เกล็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการทำลำไย
จากนู๋ยุ้ย แก้มตุ่ย (สาวน้อยใจดี ้กษตรรำไพฯ)
เมื่อลำไยเกิดภาวะช่อดอกชะงักงัน :
การให้ปุ๋ยเพื่อแก้ไขนั้น แต่ละสวนย่อมแตกต่างกันไป
ไม่มีปุ๋ย หรือยาวิเศษ... ชนิดใด ชนิดหนึ่ง... สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเดียวกันได้หมดทุกสวนหรอก
เพราะแต่ละสวน เกษตรกรแต่ละท่าน ได้ให้ปริมาณปุ๋ย และชนิดของยาบำรุงที่แตกต่างกันไป.. นั้นเอง
ดังนั้นการวินิจฉัยแบบคร่าวๆ จึงให้ประเมินว่า... ที่ผ่านมา อย่างน้อยที่สุดในช่วง 15-30 วัน เกษตรกร ได้ให้ปุ๋ยชนิดใดไปบ้าง...
จากนั้นต้องประเมินว่า.. น่าจะมีปุ๋ยชนิดใดเหลือตกค้างมากน้อยเพียงใด
ซึ่งปกติปุ๋ยไนโตรเจน หากแดดจัดก็จะสูญเสียไปมาก
และหากฝนตก มีน้ำท่วมขัง และน้ำไหลไปที่อื่นได้ ก็จะสูญเสียได้ง่าย
ส่วนฟอฟอรัส เป็นธาตุอาหารที่ลำไยใช้น้อยมาก จึงเหลือตกค้างเยอะ
ไนโตรเจน และฟอฟอรัส หากมีตกค้างในปริมาณมาก ก็จะยับยั่งการดูดธาตุสังกะสี
เกษตรกรจึงต้องใช้ธาตุสังกะสี ผสมน้ำช่วยพ่นทางใบด้วย
ถ้ามีราดำเกิดขึ้นบริเวณใบ เป็นจำนวนมาก ก็แสดงว่ามีธาตุโพแทสเซียม อยู่มาก.. เช่นกัน
จากนั้น.. เกษตรกรต้องปรับสภาพการให้ปุ๋ย
เพื่อให้ได้อัตราส่วนของธาตุอาหารให้
ไนโตรเจน : ฟอสฟอรัส : โพแทสเซียม
มีอัตราส่วน 1:5:6 หรือใกล้เคียง.. ค่ะ
และหากสำรวจพบร่องรอยการเจาะโคนก้านช่อดอก ของเพลี้ยไก่แจ้ และหนอนเจาะกิ่งลำไย
ก็จำเป็นต้องใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลง ในกลุ่มอิมิดาคลอพิค และแลมด้าไซฮาโลทิน.. ด้วย.. ค่ะ
ดังนั้นการจะให้สรุปว่า...
เมื่อลำไยเกิดภาวะยอดชงักงัน จะแก้ไขโดยใช้ปุ๋ยอะไร.. จึงค่อนข้างยาก
เพราะเกษตรกรไม่มีการจดบันทึกประวัติการบำรุงดูแลต้นลำไย มาให้วิเคราะห์เลย.. ค่ะ
เกษตรกร.. จึงควร จดบันทึก.. ทุกๆ วัน ว่าในแต่ละวัน ให้ปุ๋ย ให้ยา ให้น้ำ อย่างไรกันบ้าง
เพื่อจะได้นำมาเป็นข้อมูล ประกอบการวินิจฉัยสาเหตุ และเลือกแนวทางแก้ไขได้เหมาะสมต่อไป... ค่ะ
ไม่มีความเห็น