หนังสือ ปาฐกถา ๑๐๐ ปี ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บทที่ ๕ จะต่อสู้กับคอร์รัปชั่นอย่างไรดี โดย ศ. ดร. ผาสุก พงษ์ไพจิตร น่าอ่านมาก เพราะสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันอย่างยิ่ง อาจชมทาง YouTube ที่นี่
วิธีจำแนกคอร์รัปชั่นง่ายๆ คือคอร์รัปชั่นกินเล็กกินน้อย หรือรายย่อย กับคอร์รัปชั่นรายใหญ่หรือเชิงนโยบาย ดังตัวอย่างกรณีคลองด่าน ที่นี่ และกรณีโกงแวต ที่นี่
ในช่วงเวลา ๒๐ ปีที่ผ่านมา ในประเทศไทย คอร์รัปชั่นแบบแรกมีแนวโน้มลดลง แต่คอร์รัปชั่นรายใหญ่ กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ที่น่าตกใจคือ วัฒนธรรมไม่สุจริต หรือ วัฒนธรรมคอร์รัปชั่น ที่ระบาดหนักขึ้น ทำให้เกิดการยอมรับการคอร์รัปชั่น มองเป็นเรื่องปกติ ที่น่ากลัวคือ หากตนมีโอกาสก็จะทำ ความละอายต่อบาปจางไป เพราะไม่มองเป็นบาป
ผลการวิจัยในประเทศไทย เปรียบเทียบมาตรการต่อต้านคอร์รัปชั่นสมัยรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ปี ๒๕๐๒ - ๒๕๑๖ กับสมัยที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ปี ๒๕๒๔ - ๒๕๓๔ พบว่า ของสมัยรัฐบาลจากการ เลือกตั้งเข้มแข็งกว่า เพราะมีกลไกป้องกันต่อต้านคอร์รัปชั่นที่หลากหลาย ดังตัวอย่างชมรมแพทย์ชนบท เปิดโปงคอร์รัปชั่นจัดซื้อยาในกระทรวงสาธารณสุข จนในที่สุดรัฐมนตรีถูกพิพากษาจำคุกหลายปี อ่าน ที่นี่
สรุปว่า การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นงานระยะยาวและต่อเนื่อง ที่ต้องร่วมกันหลายฝ่ายหลายทาง ในเชิงระบบต้องทำให้ระบบตรวจสอบหลายระบบทำงานสร้างความโปร่งใส และทำให้การโกงมีต้นทุนสูง ระบอบที่เอื้อคือระบอบประชาธิปไตย
ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า หัวข้อ ความศักดิ์สิทธิ์ของ อ. ป๋วย และวิธีนำเสนอของ ศ. ดร. ผาสุก เป็นตัวอย่างของวงการวิชาการ ในการทำประโยชน์เชิงชี้นำสังคม อย่างมีข้อมูลหลักฐานตรงไปตรงมา ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม
วิจารณ์ พานิช
๑๓ มี.ค. ๕๙