ได้นำวิธีการเรียนการสอนสะท้อนคิดมาใช้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดาทารกและผดุงครรภ์ 1 ในส่วนของแผนกห้องคลอด โดยให้นักศึกษาเขียนสะท้อนคิดในวันแรกที่นักศึกษาขึ้นฝึกปฏิบัติเนื่องจากเป็น ward ที่ไม่เหมือนกับที่นักศึกษาเคยฝึกมา มีความเฉพาะเจาะจงและอาจทำให้เกิดความเครียด ดังนั้นในการเขียนสะท้อนคิด จะทำให้อาจารย์เข้าใจนักศึกษา และนำส่วนที่นักศึกษาคิดมาปรับในการจัดการเรียนการสอน และช่วยเหลือนักศึกษาต่อไป อีกส่วนคือการให้นักศึกษาเขียนสะท้อนคิดในส่วนของการทำคลอดครั้งแรก จะช่วยให้นักศึกษาได้ทบทวนการทำคลอด และสิ่งที่ตนเองต้องปรับปรุงในการทำคลอดครั้งต่อไป ซึ่งถือว่าการสะท้อนคิดเป็นวิธีการที่ดีในการสอนภาคปฏิบัติ
นำไปใช้ในรายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาทางจิต
กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 8 คน
สถานที่ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์
วิธีดำเนินการ
สัปดาห์ที่ 1 เมื่อต้องสร้างสัมพันธภาพ กับคนผู้ป่วยครั้งแรก
สัปดาห์ที่ 2 การให้การพยาบาลกับผู้ป่วยจิตเวช
สัปดาห์ที่ 3 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในภาพรวม
สะท้อนคิดโดยการพูดและการเขียนตามโครงสร้าง 6 ขั้นตอน
3.ในระยะแรกเมื่อเจอปัญหาจากการสะท้อนคิด ผู้สอนกลับมาทบทวนเนื้อหาจากการประชุมใหม่
4.ใช้การสะท้อนคิดกับนักศึกษาในสัปดาห์ต่อไป พบว่าการศึกษาต่อเริ่มมีความสอดคล้องมากขึ้นมีการใช้ Reflective ในการ conferrence และเปลี่ยนบรรยากาศเป็นเพื่อนช่วยเพื่อน และผู้สอนมีการเสริมแรงทางบวกให้กับนักศึกษา ส่งเสริมใหเกิดบรรยากาศแห่งการเรียนรู้มากขึ้น
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592008
ทดลองใช้ไม่เต็มรูปแบบในการเรียนการสอนวิชาสร้างเสริมภาคปฏิบัติ
ดิฉัน มีความสนใจและเห็นถึงประโยชน์ของการสะท้อนคิด จึงได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเทคนิคการสะท้อนคิดไปใช้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งทางกลุ่มวิชาได้จัดประสบการณ์เสริมนอกเวล่าให้นักศึกษาได้เรียนโดยใช้วิธีสถานการณ์จำลอง (Simulation Base ) กับหุ่น Simmanและได้นำเทคนิค การสะท้อนคิด ไปใช้ในช่วงของ Debrief ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเรียนแบบSimultion
ได้ทดลองนำไปใช้ในขั้นตอน Debrief ของการสอนโดยใช้ simulation เช่นกัน
ซึ่งคิดว่า การสะท้อนคิดมีประโยชน์ นอกจากส่งเสริมการคิดวิเคราะห์แล้ว ยังช่วย กระตุ้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอีกด้วย
ในการเรียนรู้แบบ simulation ใขขั้นตอนสรุปของการเรียนรู้จากการใช้ sim การสะท้อนคิดจากการเรียนรู้เพื่อการวางแผนการนำไปใช้ใรนรายวิชาต่อไป
เอาไปใช้กับการ conference กรณีศึกษา ดีมากในประเด็นเล่าประสบการณ์ก็ให้เล่าข้อมูลทั่วไปและประวัติการเจ็บป่วย และข้อมูลอื่นๆ ให้เพื่อนๆช่วยตั้งคำถามให้เจ้าของตอบ โดยมีครูช่วย ตามด้วยถามความรู้สึก เทียบกับตำรา ตรงนี้ก็เอาการเปรียบเทียบกับพยาธิสภาพ ถามความรู้ใหม่ทั้งกลุ่ม ถามเจ้าของประเด็นการพัฒนา แนวทางปฏิบัติใหม่หากได้ดูแลผู้ป่วยประเด็นนี้อีก ไม่มีนศ.หลับในเลย คิดว่านศเข้าใจและเข้าสมองมากว่าการนำเสนอแบบเดิมๆมากค่ะ
ยังไม่ได้ใช้งานคะ ขอศึกษาสักระยะคะ
นำมาทดลองใช้กับการฝึกภาคปฏิบัติ รายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1 ณ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง กับ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 ปีการศึกษา 2557 พบว่า ทำให้นักศึกษาได้สะท้อนคิดอย่างเป็นระบบ มีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเองและกลุ่ม สามารถคิดเชื่อมโยงได้มากขึ้น และสามารถนำผลการสะท้อนคิดมาปรับปรุงตนเองและการทำงานของกลุ่มได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นำไปใช้ในการสอนภาคปฏิบัติในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ
๑กับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒ มีความเหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนการสอน
แต่ยังมีประเด็นที่ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้๑. ด้านผู้เรียน
นักศึกษาบางคนเขียนสรุปเนื้อที่อ่านโดยการคัดลอกเนื้อหาแทนการสรุป
หรือวิเคราะห์จากการอ่าน การเขียนไม่มีความต่อเนื่องเท่าที่ควร
ยังไม่เข้าใจวิธีการเขียนหรือโครงสร้างของการเขียนบันทึกการสะท้อนคิด
ดังนั้นควรมีการชี้แจงหรือบอกวิธีการเขียนบันทึกสะท้อนคิดซ้ำ
หรือนำชิ้นงานที่ผ่านมา มาวิเคราะห์สิ่งที่ดีอยู่
แล้วสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม ๒.ด้านผู้สอน
มีการกำหนดประเด็นที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้หลักของรายวิชา
แต่ยังขาดความชำนาญในการตรวจ หรือการประเมิน/ให้คะแนน จากบันทึกการสะท้อนคิด
ดังนั้นควรทบทวนหรือมีเกณฑ์การประเมินประกอบอยู่เสมอเมื่อต้องตรวจบันทึกการสะท้อนคิด
การนำไปใช้ในการสอน
รายวิชา : มโนมติ ทฤษฎีและกระบวนการพยาบาล
กลุ่มเป้าหมาย : นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒
วิธีการ : ให้นักศึกษาชมวิดิทัศน์ หนังจากโฆษณา หลังจากนั้นให้นักศึกษาสะท้อนคิดร่วมกัน
ประเด็นในการสะท้อนคิด : 1. ความต่อเนื่องระหว่างสุขภาพกับการเจ็บป่วย
2. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
3. ผลกระทบจากการเจ็บป่วย
ผลการสะท้อนคิด : นักศึกษาสามารถแสดงเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เห็นจากวิดีทัศน์กับความรู้ทางทฤษฎีได้
ได้นำวิธีการเรียนการสอนสะท้อนคิดมาใช้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดาทารกและผดุงครรภ์ 1 ในส่วนของแผนกหลังคลอด โดยให้นักศึกษาพูดสะท้อนคิดในช่วงทำ Post conference แต่ละวันของการฝึก ว่านักศึกษาได้เรียนรู้อะไรบ้าง นักศึกษารู้สึกอย่างไร จากการดูแลและการสังเกตพฤติกรรมของมารดาหลังคลอดตลอดวันที่ผ่านมา....และวางแผนจะปรับปรุงในครั้งต่อไปอย่างไร
ได้นำมาใช้ในกลุ่มสุดท้ายที่ฝึกแผนกฝากครรภ์ หลังเสร็จสิ้นการฝึกได้ให้นักศึกษาพูดสะท้อนคิดเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติ
นำมาใช้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 1ในแผนก ANC ในช่วง Post conference ว่ามีการเรียนรู้ใน case ไหนบ้าง และได้ดูแลและให้คำแนะนำอย่างไร ร่วมถึงการวิเคราะห์ปัญหาในการพยาบาลของหญิงตั้งครรภ์
-นำมาใช้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 1ในแผนก หลังคลอด ในช่วง Pre-Post conference ว่ามีการเรียนรู้ใน case หรือ ปรากฏการณ์ (phenomenon) หรือ ความอยากร ้ ู(curiosity) ของผู้เรียน
-นำมาใช้ในรายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 ในการทำ Large group PBL หัวข้อ การพยาบาลมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด
ได้นำวิธีการเรียนการสอนสะท้อนคิดมาใช้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดาทารกและผดุงครรภ์ 1 ในแผนกห้องคลอด โดยให้นักศึกษาเขียนสะท้อนคิดในการฝึกปฏิบัติ เนื่องจากเป็น ward ที่ไม่เหมือนกับที่นักศึกษาเคยฝึกมา ดังนั้นในการเขียนสะท้อนคิด จะทำให้อาจารย์เข้าใจนักศึกษา และสามารถนำผลการสะท้อนคิดจากนักศึกษามาปรับในการจัดการเรียนการสอนต่อไป และมีการนำมาใช้ในรายวิชาแนวโน้มและพัฒนาการของวิชาชีพการพยาบาลในการสะท้อนคิดการเรียนการสอนในรูปแบบการจัดสัมมนาในการจัดโครงการการดูแลสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสามารถนำผลการสะท้อนคิดมาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนในปีต่อไป
ใช้ในรายวิชา กรณีศึกษานำมาเป็นประเด็น สะท้อนคิด หัวข้อPIH
จากการเข้าอบรมความรู้จาก ดร. เชษฐา ทำให้รู้ว่า สิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับ การ "สะท้อนคิด" นั้น หลากหลายและแตกต่างกัน สิ่งที่เราเคยทำคือให้มีการสะท้อนคิดตามประเด็นที่กำหนด แต่ไม่ได้มีการหาหลักฐานอ้างอิงหรือหลักฐานเชิงประจักษ์มาใช้เพื่อหาแนวทางพัฒนาการเรียนรู้ตามขั้นตอนที่ ดร. เชษฐาใช้ แต่ ณ วันที่ได้รับการอบรม ได้เห็นพลังและประโยชน์ของการ "ตั้งคำถาม" เพื่อไปสู่การพัฒนากระบวนการคิดและกระบวนการแสวงหาความรู้ของผู้เรียน
ถามตัวเองว่า พร้อมที่จะนำแนวคิดและวิธีการไปใช้ไหม บอกได้ว่ายังไม่พร้อม เพราะครูเองก้อยังขาดทักษะในการคิดและเขียนสะท้อนคิดอย่างเป็นระบบ เคยลองเขียนสะท้อนคิดเอง เกิดอาการ "ไป ไม่เป็น" ไม่รู้จะไปต่อยังไง และเคยตั้งใจที่จะกลับมาพัฒนาตนเองกับ ดร. เชษฐาอีกครั้งในการอบรมระยะที่ ๒ และ ๓ ก้อไม่สามารถทำได้ ด้วยมีภาระงานในช่วงเวลาดังกล่าว
ตอนนี้ ก้อใช้กระบวนการสะท้อนคิดในแบบของตัวเองไป และได้เรียนรู้ว่า เมื่อมีการสะท้อนคิดมากขึ้น เหมือนการทำ before and after action review มากขึ้น มีการพูดคุยกันมาก มองหน้าสบตากันมากขึ้น เราจะเข้าใจกันมากขึ้น ......เข้าใจผู้เรียน และความยุ่งยากที่เขาประสบ เข้าใจและรับรู้ถึงความช่วยเหลือที่เขาอยากได้จากครูเพื่อต่อยอดความพยายามในการเรียนรู้ของเขา ......เข้าใจผู้สอนด้วยกัน ร่วมรับรู้และรับฟังทั้งเรื่องที่ประสบความสำเร็จและเรื่องที่มีความยุ่งยาก
อนาคต อยากพัฒนาตนเองเกี่ยวกับทักษะการตั้งคำถาม เพื่อพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของผู้เรียน เพื่อนร่วมงานและของตนเอง (ประมาณว่า ถามเอง ตอบเอง เพื่อกระตุ้นต่อมเอ๊ะ ของตนเอง)
ได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ก่อนสอบสภาการพยาบาล โดยใช้การสอนแบบ Simulation- Based Learning (SBL) โดยได้นำวิธีการสะท้อนคิด (Reflective thinking) มาใช้ในส่วนของขั้นตอน Debrief ซึ่งเป็นการให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ สร้างความเข้าใจในเนื้อหาส่วนนั้นๆ มากขึ้น
ทดลองใช้ในการฝึกปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วย โดยให้นักศึกษาตั้งคำถามสิ่งที่จะเรียนรู้ และจะทำอย่างไรให้เกิดผลตามสิ่งที่ต้องการ และครูเพิ่มเติมประเด็นที่นักศึกษาไม่ได้เสนอเพื่อให้สอดคล้องตามทักษะที่ต้องได้รับในการดูแลบุคคลแต่ละช่วงวัย