ไม่เคยคิดว่าจะอยู่ข้างหนึ่งข้างใด อยู่ในพื้นที่เล็กๆ ของสังคมที่มีความหลากหลายของผู้คนให้เห็นอยู่เช่นกัน แต่ครอบคลุมไปด้วย ความรัก เอื้ออาทร มีไมตรีต่อกัน ดูแลกันตามสภาพ มีโอกาสได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองตามที่สื่อของประเทศนี้จะนำส่งให้ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่มีใครชี้แนะว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรเท็จ อะไรจริง สถานการณ์ต่างๆ ถูกวิเคราะห์จากความรู้และประสบการณ์และเรียนรู้จากสื่อบ้าง ไม่เคยใกล้ชิดสื่อใดเป็นการส่วนตัว วิเคราะห์จากจิตสำนึกล้วนๆ ว่าใครในแวดวงต่างๆของสังคมนี้ พอจะเชื่อถือได้และน่าติดตาม แต่เมื่อเวลาหนึ่งความจริงของสังคมปรากฏ และไม่เป็นไปตามคำบอกเล่าของสื่อ หรือผู้ที่เราติดตาม ความเชื่อถือต่อบุคคลเหล่านั้นก็จะลดลงไปตาม มาถึงวันนี้พอจะสรุปแบบอ้างอิงจาก ประสบการณ์ของตัวเองได้ว่า ไม่มีใครที่จะเชื่อถือได้เต็มร้อย หรือเพียงครึ่งหนึ่งของความจริงก็แทบหาไม่ได้ เพราะฉะนั้น การสื่อสาร ความจริง ภาพลวงตา กับจริยธรรมของผู้มีอาชีพเป็นนักสื่อสาร เป็นเรื่องยากที่คนในพื้นที่เล็กๆอย่างเราจะแยกแยะได้ หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือไม่มีเวลาที่จะมา วิเคราะห์แยกแยะ สิ่งที่ทำได้คือ เชื่อไปตามนั้น เดียวอะไรเป็นอะไรมันก็จะคายตัวของมันออมาเอง สังคมของเราบริสุทธิ์เกินกว่า ที่จะรู้เท่าทัน เล่ห์เหลี่ยม มายา ของการสื่อสาร เรามีชีวิตที่ต้องทำมาหาเลี้ยงครอบครัว มีรายได้แต่ละวันมาเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้ก็มีความสุขมากมายแล้ว
แต่จิตสำนึกลึกๆของคนที่เติบโตมากับสังคมของประเทศนี้ค่อนครึ่งชีวิต พอจะวิเคราะห์และเรียนรู้ว่าใครมีเจตนาอย่างไรกับประเทศนี้ กับสิ่งที่พวกเราเทอดทูนเหนือสิ่งอื่นใด
แสนดีใจ ไม้สะดึง มาบรรเลง
บันทึกเอง คิดเขียนเอง ตามใจนึก
การติดตามด้าน สื่อต้องตกผลึก
ตริ ตรอง ตรึก คว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ)ให้รู้แจ้ง
ขอบคุณ ท่านผู้เฒา วอญา สำหรับกำลังใจ ครับ