ชีวิตคนทำงานกลางทะเล (Offshore @ Gulf of Thailand) ตอนที่ 21 เก่ง ถึก ทน!!! กับชีวิตผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (Assistant Safety Training Officer) ประจำเรือ/แท่นขุดเจาะน้ำมัน (Tender Rig)


สวัสดีค่ะ แรกตั้งใจไว้ว่าจะรีวิวชีวิตการทำงานของพนักงานแต่ละตำแหน่งไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เหมือนเดิมคือนานๆ เขียนครั้ง รีวิวไว้ล่าสุดชีวิตพยาบาล (Medic) ก็ครึ่งปีที่แล้ว กว่าจะเขียนครบทุกตำแหน่ง คิดว่าคงใช้เวลาทั้งชีวิตเป็นแน่

วันนี้ดิฉันมีแขกรับเชิญผู้มากด้วยประสบการณ์ เชี่ยวชาญงานหลายด้านมาแนะนำให้รู้จักค่ะ เป็นพี่ที่น่ารัก ทำงานเก่ง คล่องแคล่ว โคตรแอพทีพ ดิฉันรู้จักพี่คนนี้ตั้งแต่วันที่ลงทำงานเรือน้ำมันครั้งแรก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ 9 ปีแล้วค่ะ ตอนที่รู้จักกันแรกๆ ไม่สนิทกันนะคะ เพราะพี่แกจะดู แรงๆ เงียบๆ ไม่สนใจใคร แต่.....มันมีจุดที่ทำให้เราสนิทกัน ดิฉันจำได้ว่าวันนั้นได้เอาแผ่นหนังซีรีย์ฝรั่งเรื่อง “prison break” มาดูในเรือ ก็เลยให้พี่เค้ายืมดูด้วย ตั้งแต่นั้นมาเราก็เป็นเพื่อนเม้าส์มอยด์กันได้ทุกเรื่อง

ผู้เขียน: แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ เป็นคนที่ไหน จบจากไหน เรียนอะไรมา

พี่มัมมี่: ภูมิเทพ พิณคำ ชื่อเล่นหม่ำ (ฝรั่งเรียกยากเลยตั้งชื่อตัวเองเป็นมัมมี่ 555) พื้นเพเป็นคน จ.แพร่ จบจากโรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ แล้วสอบติดคณะพยาบาลที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผู้เขียน: เข้ามาทำงานในวงการน้ำมันได้อย่างไรคะ ใครแนะนำมา

พี่มัมมี่: ก่อนที่จะเข้ามาทำงานในวงการนี้ ช่วงแรกหลังเรียนจบพยาบาล ก็ทำงานที่ ร.พ. แผนกฉุกเฉินมาตลอด โดยเริ่มต้นที่ ร.พ.หริภุญชัยเมโมเรียล จ.ลำพูน, ร.พ.พญาไท 1 แล้วต่อด้วย ร.พ.กรุงเทพ ซ.ศูนย์วิจัย หลังจากทำงานได้สักพัก ก็ได้รับข้อมูลจากรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ ร.พ. อีกแห่ง ว่ามีการรับสมัครเมดิก (พยาบาลประจำเรือขุดเจาะ) ผ่านบริษัท ISOS หลังจากทราบรายละเอียดคร่าวๆ (คร่าวๆจริงๆ) ก็เลยลองไปยื่นใบสมัครไว้ที่ ISOS แต่ก็ไม่ได้มีการเรียกตัวแต่อย่างใด จึงคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในวงการนี้แล้ว เพราะเกรดเฉลี่ยก็ไม่ได้ดีเด่น พอถูไถจนจบ (ถ้าย้อนอดีตได้จะตั้งใจเรียน จริงๆนะ 555) จนกระทั่ง...พี่นะ ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินคนเก่าที่ ร.พ.กรุงเทพ มาติดต่อเรื่องส่งต่อผู้ป่วยกลับประเทศ (ดำเนินการผ่านทางบริษัท ISOS) แล้วได้มีการพูดคุยแนะนำตัวกันโดยพี่ในแผนก เพราะพี่นะเคยเป็นหัวหน้าแผนกที่ ร.พ.กรุงเทพ มาก่อน หลังจากพูดคุยกับพี่นะได้สักพัก พี่เค้าก็ถามว่าน้องภูมิเทพเคยไปยื่นใบสมัครไว้ที่ ISOS หรือเปล่า? ก็ตอบไปตามตรงว่าเคยยื่นใบสมัครไว้ แต่ก็ไม่เห็นมีใครติดต่อมา พี่นะเลยบอกว่า เค้าหาตัวกันอยู่ เมดิกขาด ต้องการเมดิกด่วนมว๊ากกกกกกกกกกกกก

เบอร์โทรที่ให้ไว้ก็ติดต่อไม่ได้ ยังสนใจที่จะไปทำงานอยู่มั้ย? ก็เลยตอบไปในทันทีว่า “สนใจอยู่ครัชชชชช” (ตอนนั้นมานึกย้อนหลังดู ดันเปลี่ยนเบอร์มือถือหลังจากไม่มีการติดต่อจาก ISOS ไม่นาน) แล้วพี่นะก็เลยติดต่อกลับไปที่ ISOS ว่าเจอตัวแล้วให้ ISOS ติดต่ออีกที พร้อมบอกเบอร์มือถือใหม่ไปให้ (ขอบพระคุณพี่นะจริงๆ ดวงแท้ๆเลยตรู) หลังจากนั้นไม่นานก็มีการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ที่ ISOS กับคุณหมอที่ทำงานที่นั่น สัมภาษณ์ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย จากนั้นก็สัมภาษณ์กับ manager ซึ่งเป็นฝรั่งทางโทรศัพท์เนื่องจากตารางงานเค้าไม่เอื้ออำนวยให้เจอตัวเป็นๆ (สัมภาษณ์ต่อหน้ายังพออ่านปาก นี่สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จะเป็นลม ยิ่งเก่งภาษาอังกฤษมว๊ากกกกกกก ^_^!!!) สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี 555

ผู้เขียน: ทำงานออฟชอร์มาทั้งหมดกี่ปีแล้วคะ แล้วทำตำแหน่งอะไรมาบ้าง

พี่มัมมี่: เกือบ 10 แล้วล่ะ เริ่มต้นจาก Medic 5 ปี, Radio Operator 3 ปี, ตอนนี้ Assistant STO ปีกว่าๆ

ผู้เขียน: คิดว่าชอบตำแหน่งไหนมากที่สุดในบรรดาตำแหน่งงานที่ทำมาทั้งหมด

พี่มัมมี่: จาก 3 ตำแหน่งที่ทำมาที่ชอบสุดก็เป็น ASTO นี่ล่ะ งานเยอะก็จริง แต่มีโอกาสได้เรียนรู้งานด้านอื่นร่วมด้วย รวมถึงการไปสังเกตหน้างานจริงๆด้วยนะ

ผู้เขียน: ช่วยอธิบายคร่าวๆ หน่อยค่ะว่าตำแหน่งงานปัจจุบันที่พี่ทำ มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้างคะ

พี่มัมมี่: ASTO (ที่ริคนี้นะ) มีหน้าที่คอยดูแลเรื่องการอบรมของพนักงานตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะมีการอบรมไม่เหมือนกัน เช็คดูว่าใบเซอร์ใกล้หมดอายุหรือยัง ติดต่อประสานงานเพื่อทำเรื่องส่งไปอบรม นอกจากนี้ก็ยังมีอบรมภายในซึ่งทางบริษัทจะกำหนดมาให้แล้วเราก็อบรมให้พนักงาน

ช่วยบรีฟผู้โดยสารมาริค ตอนครูว์เชนจ์ประจำ ดูแลความถูกต้องในการเปิดใบอนุญาตทำงาน รับส่งเฮลิคอปเตอร์บ้างแล้วแต่โอกาส จัดหาและคอยดูแลส่งเสริมให้พนักงานใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยในการทำงาน ตรวจตราพื้นที่การทำงาน วิธีการทำงาน สอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติการณ์ต่างๆ เข้าร่วมการประชุมประจำ รวมถึงนำการประชุม (เยอะมว๊ากกกก) ตรวจเช็คและเตือนผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ action item ที่ใกล้หมดวาระ ช่วย STO ในการจัดซ้อมมาตรการฉุกเฉิน และช่วยงานตามที่หัวหน้าร้องขอ บลาๆๆๆ (เยอะว่ะ อันนี้ผู้เขียนขอต่อท้ายเอง)

ผู้เขียน: ทำงานกะไหน มีปัญหากับเวลานอนมั๊ยคะ หลังเลิกงานในแต่ละวันทำไรบ้าง

พี่มัมมี่: ASTO ที่ริคนี้ทำงาน 24.00 น. -12.00 น. (เที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน) นำประชุมเวลา 22.45 น. และ 10.45 น. เพราะฉะนั้นกลางคืนก็เลยต้องตื่นมาก่อนเพื่อเตรียมตัว ถ้าต้องมีการสอบสวนกรณีเกิดอุบัติเหตุ ก็ลืมเรื่องกะทำงานไปได้เลย หลังเลิกงานก็จะออกกำลังกายวันละชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ยกเว้นวันอาทิตย์จะหยุดพัก เพราะมีประชุมความปลอดภัยประจำสัปดาห์เวลา 13.00 น. กะทำงาน 24.00-12.00 น. เป็นกะที่ค่อนข้างทรมานมาก เพราะมันตรงกันข้ามกับชีวิตตอนหยุดพักบนฝั่ง (นอนดึกตื่นสาย) มีปัญหาเรื่องการนอนบ้างเป็นบางครั้ง

ผู้เขียน: คิดว่างานมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษของตัวเองมั๊ยคะ

พี่มัมมี่: มีส่วนอย่างมาก เริ่มตั้งแต่สมัยเป็นเมดิกเลยล่ะ มาเหยียบริคครั้งแรกตื่นเต้นมาก ไม่รู้จักอะไรเลย ไม่รู้ว่าเค้าทำอะไรกัน ต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ตัวเองตลอด (จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้หยุด) ยิ่งภาษาอังกฤษยิ่งหนัก ฝรั่งมาแต่ละคน แต่ละสัญชาติ สำเนียงเอย ศัพท์เอย (ยิ่งเก่งอังกฤษอยู่ 555) ช่วงแรกๆก็ต้องเปิดพจนานุกรม เพื่อหาความหมายกันเยอะเลยล่ะ เพราะไม่รู้ว่าเค้าคุยกันเรื่องอะไร ศัพท์ก็เป็นศัพท์เฉพาะ เลยยิ่งทำให้ทักษะการฟัง การแปล การพูด เหมือนเป็นง่อย หลังจากเริ่มรู้ว่าเค้าทำงานกันยังไง อุปกรณ์ใช้อะไร เรียกว่าอะไร ก็เริ่มฟังออก คุยกันรู้เรื่อง (ไม่เมื่อยมือเหมือนเมื่อก่อน 555) พอทำงานไปเรื่อยๆสิ่งที่ได้ตามมาก็คือ ทักษะการฟัง การแปล และการพูดทางภาษาอังกฤษ (ความเห็นส่วนตัว)

ผู้เขียน: คิดว่าอะไรเป็นจุดแข็งหรือเป็นส่วนที่ทำให้เราสามารถทำงานออฟชอร์ได้นานขนาดนี้

พี่มัมมี่: สวย ทน ถึก 555 ก็มีอยู่หลายๆอย่างนะในเรื่องนี้ เช่น ไม่ได้ติดแสงสี สีสัน ของชีวิตบนฝั่ง การใช้ชีวิตที่ค่อนข้างละเอียดและรอบคอบในการทำงาน (ถึงจะมีหลุดบ้างก็เหอะ หึหึ) ตอบสนองได้ตามความต้องการของผู้ร่วมงาน ทัศนคติในการทำงาน และรวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สภาพการทำงาน และสภาพปัญหาที่เราเจอ

ผู้เขียน: ทำงานออฟชอร์มานานเบื่อมั๊ยคะ ชอบอะไร และไม่ชอบอะไรในงานออฟชอร์บ้าง

พี่มัมมี่: ถามว่าเบื่อมั้ย มันก็มีบ้างนะเป็นพักๆ ทำงานกับคนเยอะๆปัญหามันก็มีเป็นเรื่องธรรมดา (ร้อยพ่อ พันแม่ ลูกท่าน หลานเธอ พ่อคุณหลวง แม่คุณหญิง บลาๆๆๆ) สิ่งที่ชอบก็เรื่องได้เจอผู้คนมากมาย ได้ฝึกภาษาอังกฤษของตัวเอง มีช่วงหยุดที่ค่อนข้างแน่นอนตามตารางการทำงาน พัก 4 อาทิตย์ ทำอะไรได้เยอะแยะ ช่วงมาทำงานก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไร ไม่เสียเวลาเดินทางไปกลับช่วงทำงาน (ก็นอนอยู่ที่เรือ จะให้ไปไหนฟระ 555) เงินดีพอสมควร เพื่อนร่วมงานมากหน้าหลายตา ทั้งที่คุยกันรู้เรื่อง ทำงานเข้าขากัน รวมไปถึงพวกพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง มันเป็นสีสันของชีวิต แต่ละริคก็จะเจอคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ไม่ชอบก็อย่างเช่น เวลาในการทำงาน (อันนี้เลือกไม่ได้นี่นา แล้วแต่ลูกพี่ละกันเนอะ) พวกบ้าๆในที่ทำงาน (มีทุกที่แหละ ไปไหนก็เจอ)............ผู้เขียนขอตบท้ายว่า จริงค่ะ

ผู้เขียน: วันหยุดพี่ทำอะไรบ้าง มีงานอดิเรกมั๊ย

พี่มัมมี่: งานอดิเรกเหรอ เดินสายเปลี่ยนที่กินเหล้า 555 ไม่มีงานอะไรประจำช่วงหยุดพัก ส่วนใหญ่จะพักผ่อน อยู่บ้านเล่นเน็ต ออกกำลังกาย ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้างตามโอกาส (ผู้เขียน: จากในรูปมันฟ้องอ่ะว่าแอบไปไกลเหมือนกันนะ)

ผู้เขียน: เคยคิดมั๊ยว่าจะทำงานออฟชอร์ไปอีกนานแค่ไหน

พี่มัมมี่: ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีแพลนอะไร ยังมีความสุขกับการทำงานดี ก็คงทำงานออฟชอร์ไปเรื่อยๆจนกระทั่ง.... วัน เวลา ที่สมควรมาถึง

ผู้เขียน: ถ้าไม่ทำงานออฟชอร์แล้ว อยากจะทำงานอะไรบนฝั่งคะ

พี่มัมมี่: ถ้าไม่ได้ทำงานออฟชอร์ ก็ยังมีงานที่ ร.พ. รองรับอยู่ล่ะนะ ใบประกอบโรคศิลป์ก็ยังมีอยู่ ส่วนงานอื่นคงยังไม่ได้วางแผน แต่อาจจะ.... อาจจะนะ ทำธุรกิจค้าขายล่ะมั้ง

ผู้เขียน: สุดท้าย ช่วยฝากข้อคิด เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ถึงน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่อยากจะเข้ามาทำงานออฟชอร์บ้าง

พี่มัมมี่: จำวันแรกที่คุณมาสมัครงานไว้ให้ดี คุณตอบคำถามอะไรไปบ้าง คุณบอกว่าจะทำอะไรบ้าง พัฒนาศักยภาพตัวเองอยู่เสมอเพื่อเพิ่มโอกาสในการก้าวหน้าของตัวเอง แต่...อย่ามองข้าม หรือละเลยจุดที่คุณอยู่ ณ ตอนนั้น ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และปรับตัวสู้กับปัญหาในการทำงาน ทุกที่มีปัญหาในการทำงาน แตกต่างกันที่รูปแบบ และคุณจะรับมือกับมันยังไง การเปลี่ยนงาน หรือลาออก บางทีก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี

จบได้เริ่ดมากคร๊า ขอบคุณพี่มัมมี่มากๆ นะคะที่ให้เกียรติมาเป็นแขกรับเชิญผู้โชคดี (หรือโชคร้ายก็ไม่รู้) เป็นคนที่สองของบล็อกดิฉัน ลุ้นกันต่อตอนหน้าว่าจะสัมภาษณ์ใครเป็นรายต่อไป

ขอปิดท้ายพูดเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์น้ำมันตอนนี้หน่อยนะคะ เนื่องจากว่าที่ผ่านมามีคนเข้ามาอ่านบล็อกกันเยอะมากๆ มีสอบถามเข้ามามากมาย แล้วก็ขออภัยเป็นอย่างสูงที่แทบจะไม่ได้ตอบกลับเลย เพราะอะไร........ช่วงทำงาน งานยุ่งมากค่ะ ช่วงเวลาพักก็แสนจะขี้เกียจ บางคำถามก็ตอบยากด้วย เช่นถามว่าต้องเรียนอะไร ถึงจะทำงานออฟชอร์ได้ จบด้านนี้ ด้านนั้น ทำงานตำแหน่งอะไรได้บ้าง ดิฉันไม่ได้ทำงานแผนกบุคคลค่ะ ไม่ได้รับสัมภาษณ์คนเข้าทำงาน เพราะฉะนั้นคงให้คำตอบได้ไม่ดีนัก บางคนฝากเบอร์โทรให้โทรกลับ บางคนถึงขั้นมาขอสมัครงานด้วยอีกแน่ะ

วิธีที่ดีที่สุดในความคิดส่วนตัวของดิฉันนะคะ ให้ตามเพจในเฟสบุ๊ค แอดมินเจ้าของเพจจะเอาข่าวงานมาฝากเรื่อยๆ ในนั้นบอกรายละเอียดครบค่ะว่าบริษัทไหนต้องการรับสมัครคนงาน คุณสมบัติต้องเป็นอย่างไร มีที่ติดต่อให้ส่งใบสมัครเรียบร้อย ตอนนี้ดิฉันอยู่ในที่ที่ไม่สามารถใช้เฟสบุ๊คได้สะดวกเลยจำชื่อเพจต่างๆ ไม่ค่อยได้ แต่ที่จำได้อยู่หนึ่งเพจชื่อว่า Oilfield Thailand ซึ่งจากเพจนี้ก็สามารถหาชื่อเพจที่เกี่ยวกับวงการน้ำมันต่อได้อีกค่ะ ลองเข้าไปดูกันได้เลยค่ะ

แต่.............................สถานการณ์น้ำมันตอนนี้ค่อนข้างแย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ราคาน้ำมันตกต่ำขั้นสุดขีด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้ำมันทั่วโลก ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ บริษัทน้ำมันทั่วโลกประกาศตัดลดคนงานกันอย่างต่อเนื่องแล้วก็เป็นจำนวนมากด้วย

บางบริษัทต้องลดโครงสร้างองค์กรให้เล็กลง เพื่อลดค่าใช้จ่าย พยุงองค์กรให้อยู่รอดได้ในสถานการณ์ ณ ตอนนี้ บางบริษัทก็ลดเงินเดือนพนักงาน ตอนนี้ไม่ต้องถามเรื่องเงินเดือนขึ้นเลย แค่ไม่ลดเงินเดือนนี่ก็ถือว่าบุญแล้ว พนักงานบริษัทบางคนต้องอยู่อย่างร้อนๆ หนาวๆ ไม่รู้จะถึงคิวของตัวเองเมื่อไหร่ บอกได้เลย ณ จุดนี้ คนที่ทำงานวงการน้ำมันทั้งบนฝั่งและนอกฝั่งเหมือนเล่นเกมส์โชว์ที่ว่าใครจะถูกโหวตออก ใครจะได้ไปต่อ ส่วนคนที่ไปต่อก็ต้องไปต่อแบบไม่เหมือนเดิม อาจจะเงินเดือนน้อยลง ทำงานมากขึ้น ก็ต้องยอมรับกันไป ถ้าไม่โอเค คุณก็ไปได้เลย ยังมีคนอยากทำงานอีกเยอะ

ที่เล่าๆ มาเห็นมั๊ยละคะว่าโอกาสเข้ามาทำงานในวงการน้ำมัน ณ ตอนนี้เหลือน้อยเหลือเกิน เพราะคนที่ถูกเลิกจ้างยังลอยกันเต็มไปหมด ดิฉันทำงานวงการน้ำมันมาสิบกว่าปี (บนฝั่ง 5 ปี ออฟชอร์อีก 9 ปี) ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นวงการน้ำมันย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่รู้อีกกี่ปีราคาน้ำมันถึงจะดีขึ้น ก็ต้องสู้และมีความหวังกันต่อไป ขอเป็นกำลังใจใหักับคนที่ไม่ได้ไปต่อ และก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่ยังมีที่ยืนอยู่ ณ วันนี้ด้วยเหมือนกันนะคะ พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ บ๊าย บาย

หมายเลขบันทึก: 607623เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2016 11:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กรกฎาคม 2016 08:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ได้ความรู้จากพี่ออ มากเลยค่ะ เรื่องการทำงานขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ สู้ๆค่ะ จะติดตามคอยอ่านแบบนี้ตลอดไปค่ะ

บอกจริงๆ เลยนะคะ คุณ Chopper เท่ห์มากเลยค่ะ

SEAD-SCINE - ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึกและให้กำลังใจค่ะ

ขอบคุณ อ.จันทวรรณค่ะสำหรับคำชม ตัวลอยเลย :)


หนูติดตามเรื่องราวพี่ๆ เกือบทุกโพสต์เลยนะคะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากจะทำงานกลางทะเลมากๆ หนูเรียนพยาบาลค่ะ พึ่งจบหมาดๆเลย ความฝันตอนนี้คือ medic nurse เเต่หนูเป็นผู้หญิง โอกาสมีไหมคะ เพราะมันคือความฝันของหนูเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท