การปฏิรูปการศึกษาไทย (ตอนที่ ๙)


หากจะให้ดีควรมีคะแนนการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวจิตอาสา งานเสียสละ ช่วยเหลือส่วนรวม โรงเรียน ชุมชุน สังคม ฯลฯ นำมาพิจารณาด้วย หรือหาหนทางพิจารณาในเรื่องเหล่ามีผลต่อการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

ระบบเคลียริ่งเฮาส์แบบไม่ให้เด็กทิ้งห้องเรียน

ผมเห็นด้วยที่จะใช้ระบบเคลียริ่งเฮาส์ โดยให้เด็กนักเรียนสอบก่อนจะเลือกที่เรียนและเลือกได้สองครั้ง ลดความเครียด ลดการวิ่งรอกสอบ ลดค่าใช้จ่าย และสร้างความเสมอภาค

แต่ไหนๆ จะปรับปรุงทั้งที และในขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศใช้ คงจะยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นอีก หรือให้ดีที่สุดได้ ก็ควรจะแก้ปัญหาเด็กทิ้งห้องเรียนไปกวดวิชา โดยเอาคะแนนทั้งชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายมาพิจารณาในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย หากโรงเรียนไหนปล่อยเกรดก็หาแฟคเตอร์เทียบกับคะแนน GAT มาคิดถ่วงน้ำหนัก ซึ่งคิดว่ามีวิธีการและเคยทำกันมาแล้ว

การแก้ไขปัญหาเรื่องโรงเรียนกวดวิชา อาจจะเอาเข้ามาอยู่ในระบบการศึกษาปกติ และใช้ระบบออนไลน์ ให้เด็กทุกคนกวดวิชาได้ฟรีโดยรัฐช่วยเหลือเสียเลย เคยได้ยินว่าประเทศเกาหลีใต้แก้ปัญหานี้สำเร็จมาแล้ว น่าจะลองศึกษาวิธีของเขาดูเป็นตัวอย่าง

หากจะให้ดีควรมีคะแนนการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวจิตอาสา งานเสียสละ ช่วยเหลือส่วนรวม โรงเรียน ชุมชุน สังคม ฯลฯ นำมาพิจารณาด้วย หรือหาหนทางพิจารณาในเรื่องเหล่ามีผลต่อการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะเด็กมีจำนวนมาก และมีความแตกต่างกันในปัจจัยต่างๆ มาก แต่เป็นการส่งสัญญาแก่เด็กและเยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง และโรงเรียน ซึ่งเป็นผลดีต่อไปในอนาคตระยะยาว

ถ้าหากทำได้อาจจะเก็บข้อมูลไว้ในรูปแฟ้มสะสมผลงาน (portfolio) คู่กับใบรับรองผลการเรียน (transcript) และอย่างน้อยที่สุดก็นำมาใช้ประกอบการพิจารณาในตอนสอบสัมภาษณ์ เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยก็ยังดี

หมายเลขบันทึก: 612974เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2016 09:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2016 09:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หากจะให้ดีควรมีคะแนนการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวจิตอาสา งานเสียสละ ช่วยเหลือส่วนรวม โรงเรียน ชุมชุน สังคม ฯลฯ นำมาพิจารณาด้วย หรือหาหนทางพิจารณาในเรื่องเหล่ามีผลต่อการเข้าเรียนต่อ..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/612974

เด็กยากจนต้องช่วยพ่อแม่หาเงินเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่รอดไปวัน ๆ คงหมดโอกาสเข้าเรียน ควรมีหนทางให้พวกเขาด้วย

เพทาย เย็นจิตโสนัส

หากเป็นกิจกรรมที่จัดโดยโรงเรียนและในเวลา เด็กทุกคนก็มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมได้อยู่แล้วครับ หรือหากโรงเรียนแค่จัดเวลาและโอกาสให้ แต่ให้เด็กเลือกทำกิจกรรมจิตอาสาเองก็ได้ หรือเด็กมีโอกาสสร้างความดีอะไรที่มีหลักฐานและระบบที่จะเก็บข้อมูลและหลักฐานไว้ เช่น แฟ้มสะสมผลงาน เป็นต้น

เด็กยากจนจริงๆ แต่เป็นนิสัยดี มีความประพฤติเรียบร้อย ตั้งใจเล่าเรียน ควรจะต้องได้รับการดูแลจากโรงเรียน สังคม องค์กร หน่วยงาน อบต. อบจ. และหน่วยราชการ ในรูปแบบต่างๆ เช่น ทุนการศึกษา การจ้างให้ทำงาน ฯลฯ

ประเทศไทยมีเงินและงบประมาณในเรื่องต่างๆ มากพอสมควร บ้างเรื่องที่เอาไปใช้กันโดยไม่ค่อยได้ประโยชน์และจำเป็น โดนทุจริตคอร์รัปชั่นไปก็มาก หากกำจัดทุจริตคอร์รัปชั่นลงได้ และใช้เงินให้มีคุณค่าและเกิดประโยชน์ จะมีเงินเหลือมาช่วยเด็กยากจนและคนยากไร้ได้อีกมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท