เมื่อเย็นวาน กรณีศึกษา ร. ไม่ได้มาหาผมตามนัดหมาย ผมจึงลองโทรตามดู ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จนกระทั่งลองไลน์ดู ก็มีการสื่อสารเกิดขึ้น
ร: พี่ป๊อปอยู่ไหนหลอคับ!
ผม: เป็นยังงัยบ้าง
ร: ผมตื่นมากลัว สิ้นหวัง และคิดจะฆ่าตัวตาย ตอนนี้ซึมเศร้า คิดฟุ้งซ่านจัดจนทนไม่ไหวแล้ว แทบไม่รู้สึกตัวแล้ว ไม่มีสติอยู่กับปัจจุบันเลย ตอนนี้แทบไม่รู้สึกหรือรับรู้อะไรจากภายนอกเลย นอนไม่หลับด้วย (กลางคืนนอนหลับยาก) ทั้งร่างกายและจิตใจปั่นปวนไปหมด มีแต่ความคิดกับอารมณ์เต็มไปหมด ไร้ซึ่งความรับรู้และจิตวิญญาณ เหมือนความคิดมันเร็วไปหมดจนตัดขาดจากอารมณ์ไปเลย (ความจำต่างๆก็ไปหมด) ส่วนอารมณ์ก็หงุดหงิดทุกข์ใจและเศร้าแสนเศร้า มีโมโหบ้าง เบื่อหน่ายอยากร้องไห้และสิ้นหวังสุดๆ ไม่มีอะไรประสานงานกันเลย (แต่ก่อนทั้งความคิดและอารมณ์มันยังเป็นอันเดียวกัน ไปด้วยกันตลอด ความคิดก็ไม่ได้เร็วจนไม่รับรู้ปัจจุบันเหมือนตอนนี้) บางครั้งความคิดก็ไม่อยู่กับปัจจุบันจนนึกจำไม่ได้ ความรับรู้ปัจจุบันไม่เหลืออยู่เลย ใจลอยหายไปหมด
ผม: น้อง ร. ลองนัดคุยกับคุณหมอ ต. ก่อนมั้ย อาจต้องใช้ยาช่วยครับ วันที่ 4 มิ.ย. มาหาพี่ที่คลินิกกิจกรรมบำบัดก็ได้นะครับ
ร.: หมอ ต. บอกให้เพิ่มยาครับ
ผม: พี่เห็นด้วย เพราะถ้าลองหลายวิธีแล้วไม่ดีขึ้น คงต้องใช้ยาให้ต่อเนื่องนะครับ ทานยาแล้วดูผลการปรับตัวนะครับ ถ้าอยากมาหาพี่...ไว้นัดกันมั้ย
ร.: ครับบๆครับผม
สี่วันต่อมา ผมก็ไลน์ไปคุยกับเคสอีก
ผม: น้อง ร. เป็นยังงัยบ้าง โอเคไหม
ร.: ไม่โอเคครับบ วันนี้ผมคงไปหาพี่ไม่ได้ วันนี้ผมเศร้าจัด ผมกลัวเกินไปที่จะออกไปข้างนอก วันนี้ผมออกไปรู้สึกแย่มาก กลัวไปหมดเหมือนมีคนจะมาทำร้าย เดี่ยวผมโทรไปนะ
เมื่อเคสโทรหาผม...เสียงน้อง ร. พูดไม่ค่อยชัด มีเสียงคำพูดซ้ำๆ เสียงเศร้ามาก สลับกับเสียงหัวเราะ เหมือนเป็นคนละคน
ร.: พี่ป๊อปๆๆ ผมขอโทษๆ รบๆกวนๆ ผมคิดไม่ออกๆๆ นอนไม่ๆๆได้ๆๆ [เสียงหายใจหอบ]
ผม: ใจเย็น น้อง ร. ตอนนี้อยู่กับใคร
ร.: พ่อๆ แม่อยู่ด้วยๆ พ่อๆชอบถามๆ คิดไม่ๆออก ไม่ๆอยากๆให้ๆแม่รู้ๆ
ผม: น้องต้องการคนช่วยฝึก ให้พี่โทรหาคุณแม่นะ
ร.: ผมๆอยากๆคุยกับพี่ๆก่อน
ผม: น้องตั้งสติ ที่เราฝึกกัน หายใจนับ 1-20 ให้พี่ได้ยินนะคนเก่ง
ร.: อืม หายๆใจไม่ออกๆ [เสียงหายใจเข้าออกถี่] หนึ่ง สอง สาม สี่ [เสียงหัวเราะสลับเสียงร้องไห้]
ผม: ตั้งใจนะ น้องต้องทำได้ หายใจ สี่แล้วอะไร
ร.: ...ห้า หก เจ็ด แปด ...เก้า ...สิบ ... [เสียงหัวเราะสลับเสียงร้องไห้]
ผม: ต่อนะคนเก่ง สู้ๆ ครับ สิบแล้วอะไร
ร.: สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม ... สิบสี่ สิบห้า สิบหก ... สิบเจ็ด สิบแปด ... สิบเก้า ยี่สิบ เฮ้ย อืม
ผม: โอเคไหม ดีขึ้นมั้ยครับ
ร.: ผมขอไปล้างหน้าก่อนนะ ดีๆครับบ [เสียงฟังดีขึ้น]
ผมโทรไปคุยกับคุณแม่ของน้องถึงวิธีการเข้าหาด้วยความรักและใส่ใจในการเตือนให้น้องมีสติด้วยการหายใจนับ 1-20 แบบใจเย็นๆและช่วยพาไปหาคุณหมอเพื่อวางแผนการใช้ยาให้ชัดเจนในระยะยาวว่า น้องเค้าจะต้องไปเรียนต่างประเทศตามที่ตั้งใจไว้ด้วยอาการอย่างไรถึงจะหายห่วงครับ
คุณแม่ไลน์กลับมาด้วยคำพูดที่ว่า "ซึ้งใจ ขอบคุณจริงๆ หมอป๊อป"
นี่คือ "การโค้ชในฐานะนักกิจกรรมบำบัดสุขภาพจิตสังคมเป็นครั้งที่สองสำหรับเคสนี้ ก่อนหน้านี้คือ ใช้เสียงด้วยหัวใจมนุษย์พาน้องลุกจากเตียง ขึ้นรถ และไปอยู่ได้แค่หน้าประตูโรงเรียน" น้อง ร. ต้องการคนที่รักและเข้าใจช่วยเป็นเพื่อนฝึกปรับพฤติกรรมให้มีความรู้สึกบวกๆๆๆ อย่างจริงจัง
เมื่อไรประเทศไทยจะมีระบบการทำงานประสานกันระหว่างจิตแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด ผู้รับบริการ และครอบครัว
ดีจังค่ะ คงช่วยให้ผ่อนคลายได้นะคะ
ตามมาให้กำลังใจครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับกำลังใจที่ดีมากๆจากพี่ Nui พี่ขจิต ดร.ธวัชชัย พี่โอ๋ อ.Wasawat พี่นงนาท คุณทิมดาบ คุณครูทิพย์ และคุณวินัย
...เป็นหนึ่งกำลังใจค่ะ
^_^ สู้ๆนะค่ะ
ขอบพระคุณมากครับพี่ดร.พจนา และคุณ aingfar