรวัดน้ำ จะมีการวัดเป็นหน่วยแล้วเจ้าหน้าที่ จะมีตรวจในทุกเดือนก่อนที่จะนำไปคำนวณราคาทำบิลเพื่อเรียกเก็บค่าน้ำต่อไป แน่นอนว่าน้ำที่เราใช้ต้องเสียถึงแม้คิดว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากแล้วก็ตาม หากเราสามารถที่จะประหยัดได้ก็จะเป็นผลดี ประหยัดทั้งที่เป็นทรัพยากรน้ำ ประหยัดทั้งเงินที่เราต้องจ่ายค่าน้ำโดยที่ไม่จำเป็น โดยมีวิธีแนะนำในการประหยัดดังนี้

1. ตรวจสอบรอยรั่ว : ท่อประปาสมัยนี้เป็นท่อพีวีซี การที่ต่อระหว่างท่อนั้นจะต้องทากาวจึงทำให้ข้อต่อหลุดออกจากกันง่ายกว่าที่เป็นเหล็กที่ใช้เกียวหมุนเข้า ดังนั้นแล้วท่อพีวีซีจึงมีความเสี่ยงในการรั่วจากการต่อ เนื่องจากจะหลุดออกจากการต่อได้ง่าย และมีข้อมูลที่สำคัญคือการรั่วของท่อมีสาเหตุมาจากการทรุดตัวลงของบ้านในฤดูฝนทำให้ท่อที่อยู่ใต้ดินได้รับผลจากการกระทบกระเทือน จึงทำให้บริเวณที่ท่อต่อนั้นหลุดออกจากกันได้ ปัญหาที่เกิดจากดินทรุดนั้นเป็นเรื่องที่เราจะพบได้ยากเพราะส่วนใหญ่ถูกฝังไว้ใต้ดินไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้ว่าท่อได้เกิดรั่วแล้ว

การตรวจสอบนั้นว่าบ้านเรามีท่อน้ำรั่วหรือไม่สามารถที่จะดูได้จากบิลค่าน้ำ ว่ามันมากกว่าปกติที่เราได้เคยใช้ในทุกๆเดือนหรือไม่ หากผิดปกติสามารถที่จะทำด้วยการปิดก๊อกน้ำในบ้านทุกตัวแล้วสังเกตที่มิเตอร์เดินหรือไม่หากยังหมุนอยู่แสดงว่ามีการรั่วเกิดขึ้น หรือถ้าบ้านไหนใช้ปั้มน้ำแล้วก็ดูจากการทำงานของปั้มน้ำ ปั้มน้ำจะทำงานเป็นระยะทั้งๆที่ไม่มีใครใช้น้ำเลย การสังเกตบริเวณที่จะรั่วก็ดูตามแนวท่อทั้งหมด ว่ามีดินตรงไหนชื้นผิดปกติหรือว่ามีน้ำซึมออกมาให้ทำการขุดแล้วซ่อมแซมให้เรียบร้อยแต่ถ้ามีการฝังไว้ตามฝาให้ดูจากสีและความชื้นของฝาตรงไหนมีความพองของสีและมีความชื้นให้ทำการแก้ไข

2.ลดการใช้น้ำตามวิธีการต่างๆ ในการประหยัดน้ำเรามาดูพฤติกรรมในแต่ละคนว่ามีการใช้น้ำมากน้อยเพียงใดให้ลองใช้น้ำที่ไม่จำเป็นอย่างเช่นการเกิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ การเปิดน้ำให้ล้น การเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆที่สามารถประหยัดน้ำได้ตัวอย่างเช่น
– ใช้ฟักบัวอาบน้ำ การใช้ฟักบัวอาบน้ำจะทำให้ลดการใช้น้ำมากกว่าการตักอาบน้ำด้วยขัน เพราะว่าน้ำที่ตักนั้นเวลาที่ลาดลงจะโดนผิวเราไม่ถึงครึ่งของน้ำที่เราได้ตักในขัน ดังนั้นการใช้ฟักบัวจะประหยัดน้ำได้มากกว่า
– ซักผ้าด้วยมือ การซักผ้าด้วยมือจะประหยัดมากกว่าการซักด้วยเครื่องมากกว่าครึ่ง แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องต้องเลือกซื้อเครื่องให้เหมาะสม และการซักแต่ละครั้งก็ให้ได้เหมาะสมกับความจุที่ได้กำหนดไว้ ให้เก็บไว้ซักครั้งละมากๆ
– แปรงฟัน หากการแปรงฟันที่ประหยัดมากที่สุดก็คือการใช้แก้วน้ำรองดีดว่าการเปิดน้ำในขณะที่แปรง
– การล้างผัก ควรแช่ด้วยด่างทับทิม หรือว่าเกลือจะดีกว่าการเปิดน้ำให้ไหลผ่าน
– การล้างรถ การล้างรถด้วยการใช้ผ้าล้างไปด้วยแล้วเทไปจะเป็นการประหยัดมากกว่าการใช้น้ำฉีด

3.ประหยัดน้ำจากชักโครก ชักโครกนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้น้ำมากอย่างหนึ่งเพราะในการกดน้ำแต่ละครั้งจะทำให้น้ำที่ใช้ไปถึง 53 ลิตรชักโครกรุ่นเก่าใช้ 12 ลิตร ดังนั้นเรามาเริ่มการประหยัดจากตัวถังเก็บน้ำจะช่วยให้เราประหยัดน้ำได้มากเช่นกัน การที่เราใช้น้ำให้น้อยลงนั้นจะเป็นการหลอกของตัวถังเก็บน้ำเพราะในตัวถังนั้นจะมีกลไกลการปล่อยน้ำ การหลอกโดยการแทนที่ของอย่างอื่นลงไปอย่างเช่นหินหรือว่าขวดน้ำที่ไม่สูงเกินห้านิ้ว และสิ่งของเหล่านั้นจะต้องไม่ไปขัดขาวงการทำงานของการปล่อยน้ำลงชักโครกด้วย น้ำที่อยู่ในถังนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนด้านบนและส่วนด้านล่างอันที่จริงแล้วน้ำที่ใช้จะเป็นส่วนของด้านบนก็พอเนื่องจากแรงดันน้ำดันบนจะแรงและมีปริมาณที่จะทำให้การล้างนั้นสะอาดพอแล้ว ส่วนด้านล่างนั้นจะมีแรงดันน้ำน้อยและไม่ทำความสะอาดได้เลย เราจึงต้องใช้เพียงน้ำจากด้านบนเท่านั้น

4. การเลือกปั้มน้ำ บางบ้านต้องใช้ปั้มน้ำด้วยสาเหตุที่น้ำนั้นไหลแรงไม่พอยิ่งบ้านไหนที่ต้องใช้น้ำอุ่นหรือว่ามีห้องน้ำที่ชั้นสอง ต้องการสูบน้ำจากด้านล่างขึ้นไป จึงต้องเลือกปั้มน้ำมาใช้ที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตามหากน้ำมีแรงดันมากพอก็ไม่ควรใช้หรือว่าการติดตั้งแทงน้ำไว้ที่สูงจะช่วยลดการทำงานของปั้มน้ำได้เช่นกัน การเลือกก็ควรให้เหมาะสมกับบ้านว่าน้ำที่เราจำเป็นต้องใช้นั้นมีกี่จุด บ้านมีกี่ชั้น หากซื้อเครื่องปั้มแล้วจะต้องติดตั้งไว้ตรงไหนของบ้านเป็นต้น การที่เราจะซื้อจะมีข้อมูลเหล่านี้ในปั้มแต่ละรุ่น ปั้มเล็กไปจะทำให้การทำงานของปั้มหนักเกินไปหากปั้มใหญ่ไปก็จะทำให้กินไฟมาก ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อจะได้ประหยัดเงินซื้อเครื่องปั้มน้ำในขนาดไม่จำเป็น ประหยัดไฟในการทำงานของปั้มน้ำด้วย

คำสำคัญ (Tags): #น้ำประปา
หมายเลขบันทึก: 615433เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2016 19:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กันยายน 2016 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท