- ขอบคุณ คุณวาสนา มามะณี ที่เข้ามาติดตามบันทึกนี้ครับ
- ผมขอแถมภาพบรรยากาศในภัตตาคารให้ชมอีกรูปครับ
จันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2549 (ต่อ)
เสร็จจากการแสดง มีรถ Bus มารับผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดไปรับประทานอาหารที่ Temujin Resterant ซึ่งอยู่ที่ Ginggis Khan Hotel (Temujin เป็นชื่อสมัยเด็กของ Ginggis Khan)
อาหารกลางวันเริ่มด้วยคล้าย ๆ กับจะเป็นสลัดผัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Root beat (สีแดง ๆ) และCarrot (สีส้ม ๆ) กะหล่ำ (สีขาว-เขียว) นอกจากนี้มีขนมปังชิ้นเล็ก ๆ ไว้กลางโต๊ะอีก 1 ตระกร้าเล็ก ๆ ผมกินทั้งผักและขนมปัง อ้อ! มีน้ำแอปเปิ้ล (Apple Juice) ให้ผมอีกแก้วหนึ่งด้วย ผมกินจนหมด เนื่องจากไม่แน่ใจว่าอาหารจานถัดมาผมจะกินกับเขาได้หรือไม่
อาหารรายการต่อมาเป็น Soup ถั่ว และ Steak เนื้ออะไรสักอย่าง (คงเป็น Beef) ตามลำดับ ผมกินได้เกือบหมดทุกอย่าง ยกเว้น Steak แค่นกินจนเกือบหมดเช่นกัน โดยเฉพาะมันบดที่ให้มาด้วยหมดเลย ข้าวก้อนเล็ก ๆ ก็เกือบหมด เนื้อเหลือนิดหน่อย ยังนึกชมตัวเองเลยว่าเดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะ (เรื่องกิน) เพราะเมื่อก่อนนี้ผมเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย กินได้แต่ของง่าย ๆ ไม่กี่อย่าง เช่น ไข่เจียว ต้มยำ ผัดผัก ก๋วยเตี๋ยว ผลไม้อีกไม่กี่ชนิด นอกจากนี้แทบจะกินอะไรกับเขาไม่ได้ ผมเลยไม่แน่ใจว่าผมเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายหรือไม่ ตอนไปเรียนที่ UK ผมแย่เลยเรื่องอาหาร โดยเฉพาะตอนไปอยู่ใหม่ ๆ ถ้าไม่ได้น้ำพริกเผาที่พ่อและแม่ช่วยกันทำและส่งไปให้เป็นประจำ ความช่วยเหลือจากนักเรียนไทยด้วยกัน และที่สำคัญที่สุดคือภรรยาและลูกชายที่บินตามไปอยู่เป็นเพื่อนช่วยไว้ได้ ไม่งั้นคงเรียนไม่จบก็เรื่องกินง่ายอยู่ง่ายอย่างที่ว่านี่แหละ
Temujin Resterant
หน้าตารายการอาหารวันนี้ครับ
วิบูลย์ วัฒนาธร
.
ถ้ากินอร่อยก็กินเถอะค่ะอาจารย์ แต่ละจานดูน่าทานทั้งนั้น ถ้าเป็นหนูก็คงจเกลี้ยงเช่นกันค่ะ แต่หนูก็ดูแลสุขภาพเช่นกันนะเพราะสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับหนูมาก หนูจะเลือกทานอาหารที่ไม่มีโคเรสเตอรอล ไม่มีไขมัน จนเพื่อนๆ หลายคนบอกว่ากินเหมือนคนแก่ (คนโบราณ)
ขอบคุณอาจารย์วิบูลย์ ที่นำประสบการณ์ดีๆ มาเล่าให้พวกเราฟังค่ะ เหมี่ยวได้ติดตามอ่าน บันทึกของอาจารย์อยู่นะคะ แต่ว่าไม่ค่อยได้เขียน comment ต่อไปนี้จะเขียนให้นะค่ะ อาจารย์จะได้มีกำลังใจ เพราะกำลังจะมี แฟนคลับ ซีรี่มองโกเลียไงคะ
อาจารย์ค่ะ ช่วยให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการสร้างบล๊อก ให้หนูหน่อยนะค่ะ หนูเองก็พึ่งเริ่มสร้างบล๊อกแต่ก็ยังไม่ได้เรื่องสักทำไหร่เลย เพราะไม่รู้ว่าควรจะเรื่องราวประมาณไหนใส่ลงในบล๊อก ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะอาจารย์
ขออภัยทุกท่านด้วยครับที่เข้ามาตอบช้าไปหน่อย
คุณวาสนาเห็นรูปแล้วเข้าใจว่าคงเป็นอาหารที่ look good and taste good ไปหมดทุกอย่าง แต่โดยความเป็นจริงแล้ว ใช่ครับ ทุกอย่าง look very good แต่ทว่า taste ส่วนใหญ่จะ very bad ครับ และผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้สึกเช่นนั้น อาจจะมียกเว้นบ้างสำหรับบางคน เช่น ลูกชายผมเขาอาจจะชอบเป็นส่วนใหญ่เพราะมีโอกาสได้คุ้นเคยมาแต่เด็ก ส่วนเรื่องการสร้าง blog นั้น ผมไม่อยากจะคุย เพราะคุยไม่ได้จริง ๆ ครับ คนที่ช่วยลงบันทึกให้ผมโดยตลอดคือ คุณโอ (รัตน์ทวี) ผมจะขอให้เขาช่วยตอบให้ครับ
เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ครับเวลาไปต่างบ้านต่างเมือง ตัวผมเองเคยอวดเก่ง คิดว่าคนอื่นเขากินกันได้อยู่กันได้ ถ้าเรากินกับเขาไม่ได้ก็น่าที่จะปล่อยให้มันอดตายไปเลย และไม่ควรที่จะต้องเตรียมการอะไรไปเป็นพิเศษให้เป็นที่ยุ่งยาก ผลก็คือ เกือบจะได้ตายจริง ๆ ครับ และทำให้ได้เห็นว่าอาหารไทยเรานั้น โดยเฉพาะ "ข้าว" ที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ มันคือ "ชีวิต" ของเราเลย คนที่ไม่เคยอดข้าว (ต้องกินอย่างอื่นแทน) ชนิดที่ไม่มีจะกินจริง ๆ จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ยากครับ
ขอขอบคุณทุกท่านครับที่กรุณาตามมาให้กำลังใจกัน