บทเรียนเศรษฐีจากเด็กอายุ 17
บทเรียนจากเด็กอายุ 17 ปี ที่หารายได้ $30,000 ต่อเดือน
เวลาเด็กๆ อยากได้ของเล่นพวกเขาก็ต้องขอพ่อแม่ โตขึ้นมาหน่อยก็เก็บตังซื้อเอง และถ้าอยู่ในสหรัฐ คุณจะเห็นเด็กวัยรุ่นทำงานตามร้านอาหารเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่ Temper Thompson เด็กวัยรุ่นที่ต้องการหาเงินด้วยวิธีของเขาเอง
Temper เริ่มมีความคิดอยากหาเงินด้วยตนเองตอนอยู่เกรด 8 (ม.2) แต่เขาไม่อยากทำงานร้านอาหารแบบคนอื่น เขาจึงตัดสินใจทำ Online Marketing ด้วยตัวเอง โดยเป้าหมายคือเงิน $100 ต่อเดือน แต่ปัจจุบันเขามีรายได้ถึง $30,000 ต่อเดือน จากการขายหนังสือของเขาใน Kindle Publishing และตั้งเป้าว่าจะต้องไปถึง $100,000 ให้ได้
โดยหลัก 5 ข้อที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะคำพูดเหล่านี้ Temper ก็นำมาจากบุคคลประสบความสำเร็จทั้งนั้น แต่เขาไม่ได้จำเพียงอย่างเดียว เขาลงมือทำด้วย !!
ลงมือทำ (Take Action)
บทเรียนแรกที่ต้องรู้ก็คือ คุณต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง หลายครั้งที่เราเล่นโซเชียล เล่นเน็ต แล้วพบไอเดียที่เราสามารถทำอะไรบางอย่างกับมันได้ แต่ท้ายที่สุดกลายเป็นแค่ความคิดชั่ววูบ แล้วก็หายไป ฉะนั้นเมื่อมีความคิดจะทำอะไร ก็ลงมือทำเลย อย่ารอช้า เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด
นั่นเป็นสาเหตุให้ Temper ลงมือทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเขาทำได้ตั้งแต่เกรด 8
2.ไม่กลัวความล้มเหลว (Don’t Fear Failure)
เมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องสานต่อ ไม่กลัวความล้มเหลว เพราะการเริ่มทำธุรกิจหรืออะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน เป็นสิ่งที่ยากเสมอ Temper ลองผิด ลองถูกกับงานของเขามามากกว่าจะมาถึงจุดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น และไม่ทำซ้ำสอง
3.แน่วแน่ (Stay Focused)
เรื่องนี้ถือเป็นกับดักสำคัญของยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่สิ่งที่เราทำไม่สำเร็จมักไม่ได้เกิดจากความยาก แต่เพราะเราล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน และยิ่งเป็นงานที่ไม่ทำก็ไม่เป็นไร ยิ่งล้มเลิกง่ายมากๆ ฉะนั้น FOCUS ที่แท้จริงคือ Focus One Course Until Successful หรือตั้งใจทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ หากอยากฝึกเล่นกีต้าร์ ก็เล่นให้ได้จนจบเพลง หากอยากหารายได้เสริมก็ต้องตั้งเป้าไปเลยว่าจะเอาเท่าไหร่ ในระยะเวลาเท่าไหร่
4.อยู่ท่ามกลาง คนที่คิดบวก (Surround Yourself with Positive People)
“ถ้าจับคนขี้เกียจ 1 คน ไปอยู่ท่ามกลางคนขยัน 9 คน ท้ายที่สุดคุณจะได้คนขัยน 10 คน” นี่เป็นคำกล่าวเปรียบเปรยที่ได้ยินมานาน และไม่รู้ว่ามีใครเคยลองทำรึป่าว แต่เรื่องเหล่านี้นั้นมีให้เห็นกันในโลกธุรกิจ ไม่ต้องเพื่อนเยอะก็ได้ ขอแค่เพื่อนหนึ่งคนที่คิดบวก และตั้งใจทำอะไรสักอย่าง คุณก็รู้สึกได้แล้ว
พ่อแม่ของ Temper เป็นนักธุรกิจ มีร้านกาแฟหนึ่งร้าน แฮปปี้มีความสุข และไม่ได้ต้องการจะขยายเพื่อเพิ่มรายได้.. แต่ไม่ใช่ Temper เขามีความทะเยอทะยาน เขาอยากโตมากกว่าครอบครัว เขาจึงลงมือทำทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ (โดยไม่ใช้เงินพ่อเม่) แต่สิ่งที่พ่อแม่ของเขามีให้ก็คือ กำลังใจ และคำแนะนำดีๆในการทำธุรกิจ ซึ่งนั่นช่วยเขาอย่างมากในการทำในสิ่งที่คนวัยเดียวกันไม่เข้าใจ
ถ้าคนรอบข้างคุณมีแต่คนคิดลบคอยบอกว่า “อะไรก็ยาก อะไรก็เป็นไปไม่ได้ เลิกทำเถอะ” ในไม่ช้าคุณได้เลิกทำแน่ๆ เพราะฉะนั้นจงแยกให้ออกระหว่างความเห็นที่หวังดี กับ ความเห็นที่เลอะเทอะ
5.อย่าสบายจนขี้เกียจ (Don’t Get Comfortable)
และเมื่อคุณประสบความสำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้ว คุณก็อยากจะหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนก็ทำกัน แต่ถ้าคุณอยากจะก้าวหน้ามากขึ้นในสิ่งที่คุณทำ คุณต้องเพิ่มความท้าทายให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ สาขา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราต้อง Active มากขึ้น โดยหลังจากที่ Temper ตั้งเป้าไว้ $100 ก่อนจะได้ $30,000 ในปีที่ผ่านมา เขาได้เพิ่มเป้ามหายเป็น $100,000 ต่อเดือน และเขาก็กำลังอยู่บนเส้นทางนั้น..
ไม่มีความเห็น